ใครจะไปคิดล่ะเนอะ ว่าอีแค่แซนด์วิช 1 ชิ้น จะกลายเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าประเทศออสเตรเลีย แต่กว่าจะรู้ก็สายไปแล้ว สำหรับสาวน้อยคนนี้ ที่หลังจากไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน พอจะกลับบ้านที่ออสเตรเลีย ก็โดนค่าปรับแพงหูฉี่ 2,664 เหรียญ เทียบเท่าเงินไทยก็ 95,xxx บาท เพราะเพียงแค่เธอลืมไปว่ามีแซนด์วิชอยู่ในกระเป๋า แล้วลืมกรอกในรายชื่อสิ่งของต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร
สาวดวงซวยรายนี้มีนามว่า เจสซิก้า ลี (Jessica lee) เธอโพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ความซวยของเธอผ่านทาง TikTok เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เธอแวะซื้อแซนด์วิชความยาว 1 ฟุตจาก Subway ร้านแซนด์วิชชื่อดังในสนามบินที่สิงคโปร์
“มันเป็นความสะเพร่าของฉันเองแหละ แบบว่า ฉันซื้อแซนด์วิช 1 ฟุตจากร้าน Subway ที่สนามบินในสิงคโปร์ เพราะว่าฉันหิวมากหลังจากที่บินอย่างยาวนานมา 11 ชั่วโมง ทางร้านแบ่งมาเป็น 2 ชิ้น ชิ้นละ 6 นิ้ว ฉันกินไปแล้วชิ้นหนึ่ง แล้วก็เก็บอีกชิ้นไว้เผื่อกินตอนบินไฟล์ต่อไปที่ไม่น่ารื่นรมย์นัก”
จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะกินบนเครื่อง แต่เจสซิก้าก็ลืมกินไป แล้วลืมไปด้วยว่ามีแซนด์วิชอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอ ทำให้เจสซิกาไม่ได้เขียนว่ามีแซนด์วิช 1 ชิ้น รวมอยู่ในสิ่งของต้องสำแดงต่อด่านกรมศุลกากรของออสเตรเลีย
“ฉันเข้าใจว่าสิ่งของที่อยู่ในรายการต้องสำแดงก็คือสัมภาระต่าง ๆ ที่หอบหิ้วมา และกระเป๋าเดินทาง อะไรแบบนี้ ฉันไม่คิดหรอกว่าจะต้องติ๊กเนื้อไก่ กับผักกาด อยู่ในรายชื่อสัมภาระต้องสำแดงด้วย เนื้อไก่กับผักกาดเนี่ยนะ ! “
พอเล่าถึงตรงนี้ เจสซิก้าก็หยิบใบสั่งพร้อมค่าปรับโชว์ให้กล้องดู
“นี่ไงค่าปรับงาม ๆ 2,664 เหรียญ ที่่ฉันจะต้องจ่ายภายใน 28 วัน”
เจสซิกายังบ่นอุบอีกว่าเธอจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย เพราะเธอเพิ่งลาออกจากงานเพื่อไปเที่ยวทริปนี้มา แล้วยังมีค่าเช่าห้องต้องจ่ายอีกด้วย ค่าปรับแพงหูฉี่ขนาดนี้ทำเอาเธอตกที่นั่งลำบากแล้ว
หลังจากเจสซิก้าโพสต์คลิปนี้ไป ก็มีชาวติ๊กต็อกมาคอมเมนต์กันมากมาย มีคนหนึ่งบอกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนก็โดนแค่ตักเตือนนะ แต่ไม่โดนปรับ เจสซิก้าก็ตอบกลับไปว่า เธอได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ แล้วว่าทำไมทีบางคนไม่โดนปรับ เธอก็ได้คำตอบว่าชาวต่างชาติบางคนมีปัญหาเรื่องภาษา ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษถ่องแท้ เลยทำให้เข้าใจผิด
“แต่เพราะว่าฉันเป็นคนใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ฉันก็เลยต้องโดนปรับซะงั้น”
พอคลิปของเจสซิก้ากลายเป็นไวรัล ก็ทำให้โฆษกของ กรมวิชาการเกษตร ประมง และป่าไม้ (Department of Agriculture, Fisheries and Forestry) ต้องออกมาชี้แจงเหตุผลว่า การดำเนินการสั่งปรับสูงถึง 2,664 เหรียญ นั้นจะใช้ในกรณีที่นักเดินทางมีความผิดในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพ ด้วยการไม่สำแดงสัมภาระต้องห้าม หรือมีความตั้งใจสำแดงรายการผิดจากความเป็นจริง
“เนื้อและผักทุกประเภทจำเป็นต้องระบุไว้ในแบบฟอร์มผู้โดยสารขาเข้า แล้วที่สำคัญนะครับ ทุกสายการบินจะเปิดคลิปวิดีโอที่พูดถึงระเบียบข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยเกี่ยวกับพืชและเนื้อสัตว์ ในช่วงก่อนที่เครื่องจะแลนดิ้ง เราจะไม่เปิดวิดีโอนี้ในช่วงระหว่างไฟลต์ เพราะผู้โดยสารบางคนจะหลับแล้วจะไม่ได้ดู ในวิดีโอนี้จะเน้นย้ำว่าผู้โดยสารจะต้องสำแดงอาหารและส่วนประกอบต่าง ๆ ต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ หรือไม่ก็ทิ้งไว้บนเครื่องก็ได้”
โฆษกของทางกรมฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าก็ยังมีโปสเตอร์แปะไว้ตลอดทางคอยย้ำเตือนว่า ผู้โดยสารจะต้องสำแดงสัมภาระที่เป็นอาหารต่อเจ้าหน้าที่หรือไม่ก็ทิ้งลงถังขยะเสียก่อน
ในตอนท้ายคลิปของเจสซิก้า เธอฝากถึงผู้คนที่ได้ดูคลิปของเธอว่าถ้าเมื่อใดจะต้องเดินทางมาออสเตรเลีย ก็จงระวังอย่าได้พลาดเหมือนเธอ