สวัสดีท่านผู้อ่านทุกอ่านครับผม เมื่อคราวก่อนผมได้นำเสนอวง Pop-Rock 4 สาวจากญี่ปุ่น Scandal ไปแล้ว มันทำให้ผมนึกถึงวง Pop-Rock หญิงล้วนอีกหนึ่งวงที่ได้รับความนิยมสูงมากไม่แพ้กันขึ้นมาทันที ใช่แล้วครับ วงนั้นๆคือ Houkago Tea Time (HTT) นั้นเอง วงนี้ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 สาวที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีความสามารถในการเล่นดนตรีขั้นสูงอีกด้วย อ่ะพูดกันมาถึงขนาดนี้คงอยากจะได้รู้จักกันแล้วใช่ไหม แต่น่าเสียดายนะครับที่วง Houkago Tea Time นั้นเป็นเพียงแค่วงดนตรีสมมุติในอนิเมะเรื่องนึงเท่านั้นเองครับ
“5 สาววงน้ำชาหลังเลิกเรียน”
หากพูดถึงอนิเมะที่เกี่ยวข้องกับดนตรีแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่ามีเยอะมาก มากจนผมเองก็ตามดูไม่หมด เพราะตัวผมก็ไม่ใช่แฟนอนิเมะอะไรขนาดนั้น จนประมาณช่วงปี 2010 ที่ผ่านมาผมได้รู้จักกับอนิเมะเรื่องนึง โดยเกี่ยวกับนักเรียน ม.ปลายสาวญี่ปุ่น รวมตัวกันก่อตั้งชมรมดนตรีเบาขึ้นมา และตั้งวงแสดงสดในงานโรงเรียน จนได้มีโอกาศไปแสดงสดตามที่ต่างๆ โดย Highlight ของอนิเมะเรื่องนี้นอกจากจะอยู่ที่เพลงประกอบที่เพราะจนติดหูทุกเพลงแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยความน่ารักสดใสของตัวละครทุกๆตัวอีกด้วยครับ ยังไม่นับมุขตลกที่ทำให้ยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่องอีกด้วยนะ
“สต๊อปปุ เข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า”
เอาล่ะ เกริ่นกันมาเยอะมาก วันนี้ผมจะมาแนะนำอนิเมะขวัญใจอันดับหนึ่งของใครหลายๆคน “K-ON!” หรือชื่อไทย “เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว” กันครับ เนื่องจากผมเชื่อว่ายังมีเด็กรุ่นใหม่อีกหลายคนที่ไม่เคยดูอนิเมะเรื่องนี้ หรืออาจจะเป็นคนที่ไม่เคยดูอนิเมะมาก่อนเลยก็ตาม K-ON จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจะเริ่มดูอนิเมะครับ และแน่นอนว่ามันเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากๆ สำหรับคนที่คิดจะหัดเล่นดนตรีอีกด้วยครับ
อีกหนึ่งภาพรวมของสาวๆทั้ง 5
K-ON แรกเริ่มเดิมทีแล้วเป็นมังงะ 4 ช่องมาก่อน แต่งเรื่องและเขียนภาพโดย คาคิฟลาย (Kakifly) ลงเป็นตอน ๆ ในนิตยสาร “Manga Time Kirara” ตั้งแต่ช่วงปี 2007 ถึงปี 2010 โดยมังงะเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนบริษัท Kyoto Animation ผลิตมังงะ K-ON เป็นอะนิเมะออกฉายตามช่องโทรทัศน์ ความยาว 13 ตอนโดยออกฉายครั้งแรกในช่วงต้นปี 2009 จบลงในปีเดียวกัน
ด้วยกระแสที่ฉุดไม่อยู่จากการที่อนิเมะ Season แรกได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด ทีม Kyoto Animation จึงได้ผลิต Season 2 ออกมาอีกกว่า 26 ตอน ออกฉายในช่วงเดือนเมษายน 2011 ถึงกันยายนในปีเดียวกัน และนอกจากนั้นยังมีภาค The Movie ออกฉายตามมาอีกในช่วงเดือนธันวาคม 2011 อีกด้วย
คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เนื้อเรื่องหลักๆจะอยู่ที่เด็กสาว 4 คนจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนซากุระงาโอกะ ได้เริ่มก่อตั้งชมรม “keiongaku” ย่อเป็น K-ON หรือชมรมดนตรีเบาขึ้นมา ภายหลังได้ตั้งชื่อวงขึ้นมาว่า “Houkago Tea Time” จนได้สมาชิกรุ่นน้องคนที่ 5 เข้ามาในภายหลัง ตัวละครหลักๆ จะมีดังนี้
แนะนำตัวละครหลัก วงดนตรีเวลาน้ำชาหลังเลิกเรียน (Houkago Tea Time)
ฮิราซาว่า ยุย (平沢 唯 Hirasawa Yui) ให้เสียงโดย Toyosaki Aki
สาวทึ่ม เรียนไม่เก่ง แต่ทว่าหากเธอตั้งใจทำอะไรแล้วจะตั้งใจทำจนสำเร็จ เป็นคนลืมง่ายเมื่อจำอะไรใหม่ได้ ก็จะลืมเรื่องเก่า แรกเริ่มเดิมทีเธอยังเล่นเครื่องดนตรีอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า “เพอร์เฟคพิช” มีความกล้าแสดงออกสูง ความเครียดไม่มีผลกับเธอเลย เธอรับตำแหน่ง Lead Guitar และนักร้องนำประจำวง เครื่องดนตรีประจำตัวเธอคือ กีตาร์ Gibson Les Paul Standard สี Cherry Sunburst โดยเธอตั้งชื่อให้ว่า “กีตะ (Giita)”
อากิยามะ มิโอะ (秋山 澪 Akiyama Mio) ให้เสียงโดย Hikasa Yoko
สาวมาดเท่ สวยแบบเป็นผู้ใหญ่ แลดูน่าพึ่งพาได้มากที่สุด แต่ในทางกลับกันเธอเป็นเด็กที่ทั้งขี้อาย ขี้กลัวทุกอย่าง จนมักจะโดนเพื่อนในวงแกล้งเป็นประจำ เธอเป็นผู้แต่งเพลงเองเกือบทั้งหมดในวง มิโอะได้รับความนิยมมากถึงขนาดที่มีกลุ่มแฟนคลับกันเลยทีเดียว บทบาทของเธอในวงคือมือเบสประจำวง เธอมีความสามารถในการเล่นเบสระดับสูงมาก อีกทั้งเธอยังเป็นผู้แต่งเพลงให้กับวง และยังทำหน้าที่ร้องนำ/ประสานในบางเพลงอีกด้วย เครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Fender Jazz Bass
ไทนากะ ริทสึ (ญี่ปุ่น: 田井中 律 Tainaka Ritsu)
สาวที่มีนิสัยเหมือนผู้ชาย แต่ลึกๆ ยังมีความน่ารักในตัว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับมิโอะตั้งแต่สมัยประถม อีกทั้งเธอยังเป็นคนบังคับลากมิโอะมาเข้าชมรม K-ON อีกด้วย เธอเป็นประธานชมรม K-ON แต่ถึงแบบนั้นเธอก็มักจะลืมเอกสารสำคัญ หรือทำหน้าที่ของประธานตลอด เรียกว่าพอๆกับยูอิเลยทีเดียว เป็นคนคิดอะไรแล้วจะลงมือทำทันที และเป็นคนชวนมิโอะมาเล่นดนตรี เธอเป็นมือกลองประจำวง สไตล์ของเธอคือเป็นมือกลอง Overbass คือไม่ค่อยตีฉาบแคลช สักเท่าไร เครื่องดนตรีประจำตัวเธอคือ Yamaha Hipgig Drumset
โคโตบุกิ สึมุกิ (ญี่ปุ่น: 琴吹紬 Kotobuki Tsumugi)
มุกิจัง สาวสวยลูกคุณหนูประจำตระกูลโคโตบุกิ เธอเป็นลูกสาวของประธานบริษัทที่รวยมากๆ และมีทั้งบริษัทลูกๆ และ บ้านพักตากอากาศมากมายอยู่ทั่วประเทศ ในตอนที่ยูอิไปชื้อกีตาร์ครั้งแรก เธอได้ขอให้ทางร้านลดราคากีตาร์มาให้จนเหลือไม่ถึง 1/4 ของราคาเดิม เธอเข้าชมรมเนื่องจากว่าเธอไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน และเธอก็ยังไม่เคยใช้ชีวิตแบบเด็กสาวธรรมดาๆเลยสักนิด เธอเริ่มเล่นเปียโนครั้งแรกตั้งแต่ 4 ขวบ หน้าที่ในวงของเธอคือเล่นคีย์บอร์ด และแต่งทำนองเพลงให้กับวง อีกทั้งเธอยังรับหน้าที่ชงชา และนำขนมมาให้เพื่อนๆในวงอยู่เสมอ เป็นเด็กสาวที่แข็งแรงมากๆ และยังมีนิสัย “ยูริ” อยู่นิดๆด้วย เครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Korg Triton Extreme 76 Key
นากาโนะ อาซึสะ (ญี่ปุ่น: 中野 梓 Nakano Azusa)
เธอเป็นรุ่นน้องเล็กสุดของวง มีบทบาทเข้ามาในช่วงที่ยูอิขึ้นชั้น ม.5 เธอเข้าร่วมชมรมเพราะประทับใจในการแสดงสดต้อนรับรุ่นน้อง เธอเริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากพ่อกับแม่เธอนั้นได้ทำวง Jazz อยู่ เธอเป็นคนที่จริงจังกับการเล่นดนตรีมาก แต่ก็มักจะโดนรุ่นพี่ทั้ง 4 ชวนไปเล่นจนไม่ได้ซ้อมกันเลย เธอมีฉายาในวงว่า “อาซึเนี้ยว” เนื่องจากว่าเธอนั้นเข้ากับหูแมวเป็นอย่างมาก เธอเข้าร่วมวงในฐานะมือกีตาร์ทำนอง หรือ Rhythm Guitar ของวง และยังเป็นคนที่สำคัญมากๆที่สุดของรุ่นพี่ทั้ง 4 คนอีกด้วย เครื่องดนตรีประจำตัวของเธอคือ Fender Mustang สีแดง
โดยเรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นโดยที่ “ยูอิ” เด็กม.ปลาย ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอนาคตสักเท่าไร ได้เข้าสมัครชมรม K-ON เนื่องจากว่าคิดว่าเป็นชมรมที่น่าจะมีอะไรง่ายๆให้ทำ จนเธอมาพบกับอีก 3 คนที่เหลือ และด้วยการที่เธอเล่นกีตาร์ไม่เป็น เธอจึงจะขอออกจากชมรม แต่ถ้าเกิดชมรม K-ON หาสมาชิกได้ไม่ครบ 4 คน ชมรมก็จะถูกยุบ ทำให้อีก 3 สาวที่เหลือต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ยูอิเข้าชมรมให้ได้
หลังจากได้ฟังการเล่นดนตรีของทั้ง 3 คนไปแล้ว ยูอิได้ตัดสินใจเข้าชมรม K-ON ในฐานะมือกีตาร์ โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มจากจุดนี้ ตั้งแต่เริ่มหาเงินชื้อกีตาร์ตัวแรก เริ่มหัดเล่น และได้แสดงสดที่งานโรงเรียน จนไปถึงเวทีนอกโรงเรียน และในระหว่างตอนนั้นเราจะได้เห็นการใช้ชีวิตของสาวๆทั้ง 4 รวมไปถึงมุขตลกที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะ รวมไปถึงประเด็นการดราม่า และปัญหาต่างๆที่สาวๆทั้งหมดจะต้องฝ่าฟันไปให้ได้ และด้วยการที่ตัวละครหลักทั้งหมดมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป มันจึงทำให้ผู้ชมได้รับรสชาติใหม่ๆตลอดการรับชมอนิเมะเรื่องนี้ตลอดเวลาครับ
เพลงประกอบระดับเทพ
“ไปฟังเพลงของพวกเรากันเลย !!!”
อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดเลยของอนิเมะเรื่องนี้เลยคือเพลงประกอบครับ ด้วยการที่มันเป็นอนิเมะเกี่ยวกับวงดนตรี แน่นอนว่าเราก็ต้องได้ฟังเพลงจากอนิเมะเรื่องนี้แน่ๆ และขอบอกเลยว่าแต่ละเพลงที่ออกมานั้น ได้รับความนิยมสูง ออกแผ่น Single มาก็ขายกันหมดแล้วหมดอีก จนถึงขั้นเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ที่จัดมาสำหรับอนิเมะเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยในงานจะให้สาวๆ นักพากย์ทั้งหมดมาแต่งคอสเพล์ตามตัวละครของตัวเอง และขึ้นแสดงสดบนเวทีที่ท่ามกลางแฟนมากมายหลายพันชีวิต
แน่นอนว่าการแสดงพวกนี้ มันก็เป็นเพียงแค่การแสดงให้นักพากย์ทั้ง 5 ถือเครื่องดนตรีตามอนิเมะไม่ได้เล่นจริงๆ แต่ยังคงร้องสดๆให้คนดู แต่ Highlight ของงานมันอยู่ที่มีช่วงพิเศษที่สาวๆทั้ง 5 นั้นได้เล่นดนตรีเองจริงๆ และร้องสดเองจริงๆอีกด้วย (OMG) เรียกได้ว่าเหมือนได้เห็นตัวการ์ตูนหลุดออกมาในโลกจริงๆเลยทีเดียวครับ
เอาล่ะกลับมาเรื่องเพลงกันก่อน อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนแรกว่าสไตล์ของวง HTT นั้นจะเป็นเพลงแนว Pop/Rock โดยถ้าพูดกันจริงๆแล้วเพลงประกอบอนิเมะเรื่องนี้ส่วนมากเป็นผลงานจากนักแต่งเพลงระดับเทพ และทีมงานเก่งๆทั้งนั้น
เริ่มจากคุณ Hiroyuki Maezawa ที่เคยแต่งเพลงให้กับ AKB48 มาแล้ว รับหน้าที่แต่งเพลงเกือบทั้งหมดในเรื่อง คุณ Sachiko Oomori ที่รับหน้าที่แต่งเพลงเปิด และเพลงปิด ให้กับอนิเมะ Season 2 รวมไปถึง Hiroyuki Takahashi โปรดิวเซอร์เกมชื่อดังที่มีผลงานโดดเด่นด้านการดูแลกำกับเพลงประกอบเรื่องอีกด้วยครับ
เริ่มต้นกับเพลงที่ผมว่ามันน่าจะดังที่สุดในอนิเมะเรื่องนี้แล้วล่ะ Fuwa Fuwa Time หรือชื่อไทยว่า “ช่วงเวลาที่ฟูนุ่ม” แหม่ะแค่เห็นชื่อเพลงอาจจะนึกถึงเพลง Pop ใสๆหวานๆ ใช่ไหมล่ะครับ แต่พอเปิด Intro มาก็ขึ้นด้วย Power Chord 3 คอร์ดหลักๆ พร้อม Distortion แล้ว ยังมีไลน์เบสที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก และท่อน Solo กลางเพลงที่ออกแบบมาได้ดี ใครจะไปคิดว่าเนื้อเพลงโคตรหวาน กับ ดนตรี Rock มันจะเข้ากันได้ขนาดนี้ล่ะ
มาต่อกับเพลงนี้กันบ้าง Curry Nochi Rice เพลงที่มีไลน์เบสโคตรโหดกระโดดดีด พร้อมกับจังหวะกลองแบบ Double Bass ทั้งเพลงสุดมันส์ เสียงคีย์บอร์ดที่สร้างเมโลดี้ได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Solo ท้ายเพลงที่ทำได้ดีจนเครดิตของเพลงนี้น่าจะอยู่ที่คีย์บอร์ดเป็นหลัก สำหรับกีตาร์ที่ผมรู้สึกว่าบทบาทจะค่อนข้างน้อยไปนิดนึง ด้วยการวน Power Chord ไปมาซ้ำๆทั้งเพลง แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมันส์ตามสไตล์ Pop / Rock อยู่ครับผม
มาถึงเพลงเบาๆกันบ้าง กับเพลง Watashi no koi wa Hocchikisu หรือชื่อไทย “ความรักของฉันคือที่เย็บกระดาษ” เพลงนี้สิ่งที่ผมชอบมากๆน่าจะเป็นเรื่องการร้องคู่ Duo กันระหว่างยูอิ และ มิโอะ ด้วยโทนเสียงที่ต่างกันแต่กลับเข้ากันได้เป็นอย่างมาก (ทำเอาผมนึกถึง ฮารุนะกับโทโมมิ จาก Scandal แต่สลับเครื่องดนตรีกัน) ในส่วนของเรื่องดนตรีและทำนอง ที่โดดเด่นเป็นพิเศษผมมองว่าน่าจะเป็นเรื่องเมโลดี้ ที่คีย์บอร์ดได้คุมโทนของเพลงเอาไว้ได้ทั้งเพลง และ Chord Progression ของกีตาร์ที่ถ้าเอาไปเล่นกับ Acoustic Guitar ก็จะกลายเป็นอีกเพลงนึงได้เลยครับ
มาถึงเพลงที่ผมชอบมากที่สุดกันบ้าง U&I เพลง Pop-Rock 100 Tempo สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือการทำงานของกีตาร์คู่ในเพลงนี้ครับ เปิดมาด้วย Riff Intro ที่โดดเด่นทั้ง Lead และ Rhythm ตามมาด้วยท่อน Verse และ Pre-chorus ที่เร้าอารมณ์คนฟังได้ดีจนเกือบจะถึงขีดสุด พอเข้าท่อน Chorus-Bridge มันก็ทำให้คนฟังถึงจุดสุดยอดทันที (หืม) ท่อน Solo ที่เข้าใจได้ง่าย เล่นได้ง่าย แต่มีพลังเป็นอย่างมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือ เนื้อเพลง ที่มันเป็นเพลงรักชนิดนึง แต่พอเอามาใส่ทำนองแบบนี้เข้าไป มันก็เข้ากันมากๆเลยล่ะ
เนื่องจากด้วยหน้ากระดาษที่มีน้อย ? (มุกซ้ำจากบทความอื่นอีกแล้ว! – บก.) ผมจีงพยายามจะเลือกเพลงที่มันน่าสนใจที่สุดมาลงให้ได้ พอมาถึงเพลงสุดท้าย ก็เลยว่าอยากจะลงเพลงที่มาจากอนิเมะภาค The Movie สักหน่อย “Samidare 20 Love” เพลงนี้เคยโผล่ขึ้นมาในอนิเมะ The Movie แต่จริงๆแล้วมันอยู่ในอัลบั้มรวมที่ 2 ของสาวๆมาตั้งนานแล้วแล่ะ จุดเด่นของเพลงนี้เลยก็หนีไม่พ้นเสียงเบสที่โดดเด่นเป็นพิเศษ มาพร้อมกับเสียงร้องของมิโอะจัง หรือคุณ Hikasa Yoko ที่รับหน้าที่เป็นนักร้องนำทั้งเพลง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะมีหลายๆคนเลยล่ะที่ชอบเสียงของคุณโยโกะมากเป็นพิเศษ
จริงๆนอกจากนี้ยังมีอีกหลายเพลงที่ผมไม่ได้นำเสนอเยอะมากเลยครับ ทั้งเพลง Fude Pen Boru Pen, Gohan Wa Ozaku, Pure Pure Heart และอื่นๆอีกมากมาย ยังไม่รวมเพลงเปิด เพลงปิดประจำ Season โดยหนึ่งในนั้นก็น่าจะเป็นเพลงสุดดังอย่าง Don’t Say Lazy ขับร้องโดย Hikasa Yoko ที่วง Rock 4 สาว Scandal ได้นำเอามา Cover ในงานคอนเสิร์ตด้วยล่ะครับ ยิ่งด้วยภาพลักษณ์ของวง Scandal เองด้วยแล้ว ทำให้หลายๆคนที่เป็นแฟนทั้ง 2 วงนี้พูดกันเป็นเสียงเดียวเลยว่า “Scandal is real HTT” กันเลยล่ะ
“สาวๆเหล่านี้รอพวกคุณอยู่ใน K-ON!! “
เอาล่ะ ทิ้งท้ายบทความสักนิด อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนแรกว่าไอเดียการเขียนบทความแนะนำอนิเมะเรื่องนี้นั้นมันมาจากตอนที่ผมเพิ่งเขียนบทความแนะนำวง Scandal เสร็จ ตัวผมเองก็ดู K-ON จบไปนานหลายปีมากแล้ว และปฏิเสธไม่ได้จริงๆครับว่า เมื่อไรที่ผมเห็น HTT ผมก็จะนึกถึง Scandal เสมอ และเมื่อไรที่ผมเห็น Scandal ผมก็จะนึกถึง HTT เสมอครับ