สมการรอคอยมากๆ ตั้งแต่ปลายปีก่อนที่ได้เห็นเทรลเลอร์แรกจากฝั่งญี่ปุ่น ด้วยศักยภาพของตัวมังงะที่ Kengo Hanazawa เขียน ใครเคยอ่านก็จะรู้ว่าโคตรมีเอกลักษณ์ ทั้งตัวละคร การดำเนินเรื่องที่แหวกขนบเรื่องแนวๆ ซอมบี้ทั่วไป ดีไซน์ซอมบี้ที่บิดเบี้ยวโหดสมจริง จนถึงการวาดวางเฟรมที่เหมือนเรากำลังนั่งดูหนังชั้นดีอยู่เลยล่ะ บอกตรงๆว่ามังงะทำออกมาได้ดีมากและก็มีแฟนๆ ติดตามอยู่มากเช่นกัน แต่ด้วยความที่หนังญี่ปุ่นจากมังงะนี่เหมือนโยนเหรียญเสี่ยงดวง ทำได้ดีมีนับเรื่องได้ ก็หวั่นใจอยู่ตลอดนะ กะว่าในฐานะแฟนมังงะนี่พร้อมปะฉะดะเลยถ้าทำตัวหนังมาห่วย ส่วนอีกใจหนึ่งก็ยังคิดว่าผู้กำกับ Shinsuke Sato ที่เคยทำ Gantz ก็ถือว่าหนังโอเคอยู่นะ ต้องไปวัดใจกันในโรงอีกรอบ
และพอหนังเล่นไปได้สิบนาที รู้เลยว่านี่ล่ะหนังที่รอคอย และยิ่งเล่นๆไปก็ยังรักษาระดับความชอบของเราไว้ได้จนจบด้วย เฮ้ย เจ๋งอ่ะ ไม่คิดว่าหนังญี่ปุ่นจะทำเรื่องแนวซีจีๆ โหดๆ บู๊ๆ แหวะๆได้เยี่ยมขนาดนี้ ฟัดกับฝั่งฮอลลีวู้ดสบายเลย
Kengo Hanazawa ผู้เขียน ถ่ายรูปกับ Jin Katagiri ศิลปินตลกชื่อดังที่มาแสดงรับเชิญ
I AM A HERO มีเนื้อหาสุดอินดี้เกี่ยวกับโลกวันที่ ZQN ระบาด (ZQN หรือซอมบี้ในเรื่อง) ดูธรรมดาใช่มั้ย แต่มันน่าสนใจตรงการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะตัวเอก ฮิเดโอะ ซูสุกิ ชายวัย 30 กว่า อาชีพนักวาดมังงะออกจะเนิร์ดๆ ไร้สเน่ห์สุดๆ และดูพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย (ยิ่งช่วงแรกๆนี่พี่แกมโนแจ่มตลอดเวลา เราก็ลุ้นอยู่นั่นกว่าจะสู้ได้แต่ละที) แกบังเอิญจับพลัดจับผลูต้องมาเอาตัวรอดร่วมกับ ฮิโรมิ นักเรียนสาวที่บังเอิญพบขณะหนี ZQN นั่นทำให้เขาต้องใช้ทักษะการยิงปืนลูกซองที่เป็นงานอดิเรกและความกล้า (ที่ไม่ค่อยมี) ออกมาเป็นฮีโร่จำเป็นลุยกับโลกแสนระทมแห่งนี้จนได้ แต่นั่นล่ะอย่างที่บอกลุ้นกันไปเหอะกว่าแกจะเท่น่ะ 555
Yô Ôizumi รับบทฮิเดโอะ จริงๆถือว่าดูดีกว่าในมังงะนะ แต่ถ้าเทียบมาตรฐานพระเอกหนังซอมบี้ก็ต้องบอกว่า บ้านๆเลยล่ะ แต่แบบนี้ล่ะเจ๋ง
ที่บอกว่าอินดี้ เพราะไม่เหมือนใครเลยจริงๆในตระกูลหนังซอมบี้ ตัวเอกไม่เท่ เป็นคุณลุงไม่เอาอ่าว หลบอยู่ในมโนตัวเอง แถมบื้อๆและไม่เข้าสถานการณ์ในหลายๆครั้ง อย่างในตอนที่ซอมบี้เริ่มบุกแม้จะมีปืนลูกซองอยู่ในมือ แกก็บอกไม่ได้นะปืนนี่ไว้ยิงเป้าบินแถมการยิงปืนในที่สาธารณะมันผิดกฏหมายด้วย เอากับมันดิ 555 แต่นั่นล่ะความขัดแย้งที่ว่า เวลาอยู่โลกธรรมดาเขาอาจเป็นมนุษย์ห่วยๆ แต่ถ้าเป็นโลกซอมบี้ที่ทุกคนพร้อมปรับตัวเอาชีวิตรอด แต่ไอ้หมอนี่ยังทำตัวเหมือนปกติได้ มันย่อมไม่ธรรมดาจริงมั้ย 555 และมันก็มีสเน่ห์ให้เราติดตามตรงนี้ล่ะ ตัวละครธรรมดาบ้านๆแบบนี้มันจะเป็นฮีโร่ได้ไง ในด้านการรักษาตัวละครต่างๆไว้ตามมังงะนี่หนังทำออกมาได้ดีมาก ทั้ง ฮิเดโอะ เท็กโกะแฟนของพระเอก ฮิโรมิเด็กนักเรียนสาว และโอดะนางพยาบาลสุดห้าว จนยันตัวประกอบต่างๆ คือไม่มีหลุดจนรับไม่ได้ แถมไม่มีโมเม้นท์ตลกแปลกๆ แบบที่หนังญี่ปุ่นชอบทำด้วย และที่ให้ภาษีดีกว่ามังงะมากๆ คือเลือกนักแสดงหญิงได้น่ารักกว่าในตัวมังงะที่วาดผู้หญิงได้ไม่แจ่มเท่าไหร่มากกกกกก โดยเฉพาะโอดะนี่ในมังงะทอมๆเลยไม่มีความสวยเท่าไหร่เลยนะ หนังเลยชวนติดตามกว่าในมังงะก็จุดนี้ล่ะนะ 555
ได้ Masami Nagasawa และ Kasumi Arimura มาเล่น ซึ่งดีกว่าในมังงะเยอะ
ความเยี่ยมและสเน่ห์อีกอย่างของเรื่อง คือความเป็น ซอมบี้ดีไซน์ น่ะ เวลาเราดูหนังซอมบี้ฝั่งตะวันตกหรือทั่วๆไปเราจะเห็นแพทเทิร์นเดิมๆทั้งการออกแบบซอมบี้ที่เหมือนศพเละๆเดินได้ หรือการเอาตัวรอดต่างๆที่แบบปืนมีถือกันให้ว่อนเลย แต่ใน I AM A HERO เราจะพบว่าซอมบี้แต่ละตัวมักจะยึดติดกับชีวิตก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นซอมบี้ มันเลยมีความแตกต่างและสตอรี่ของแต่ละตัวมากๆ เช่น ซอมบี้พนักงานต้อนรับที่พูดซ้ำๆว่า ยินดีต้อนรับคุณลูกค้า หรือซอมบี้นักกีฬากระโดดสูงมหาวิทยาลัยที่เอาแต่วิ่งแล้วก็กระโดดเป็นต้น รายละเอียดพวกนี้ทำให้หนังมีอะไรให้เก็บตลอดเวลาแล้วมันสนุกในการดูเพิ่มด้วยนะ มันไม่ใช่แค่เดินๆ วิ่งๆ มากัดๆ กินๆ แค่นั้นเหมือนกันไปหมด และด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันนี้หน้าตาซอมบี้มันจะแหวะๆและดูกึ่งๆ สัตว์ประหลาดไปเลย และซีจีบวกเมคอัพเอฟเฟ็กต์ก็ทำได้เนียนและดูดีสุดๆ ซึ่งได้อารมณ์หนังสยองมากๆ ตรงนี้ใครไม่ชอบอะไรแหวะๆ อาจจะต้องทนหน่อยเพราะบางฉากนี่โหดมากจริงๆแล้วหนังก็ไม่ปรานีคนดูเลย จัดเรต R15+ ในญี่ปุ่นไป ตรงนี้ไม่มีปัญหากับผม แต่สำหรับเด็กหรือคนไม่ชอบอะไรแบบนี้ผมว่าต้องระวังการพาไปชมนิดนะ
ความรุนแรงแบบจัดเต็มจนได้เรต R 15+ ในญี่ปุ่น พร้อมพรั่งด้วยตัวละครเพี้ยนๆที่เดาทางได้ยาก
โปรดักชั่นพิถีพิถันโคตร ถือว่ามาตรฐานสูงมากสำหรับหนังจากมังงะ
สุดท้าย หนังค่อนข้างอารมณ์ตลกร้ายนิดๆตามคาแรกเตอร์ตัวเอกนะ แล้วก็ผสมตัวละครวิปริตที่มักเจอในหนังญี่ปุ่นซึ่งดีตรงการกระทำของพวกเขาคาดเดาไม่ได้ ดราม่ามีพอประมาณ บู๊มันมากแม้พระเอกจะวิ่งเป็นหลักในเกือบทั้งเรื่องแต่ก็วิ่งหนีได้มันมากๆเหมือนกัน ที่ต้องพูดถึงเลยคือ ฉบับพากย์ไทยโดย ทีมพันธมิตร นี่ ตลกมากเครียดๆอยู่ก็มาช่วยเบรคได้เยอะ แล้วทำให้หนังสนุกขึ้นด้วย ปกติไม่ชอบดูพากย์ไทยสำหรับหนังเครียดๆนะ แต่เรื่องนี้มาช่วยได้ตรงจุดดีจริงๆ แนะนำว่าต้องลองเลยบันเทิงมากกก
สรุปเลยละกัน
เรื่องนี้พี่เชียร์ หนังโคตรดี ลุ้นเครียดตลกซึ้ง เปิดมิติใหม่หนังบล็อกบัสเตอร์ญี่ปุ่นเลยล่ะ ดูซ้ำสามสี่รอบไม่เสียดายตังค์เลยนะ ผมยังว่าอยากไปจัดซ้ำเลย หวังว่าจะมีภาค 2 มาให้ได้ชมไวๆ
หนังเข้ารอบพิเศษหลัง 2 ทุ่ม ตั้งแต่ 30 มิถุนายนนี้ ก่อนจะเข้าฉายเต็มๆ 7 กรกฎาคมนี้นะ