Ant-Man and the Wasp: Quantumania หนังที่ทำหน้าที่เปิดฉากจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเฟส 5 และทำหน้าที่แนะนำตัว Kang the Conqueror หรือ แคงผู้พิชิต ให้ผู้ชมได้รู้จักกันแบบเต็ม ๆ หลังจากที่เขาเคยออกมาชิมลางแล้วในซีรีส์ Loki ซึ่งตอนนั้นเรารู้จักเขาในนาม ‘He Who Remains’ แคงผู้พิชิตจัดได้ว่าเป็นวายร้ายตัวสำคัญที่เก่าแก่มากรายหนึ่งในตำนานมาร์เวล เขาปรากฏตัวครั้งแรกใน Fantastic Four #19 วางแผงเมื่อปี 1963 นับถึงวันนี้ก็ 60 ปีมาแล้ว
ก้าวแรกของแคงใน MCU ก็คือ Ant-Man and the Wasp: Quantumania, สกอตต์ แลง และครอบครัวได้พบว่าแคงอยู่ในมิติควอนตัม (Quantum Realm) และในเรื่องนี้ละที่เราจะได้พบคำตอบว่า แคงหลุดออกมาจากมิติควอนตัมแล้วกลายสถานะเป็นวายร้ายตัวฉกาจได้อย่างไรกัน และน่าจะมีบทบาทไปยาว ๆ ถึงสองเฟสเต็ม เพราะบทบาทของแคงจะไปถูกปิดฉากในท้ายเฟส 6 กับหนังรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร Avengers: The Kang Dynasty
บทบาทของ แคงผู้พิชิต ใน LOKI
ใน LOKI ทีวีซีรีส์เรื่องฮิตที่ได้ ทอม ฮิดเดิลสทัน กลับมารับบทนำเป็น โลกิ เทพเจ้าแห่งความหลอกลวง ในตอนท้ายของซีรีส์นั้น โลกิได้เผชิญหน้ากับบุรุษลึกลับ ซึ่งรู้จักกันในนามว่า ‘He Who Remains’ ซึ่งก็คืออีกนามหนึ่งของ Kang the Conqueror รับบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส (Jonathan Majors) ในซีรีส์นั้น เขาได้เปิดเผยว่าความขัดแย้งระหว่างจักรวาลนั้น เกิดขึ้นโดยตัวแปรต่าง ๆ ของเขาเอง และถ้าเขาตายเมื่อใด พหุจักรวาลก็จะย้อนกลับมาเริ่มต้นใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วตัวแปรของ He Who Remains ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ แต่ละตัวก็จะต่อสู้กันเพื่อชิงความเป็นผู้นำสูงสุด
ตอนที่ Kang the Conqueror ปรากฏตัวใน LOKI นั้น ก็เริ่มมีการคาดเดากันแล้วว่า แคงอาจจะเป็นวายร้ายหลักรายใหม่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แล้ววันนี้ก็เป็นการยืนยันแล้วว่า แคงผู้พิชิตจะปรากฏตัวใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania และปิดฉากลงใน Avengers: The Kang Dynasty ซึ่งดัดแปลงมากจากหนังสือการ์ตูน The Kang Dynasty โดย เคิร์ต บูซีก วางแผงเมื่อปี 2001 ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า เนื้อหาในเวอร์ชันภาพยนตร์นั้น จะดำเนินตามเนื้อหาในหนังสือการ์ตูนมากน้อยเพียงใด
Kang the Conqueror ในหนังสือการ์ตูน
เรื่องราวที่เกี่ยวกับการเดินทางท่องเวลา นี่ชวนให้สับสนงงงวยได้ง่าย ๆ แล้วเรื่องราวความเป็นมาของ แคงผู้พิชิตก็เป็นเช่นนั้น ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนนั้น แคงผู้พิชิตคือมนุษย์โลกมีนามว่า นาธาเนียล ริชาร์ด เขาเป็นลูกหลานของ รีด ริชาร์ด และ ซู สตอร์ม จาก Fantastic Four เขาเป็นที่รู้จักในทศวรรษที่ 30 เป็นช่วงเวลาที่โลกเต็มไปด้วยความโหดร้าย แคงอ้างว่าเขาต้องการนำสันติสุขคืนมาสู่โลกด้วยการครองโลกเสียเอง เขาเริ่มต้นภารกิจด้วยการใช้ไทม์แมชชีนเดินทางไปยังช่วงเวลาต่าง ๆ ในอดีตเพื่อปกครองอาณาจักรต่าง ๆ ซึ่งเขาได้สร้างตัวตนต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ขึ้นมามากมาย ในการ์ตูนนั้น แคงผู้พิชิตได้สร้างตัวแปรต่าง ๆ ขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งพอคาดการณ์ได้ว่า เราน่าจะได้เห็นตัวแปรหลัก ๆ อย่าง Immortus, the Scarlet Centurion หรือ Pharaoh Rama-Tut
การเดินทางท่องเวลาและปรับเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของแคง ทำให้เขามีสิทธิ์ในการบริหารจัดการเวลาที่ซับซ้อนยุ่งเหยิง และทำให้เส้นทางเดินเวลารอบตัวเขาเปลี่ยนไปมาอยู่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแคงเองก็ไม่เคยแยแสเรื่องกฎของเวลาแต่อย่างใด เขายังกลับไปเปลี่ยนประวัติของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง และมีครั้งหนึ่งที่แคงทำผิดพลาดอย่างมหันต์ เมื่อร่างตัวแปรหนึ่งของเขาที่เป็นวัยรุ่น เกิดหวาดหวั่นกับอนาคตของตัวเอง และต้องการสร้างเส้นทางอนาคตของตัวเองขึ้นมาใหม่ ด้วยการเดินทางย้อนไปในอดีต และตั้งตนเป็นซูเปอร์ฮีโรนามว่า ‘Iron Lad’ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ส่งผลให้ตัวแปรต่าง ๆ ของแคง ทั้ง Immortus, Rama-Tut และตัวตนอื่น ๆ ต่างแยกตัวออกจากแคงและมีสิทธิ์ในการควบคุมชีวิตตัวเอง ด้วยความที่แคงมีหลายตัวตน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า แคงผู้พิชิตที่ปรากฏตัวใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania และใน Avengers: The Kang Dynasty ก็อาจจะเป็นคนละตัวกัน
พลังและความสามารถของ แคงผู้พิชิต
แคงผู้พิชิตเริ่มต้นภารกิจครองโลกในทศวรรษที่ 30 เป็นช่วงที่มนุษยชาติเพิ่งเรียนรู้ในการพัฒนาศักยภาพของร่างกาย ทั้งในเรื่องความเร็ว และ ความแข็งแกร่ง เขาจึงนำวิทยาการสมัยใหม่อย่างเรื่อง ซูเปอร์โซลเดอร์ ไปเผยแพร่ เขาได้รับการยกย่องในฐานะอัจฉริยะและนักวางกลยุทธ์ผู้ช่ำชอง ทำให้เขาเข้าครอบครองแต่ละอาณาจักรได้อย่างง่ายดาย ภายหลัง แคงผู้พิชิตก็สามารถครอบครองได้ทุกพื้นที่ในทศวรรษที่ 30 จากนั้นก็เริ่มแผ่อำนาจในยังมิติเวลาอื่น ๆ เขาก้าวเข้าสู่มิติที่ชื่อว่า ลิมโบ ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของ ‘มิติควอนตัม’ แต่ก็กลับกลายเป็นว่า บางทีจุดแข็งของแคงก็กลายเป็นจุดอ่อนของเขาไปโดยปริยาย จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของแคงก็คือ ความมุ่งมั่นโดยไม่ย่อท้อ การเอาชนะสิ่งต่าง ๆ คือความท้าทายของเขา เขาเคยย้อนเวลากลับไปต่อสู้กับอัลตรอนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะเอาชนะได้ บางครั้งความมุ่งมั่นของเขาก็เกือบจะทำลายทั้งพหุจักรวาลไปแล้ว ด้วยการสร้างรอยแตกร้าวขึ้นระหว่างเวลาและห้วงอวกาศ
แคงมีชุดเกราะที่ทรงพลังและเขาสามารถเข้าถึงอาวุธได้ทุกชิ้นในประวัติศาสตร์ การที่เขาเดินทางท่องเวลา ทำให้แคงรวบรวมเอาวิทยาการในยุคต่าง ๆ มาสร้างเป็นชุดเกราะรบของเขา สามารถเรียกอาวุธต่าง ๆ ให้เดินทางผ่านห้วงเวลามาหาเขาได้ ไม่แค่นั้น แคงยังเดินทางท่องเวลาไปยุคต่าง ๆ เพื่อเสาะหานักรบมือฉกาจ แคงจะท้าประลอง เมื่อเอาชนะได้แคงก็จะดึงเขาเหล่านั้นให้เข้าร่วมมาเป็นกองกำลังของเขา แคงชอบที่จะเป็นผู้นำของคนเหล่านี้
โจนาธาน เมเจอร์ ผู้รับบทบาทเป็น แคงผู้พิชิต
โจนาธาน เมเจอร์ เป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้มารับบทเป็น แคงผู้พิชิต ท่ามกลางความคาดหวังมากมายจากแฟน ๆ มาร์เวล เพราะนี่คือวายร้ายตัวใหม่ที่จะอยู่กับผู้ชมไปอีกสองเฟสเต็ม ๆ แล้วทางมาร์เวลก็ดูว่าจะยึดภาพลักษณ์ของแคงผู้พิชิตให้ตรงตามหนังสือการ์ตูนพอควร เราน่าจะได้เห็นแคงผู้พิชิตในร่างตัวแปรต่าง ๆ มากมายในไทม์ไลน์ที่ต่างกัน และตัวแปรเหล่านี้ก็จะมาสู้กันเองเพื่อชิงชัยในการเป็นผู้ควบคุมเวลาและจักรวาล หลังจาก Quantumania ไปแล้ว เราน่าจะได้เห็นแคงผู้พิชิตในร่างของ Immortus, the Scarlet Centurion, the Warlord และอีกหลากหลายร่างตัวแปร ที่จะมาปรากฏตัวในเฟส 5 และ 6 จากนี้
โจนาธาน เมเจอร์ เป็นนักแสดงวัย 34 ปี เขาเข้าสู่วงการแสดงเมื่อปี 2011 มีบทบาทในหนังฟอร์มเล็กและทีวีซีรีส์หลายเรื่อง เริ่มเป็นที่รู้จักจาก ‘Da 5 Bloods’ หนังของผู้กำกับ สไปก์ ลี และทีวีซีรีส์ Lovecraft Country แต่มาก้าวกระโดดเป็นพลุแตกจริง ๆ ก็ตอนที่ได้รับบทเป็น แคงผู้พิชิตใน LOKI นี่แหละ ทำให้เขามีงานต่อเนื่องในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลทันที 3 เรื่อง และเดือนหน้านี้เราจะได้เห็นเขาใน Creed 3 ในฐานะคู่ชกคนใหม่ของ อะโดนิส ครีด เรียกว่านี่คือช่วงเวลาขาขึ้นของ โจนาธาน เมเจอร์ จริง ๆ
แคงผู้พิชิตคือวายร้ายหลักใน Multiverse Saga
หลังจากธานอสถูกกำราบไป แคงก็คือวายร้ายตัวฉกาจในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ซึ่งทางมาร์เวลก็วางแผนปูทางมาแบบค่อยเป็นค่อยไปมาตลอดเฟส 4 พอเริ่มต้นเฟส 5 ก็เผยให้รับรู้กันไปชัด ๆ เลยว่า แคงผู้พิชิตก็คือ วายร้ายหลักที่มาร์เวลตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อ Multiverse Saga นี้โดยเฉพาะ
แผนการของมาร์เวลก็คือ วางให้เฟส 4-5-6 นั้นเป็น Multiverse Saga โดยเริ่มเกริ่นถึงเรื่องราวของพหุจักรวาลใน LOKI แล้วก็ขยายความต่อมาใน What If..?, Spider-Man: No Way Home และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness แต่เรื่องหลัง ๆ นี้ แม้จะพูดถึงพหุจักรวาลเป็นแกนหลักของเรื่อง แต่ก็ไม่มีแคงผู้พิชิตไปปรากฎตัวให้เห็น จนกระทั่งการมาถึงของ Ant-Man and the Wasp: Quantumania ที่แคงเผยตัวว่าเป็นตัวร้ายในเรื่องนี้ นั่นคือคำยืนยันว่าในเฟส 5 นี้ เราจะได้เห็นบทบาทของแคงผู้พิชิตมากขึ้น เพื่อต่อยอดไปถึงบทสรุปใน Avengers: The Kang Dynasty and Avengers: Secret Wars หนัง Avengers 2 เรื่องที่ทำหน้าที่ปิดท้ายเฟส 6
ด้วยเรื่องราวและศักยภาพต่าง ๆ ของ แคงผู้พิชิตนั้น ถือว่าเขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำหน้าที่ตัวร้ายต่อจาก ธานอส เบื้องหน้าเขาดูเป็นเหมือนเป็นคนเรียบง่าย แต่แท้จริงแล้วเขาคือบุคคลที่อันตรายที่สุดในระดับพหุจักรวาล เพราะตัวแปรของแคงในจักรวาลต่าง ๆ สร้างความวุ่นวายปั่นป่วน นั่นจึงเป็นภารกิจหลักของ องค์กรควบคุมกาลเวลา (Time Variance Authority) ในซีรีส์ LOKI ที่จะต้องคอยควบคุมไม่ให้แคงสร้างตัวแปรออกมาอีก ถ้าจักรวาลต่าง ๆ มีธานอสเพิ่มมาอีกตัว สองตัว ก็ยังไม่เป็นปัญหาหนักเท่ามีแคงเพิ่มมาอีกตัวหนึ่ง
ซึ่งซีรีส์ LOKI ก็ได้ทำหน้าที่เป็นก้าวแรกที่พาเราไปรู้จักวายร้ายที่อันตรายที่สุดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล จากนี้แฟน ๆ มาร์เวลก็จะได้เห็นศักยภาพของแคงเต็ม ๆ ใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania พร้อมกันวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้
แคงจะทำอะไรใน Ant-Man and the Wasp: Quantumania
วิเคราะห์จากตัวอย่างหนัง เราได้เห็นแคงยื่นข้อเสนอให้ สก็อต แลง ต้องเลือกระหว่างชะตากรรมของจักรวาลกับชีวิตของ แคสซี แลง ลูกสาวของเขา พอคาดเดาได้ว่า ทั้ง ๆ ที่แคงมีพลังอำนาจควบคุมทั้งจักรวาลได้แล้ว แต่เขาก็ยังต้องพึ่ง แอนท์-แมน ให้พาเขาออกจากมิติควอนตัม แล้วเราก็คาดเดากันได้เลยว่า ศึกนี้ แอนท์-แมน กับ วอสพ์ ไม่น่าจะเอาชนะแคงได้ เพราะเขาถูกวางตัวให้เป็นวายร้ายหลักในเฟส 5 และ 6 ไปแล้ว และจากประโยคที่ สก็อต แลง พูดกับแคงว่า “เขามั่นใจเลยว่าเราทั้งคู่จะต้องแพ้” ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะได้เห็นจุดจบของ แอนท์-แมน ในภาคนี้
ส่วนข้อตกลงที่แคงยื่นให้กับ สก็อต แลง นั้น ยังไม่มีใครรู้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ แต่ก็เป็นไปได้ว่า ข้อเสนอของแคงก็ตรงไปตรงมาที่สุด คือเขาต้องการควบคุมเวลาและชะตากรรมทั้งหมดของพหุจักรวาล และด้วยพลังและเทคโนโลยีในมือของแคงก็เป็นไปได้สูงว่า เมื่อผ่านพ้นไปตลอดทั้งเฟส 5 แล้ว แคงน่าจะได้ครอบครองทั้งพหุจักรวาลตามที่เขาคาดหวัง และส่งผลต่อเรื่องราวทั้งหมดในเฟส 6 ที่เหล่าอเวนเจอร์สรุ่นใหม่รุ่นเก่าต้องมารวมพลังกันอีกครั้งเพื่อปราบแคงผู้พิชิต