[รีวิว] My Name : แอ็กชันมันหยด บู๊ระห่ำจนวินาทีสุดท้าย
Our score
9.8

[รีวิว] My Name : แอ็กชันมันหยด บู๊ระห่ำจนวินาทีสุดท้าย

จุดเด่น

  1. การพลิกบทบาทของ ฮันโซฮี ในครั้งนี้ทำเอาทึ่งและต้องปรบมือให้เธอจริง ๆ
  2. บรรยากาศหนังฮ่องกง แก๊งนักเลงแทงกันเลือดสาด ฉากบู๊มันมาก สนุก ตื่นเต้น สะใจสมศักดิ์ศรีซีรีส์แอ็กชัน-นัวร์
  3. เพลงประกอบเพราะทุกเพลงจนต้องหามาฟังซ้ำ แสงสี มุมกล้องเข้าง่ามไม่ขัดตา
  4. จุดเด่นสุด ๆ ของเรื่องนี้คือ ตัวเองเป็นผู้หญิง

จุดสังเกต

  1. บทไม่ได้ฉีกไปจากหนังแอ็กชันแนวนี้ เป็นเส้นเรื่องสั้น ๆ ที่ขายงานแอ็กชันโชว์ฝีมือการแสดงของ ฮันโซฮี เน้น ๆ
  2. สายสุขนิยมหนีไปได้เลยค่ะ งานนี้มีพระเอก-นางเอกและมีเศร้าแบบ ร้องกรี๊ด
  • ความสมบูรณ์ของบท

    9.0

  • คุณภาพนักแสดง

    10.0

  • คุณภาพการเล่าเรื่อง

    10.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    10.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    10.0

หากใครเคยดูหนังแอ็กชันฮ่องกงที่บรรดาแก๊งมาเฟียต่าง ๆ ต่อสู้กันด้วยหมัดและมีด ไล่ฟันไล่แทงกันฉึบฉับ เลือดสาด สะบักสะบอม คุณจะได้เห็นสิ่งนั้นบน My Name ซีรีส์แนวแอ็กชัน-นัวร์เรื่องนี้ เพราะตัวเอกที่สะบักสะบอมชนิดที่เจ็บเป็นแต่ฮึบไว้ ทนทายาดและกัดฟันสู้กับฝั่งตรงข้ามด้วยตัวคนเดียว ลุยเดี่ยวไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงร่างบางหน้าตาสะสวย ที่ชื่อว่า ‘ยุนจีอู’ 

My Name

เรื่องนี้ฮันโซฮี รับบทเป็น ยุนจีอู สมาชิกแก๊งดงชอน แก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่แฝงตัวเข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ในกรมตำรวจ เพื่อสืบหาคนที่ฆ่าพ่อของเธอแล้วปลิดชีวิตมันซะ เธอได้รับการเสี้ยมสอนจาก ‘ชเวมูจิน’ (พัคฮีซุน) หัวหน้าแก๊งดงชอน ผู้ที่ฝึกให้เธอกลายเป็นสายบู๊ในโลกมืดที่ไม่สะทกสะท้านกับความเจ็บปวด ระหว่างที่เธอเดินหน้าเพื่อแก้แค้น เธอได้พบกับ ‘จอนพิลโด’ (อันโบฮยอน) ตำรวจสายสืบในหน่วยสืบสวนยาเสพติดที่เป็นคู่หูของเธอ จนได้พบกับความจริงอันโหดร้ายที่ทำให้เขากลายเป็นแสงสว่างเพียงน้อยนิดในชีวิตของเธอ

สลัดคราบฮันโซฮี

เรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทครั้งแรกของ ฮันโซฮี จากเมียน้อยใน A World of Married Couple จากนักศึกษาที่มีความรักบนความสัมพันธ์เป็นพิษใน Nevertheless กลายเป็นยุนจีอู หญิงสาวที่ใช้ความแค้นเป็นแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตอยู่ ซึ่งการล้างแค้นทำให้เธอต้องละทิ้งตัวตนที่แท้จริงเพื่อปลอมตัวเข้าไปเป็นสายลับของแก๊งค้ายา เปลี่ยนชื่อและสร้างตัวตนใหม่ในฐานะสายสืบโอฮเยจี ที่อึด ถึก ทนยิ่งกว่าชายอกสามศอก

My Name

บอกเลยว่าเรื่องนี้ฮันโซฮีสลัดคราบนางเอกที่เราเคยเห็นในเรื่องอื่น ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะงานนี้เธอมาในแบบสะบักสะบอม มีเมกอัปเป็นคราบเลือดและบาดแผลทั่วเรือนร่าง สวมบทบาทเป็นสาวที่มีความหวังอยู่ที่การแก้แค้นให้พ่อผู้จากไป มุ่งมั่นสุด ๆ และตั้งใจไปหยุดอยู่ที่การหาฆาตรกรให้เจอและฆ่ามันให้ได้ การที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้การแก้แค้นเป็นเป้าหมายอย่างเดียวในชีวิต เรียกได้ว่าชีวิตนี้อยู่ได้ด้วยความแค้นเพียว ๆ ไม่มีมุมอื่นเข้ามาแหยม 

My Name

เป็นการเดินหน้าสู้เพื่อบรรลุเป้าหมาย ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้ไร้หัวใจซะทีเดียว เราจึงจะได้เห็นนางเอกที่บู๊เลือดเดือด หน้าตายและไม่อยากยิ้ม จนผู้ชายทั้งเรื่องสามารถลืมไปได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิง เตะต่อยไปเลยจ้ะ เอาให้เต็มที่เพราะเธอก็จะไม่ยอมรามือให้ใครเด็ดขาด งานนี้แฟนคลับหนังบู๊ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะคิวบู๊ต่าง ๆ ที่ประเคนมาในทุก ๆ ฉากนั้นมันพ่ะย่ะค่ะ ทำเอาเลือดในกายพลุ่งพล่าน ผสมกับความอึดอัด ลุ้นระทึกเพราะเอาใจช่วยนางเอกตลอดเวลา

My Name

ซึ่งฮันโซฮีก็สวมบทบาทนี้ได้อย่างเด็ดขาด สีหน้าแววตาบ่งบอกชัดเจนเลยว่า ผู้หญิงคนนี้หาความสุขในชีวิตไม่ได้เลยเพราะชีวิตของเธอมีแต่ความแค้นอยู่เต็มอก ทุกนาทีจมอยู่กับความทุกข์ ไร้สิ่งบันเทิงใด ๆ มาทำให้ชีวิตสดใส มืดมนสิ้นดีอ่ะจ้ะชีวิตนี้ เป็นเส้นเรื่องเดี่ยว ๆ ที่พุ่งเป้าไปที่การแก้แค้นของนางเอก และการลิ้มรสความเจ็บปวดจากความไว้ใจคนผิดที่เรารู้แต่นางเอกไม่รู้ เรียกได้ว่าไม่ต้องเดาตัวร้ายคนดูก็เห็นอยู่โต้ง ๆ จากประสบการณ์ของการดูหนังแอ็กชันแนวนี้มามากมาย ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วละว่ามันคือใคร แต่สิ่งที่จะลุ้นไปกับเธอก็คือ เมื่อเธอรู้แล้วเธอจะจัดการกับมันยังไงและดื่มด่ำไปกับฉากแอ็กชันที่ไม่ห่วงสวยของฮันโซฮีกันให้เต็มปอด ก็คุ้มแล้วที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้

ซีรีส์แนวล้างแค้นที่มีบ่อเกิดจากความแค้น

ถึงแม่ว่าบทในเรื่องนี้ดูเผิน ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากหนังเจ้าพ่อที่ฟัดกัดไม่ปล่อย ตัวเอกตัวร้ายสู้กันชนิดที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด ฟัน แทง ยิงไม่ยั้ง ไอ้ที่ตายก็คือตาย ไอ้ที่ไม่ตายก็ทนทายาด แบบว่า โอ้ยยยย อึดเกินไปแล้ว แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ ซูเปอร์อึดในเรื่องนี้คือ ‘นางเอก’ ที่พกชีวิตบัดซบไว้กับตัวตลอดเวลา เราจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า อะไรวะก็พ่อเธอเป็นอาชญากรนี่นา การที่จะถูกเก็บมันก็ถูกแล้ว แต่ถ้าเราเข้าใจถึงสาเหตุเราก็จะเชื่อได้ไม่ยากและยิ่งดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะสงสารนางเอกจับหัวใจ เพราะชีวิตของเธอมันช่าง บัดซบยิ่งนัก

My Name

บ่อเกิดของความแค้นและเหตุผลในการล้างแค้นได้จุดประกายมาจากการที่ ยุนจีอูเห็นพ่อของเธอตายไปต่อหน้าต่อตาตั้งแต่เธออายุยังน้อย คือเด็กมากและเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจเหตุผลใด ๆ ไปหาตำรวจก็ไม่มีตำรวจคนไหนอยากจะช่วยเหลือตามหาคนร้ายให้ เพราะพ่อของเธอเป็นอาชญากร สุดท้ายที่พึ่งหนึ่งเดียวก็คือชเวมูจินเพื่อนของพ่อที่เป็นหัวหน้าแก๊งดงชอน ที่ปั้นเด็กมัธยมคนหนึ่งให้กลายเป็นสายลับที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างเลือดเย็น

บทง่าย ดำเนินเรื่องโดนใจ

ด้วยความที่เป็นซีรีส์ 8 ตอนจบ ก็ต้องบอกว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่กระชับจนเราอยากตามติดให้จบให้ได้ในเวลาอันสั้น ผู้เขียนดูสองวันจบเลยค่ะงานอื่นไม่ต้องทำกันแล้ว นั่งดูฮันโซฮีนี่แหละ ด้วยความอยากรู้และที่แน่ ๆ ก็คือด้วยความมันในอารมณ์กับฉากแอ็กชันดุเดือดเลือดพล่าน เห็นสาวแกร่งเป็นไม่ได้ใจมันจี๊ด ผสมกับซาวด์ประกอบที่บอกความรู้สึกของแต่ละฉากได้แบบเข้าถึง สร้างเสน่ห์ให้กับเรื่องนี้ไปอีกขั้น และที่แน่ ๆ คือเพราะมาก ๆ จนต้องหามาฟังต่อนอกรอบ ไปหาฟังเอาเลยจ้ะเพราะทุกเพลงจริง ๆ

My Name

บทเขียนให้นางเอกเรื่องนี้ไม่ได้แกร่งเกินพิกัด แต่ความอึดนั้น ประหนึ่งว่ากินแรดเข้าไปสามตัวเลยทีเดียว ก็อึดป๊ายยย คิวบู๊ต่าง ๆ เอื้อให้นางเอกสามารถต่อกรกับผู้ชายทั้งหลายในเรื่องได้ด้วยความฉลาดสู้ จู่โจมเฉพาะจุดสำคัญและว่องไวจนรู้สึกว่าลีลาในการฟาดฟันพอเหมาะพอเจาะ ทำให้เส้นเรื่องสั้น ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากการตามล้างแค้น ชีวิตบัดซบและการถูกหลอกใช้ มีไว้เพื่อให้นางเอกได้บรรเลงเพลงบู๊อย่างมีเหตุผลรองรับ เรียกว่าหาเรื่องขายคิวบู๊่ของนางเอก ว่างั้นเถอะ ก็ขอชมฮันโซฮีอีกแล้วว่าเล่นคิวบู๊ได้ละเอียด เนียนตาเอามาก ๆ ไม่เกิดความขัดหูขัดตา ไม่เกิดความรู้สึกว่าเวอร์วังเกินเบอร์ใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่เธอตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างกำยำทั้งเรื่อง

ดราม่าในซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเล่นกับความไว้ใจ การหักหลัง การหลอกใช้ ตัวละครมีความเจ็บปวดที่ยึดเอาเป็นเหตุผลในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่มีช่องว่างของความกระชุ่มกระชวยเพียงเสี้ยวเดียวและตอนเดียวซะด้วยสิ เป็นช่วงเวลาวาบหวามที่ทำให้คนดูยิ้มแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไปกับความสุขนั้นของนางเอก เอาใจช่วยว่าอย่านะ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบที่คิดนะเว้ย แต่แล้วผู้กำกับก็กระชากหัวใจเราไปซะได้ บอกเลยว่าสายสุขนิยมหนีไปให้ไกลเลยจ้ะ เพราะเรื่องนี้ให้ความสุขเดียวคือตัวร้ายตายหยังเขียด แต่ตัวเอกนั้น…ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ เป็นเศร้า

การสอดแทรกไปด้วยดราม่าบีบจิตที่ใส่เข้ามาตลอดทั้งเรื่อง และการแสดงแต่ละคนที่ตีบทแตก ทำให้เรื่องนี้ต่างจากผลงานแนวดาร์กเรื่องอื่น ๆ ที่ถึงแม้ว่าเส้นเรื่องไม่ได้แตกต่างไปจากกันก็ตามที แต่เสน่ห์ของมันอยู่ที่ตัวเอกเป็นผู้หญิงชื่อฮันโซฮีคนนี้ ที่เลิกดูผีเสื้อแต่หันมาควงมีดควงปืนแทนนี่แหละจ้ะ

My Name

  • กำกับ : คิมจินมิน
  • เขียนบท : Kim Ba-da
  • จำนวนตอน : 8 ตอนจบ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส