การกลับมาสู่ซีรีส์ xXx หนึ่งในหนังดังของวิน ดีเซล ในยุครุ่งเรืองที่เขาได้เป็นไอคอนในฮอลลีวู้ดหลาย ๆ บทบาททั้งโดมินิค ทอเร็ตโต้ จาก The Fast And Furious และ ริดดิค จาก Pitch Black ที่ได้สานมาอีก 2 ภาคต่อรวมทั้งการ์ตูนและ วีดีโอเกม การกลับมารอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ในบทแซนเดอร์ เคจ แต่เป็นภาค 3 ของ xXx เพราะวิน ไม่กลับมาในภาค 2 อาจจะด้วยค่าตัวหรือคิวการทำงาน ภาค 2 ไอซ์ คิวบ์ แรปเปอร์คนดังก็เลยเข้าเสียบแทนในบท แดเรียส สโตน อีกหนึ่งยอดฝีมือในทีม xXx ที่หวังจะมาสานต่อซีรีส์นี้แต่หนังคว่ำไม่เป็นท่า ทำรายได้ไปแค่ 70 ล้านเหรียญจากการฉายทั่วโลก หนังก็เลยพับโครงการภาคต่อไปตั้งแต่ปี 2005
วันนี้วิน ดีเซล กลับมาฮอตอีกครั้งหลังกลับมาร่วมทีม Fast แล้วกลายเป็นหนังภาคต่อที่ทำเงินถล่มทลาย พอดีกับซีรีส์ xXx เปลี่ยนมือจากค่ายโคลัมเบียมาอยู่กับ พาราเมาท์ แล้วน่าจะสรุปข้อตกลงกันได้เราก็เลยเห็นแซนเดอร์ เคจ อีกครั้งในรอบ 15 ปี เปิดตัวในแบบสายลับระดับตำนานหลาย ๆ คน ที่แกล้งตายแล้วปลีกวิเวกไปอยู่กับชาวบ้านในเม็กซิโก แต่เมื่อวายร้ายกลุ่มใหม่ถือกำเนิดขึ้นใช้อาวุธไฮเทคที่ชื่อว่ากล่องแพนโดร่า สามารถควบคุมดาวเทียมทุกดวงนอกโลกให้พุ่งเข้าหาเป้าหมายบนโลกได้อย่างแม่นยำ ก็ไม่ต่างกับขีปนาวุธดี ๆ นี่เอง และหนึ่งในเหยื่อนั้นก็คือออกัสตัส กิบบอนส์ บทดั้งเดิมของซามูเอล แอล แจ๊คสันหัวหน้าหน่วย xXx ที่เป็นคนชักจูงให้แซนเดอร์ เคจ เข้าทีม เจน มาร์ค นายหญิงคนใหม่จึงออกโรงตามตัวแซนเดอร์ เคจ ให้กลับมาตามล่าวายร้ายแก๊งนี้เพื่อชำระแค้นให้กับกิบบอนส์ แต่ว่าท่าทางจะเป็นงานหินเพราะทีมวายร้ายนี้มี 4 คนและแต่ละคนฝีมือดูไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า แซนเดอร์ เคจ เลย ดอนนี่ เยน เข้าเสียบบท แชง หัวหน้าทีมแทน เจ็ท ลี และมี จา พนม มารับบททาลอน มือขวาของแชง ในฐานะคนไทยก็ดีใจนะที่ได้เห็น จา พนม มีบทบาทมากกว่าที่คิด เพราะในตัวอย่างหนังมีโผล่มาแค่ 2 วินาทีเอง
ดี.เจ. คารูโซ ผู้กำกับที่เคยมีผลงานดูสนุกอย่าง Eagle Eye (2008) และ I Am Number Four (2011) มารับหน้าที่กำกับออกมาได้รสชาติแตกต่างจากผลงานก่อนหน้าตัวเองได้แบบไม่เหลือเค้าเดิม ทำให้ xXx ออกมาเป็นหนังที่หวังผลทางการตลาดแบบออกหน้าออกตาอย่างไม่คำนึงถึงตรรกะความเป็นจริงทั้งมวล ขนาดว่าเปิดโหมดดูหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ดก่อนการรับชมแล้วก็ยังรู้สึกว่า “โห!! ขนาดนี้เลยหรือ” แซนเดอร์ เคจ เป็นอดีตนักกีฬา เอ็กซ์เกม ที่เก่งกว่าทหารผ่านศึกทุกนาย เชี่ยวชาญอาวุธทุกชนิด ขับยานพาหนะได้ทุกอย่าง แม้จะเคยขับเป็นครั้งแรก ต่อสู้ด้วยมือเปล่าไม่ต้องพูดถึง ไหวพริบเป็นเลิศ วาทศิลป์ระดับยอดนักขาย ไปไหนมาไหนก็มีสาว ๆ ห้อมล้อม ยังดีที่ภาคนี้แซนเดอร์ ยังเลือกที่จะทำงานเป็นทีมซึ่งแต่ละคนที่แซนเดอร์ คัดมา ก็มาด้วยเหตุผลทางการตลาดล้วน ๆ รอรี่ แม็คเคน ก็มาจากสายนักมวย UFC , คริส วู อดีตสมาชิกบอยแบนด์วง EXO ในบทนิคส์ ดีเจเปิดแผ่น เป็นสมาชิกที่ดูแล้วไม่เข้าใจที่สุดว่าจะเอาดีเจมาร่วมทีมปฎิบัติการเสี่ยงตายทำไม แถมภาคนี้ยังมี ดีพิกา พาดูโคน นางเอกคนดังจากบอลลีวู้ดและ เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์นักบอลจากบราซิล มาร่วมงานด้วย ออกมาเป็นหนังที่ได้ดาราหลากสัญชาติมากทั้ง อเมริกัน , อินเดีย , เกาหลี , จีน , ไทย , บราซิล แค่ฉายตามประเทศเหล่านี้ก็กำไรแล้ว
เอฟ สก็อตซ์ ฟราเซียร์ เหมาหน้าที่เขียนบทคนเดียว เป็นหนึ่งในทีมงานที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลือกคนนี้มาเขียนบท ผมเพิ่งได้ดู Collide ผลงานเรื่องก่อนหน้าของ เอฟ.สก็อตซ์ หนังที่เอาดาราใหญ่อย่าง แอนโธนี่ ฮอปกินส์ , เบน คิงส์ลีย์ , เฟลิซิตี้ โจนส์ มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างน่าเสียดาย เป็นหนังที่เสียเวลาดูมาก พอมาถึง xXx ชะตากรรมจึงไม่ต่างกันนัก ดีที่ว่า xXx เป็นหนังทุนสูงเลยมีงานซีจี+แอ็คชั่นให้น่าตื่นตาตื่นใจพอให้ชดเชยจุดด้อยเรื่องบทไปได้บ้าง เห็นได้ชัดว่า เอฟ.สก็อตซ์ พยายามจะใส่ชั้นเชิงลงไปในเนื้อหาด้วยการล่อหลอกวางตัวร้ายให้เป็นคนนั้นแล้วกลายมาเป็นคนนี้ เล่นเอาตามไม่ทันแถมตามไปด้วยความงง ๆ เพราะจุดประสงค์ที่จะร้ายก็ไม่ได้ชัดเจนเลย หนังถูกเขียนเส้นเรื่องไว้บาง ๆ เพียงเพื่อเปิดโอกาสให้สอดแทรกฉากแอ็คชั่นไปได้ระหว่างทาง ตัวละครไม่มีที่ไปที่มา ไม่มีเหตุผลที่จะร้ายจะดี ฝ่ายดีก็เก่งซะเหลือเกิน ฝ่ายร้ายก็ดูเหมือนเหล่าสตอร์มทรูเปอร์ยิงไม่เคยถูกสักนัด เป็นหนังที่เหล่าพระเอกไม่ตกที่นั่งลำบาก ไม่มีใครบาดเจ็บ ไม่ต้องเอาใจช่วย ทุกภารกิจผ่านฉลุย ทำให้เราได้สนุกไปกับฉากแอ็คชั่นแต่ละฉากที่อยู่ข้างหน้าขณะนั้นแต่ไร้ซึ่งความน่าติดตาม ซึ่งบทลงเอยเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้ว
ผลสุดท้ายดู xXx เหมือนดูโชว์คนสวยคนหล่อ ทุกตัวละครไม่มีการแสดงที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครอยู่ในท่วงท่าที่เป็นปกติมนุษย์ จะต้องยืน นั่ง เดินที่ดูเก๊กมาดเท่ ๆ ตลอดเวลา บทสนทนาเต็มไปด้วยคำพูดที่ประดิดประดอยจนดูลิเก ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนเห็น ๆ กันอยู่ในหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ด ใน Fast and furious ก็มี เพียงแต่ว่า xXx ถูกยัดเข้ามาในปริมาณที่มากเกินจนไม่เหลือสัดส่วนของความสมจริง และหลาย ๆ ฉากก็ดูเชย ฉากสโลว์ยังถูกนำมาใช้ในฉากต่อสู้ และที่ติดตามากคือฉากยิงปืนสองมือหันหลังชนกัน จอห์น วู มาเห็นคงยิ้มด้วยความภูมิใจ ทุกวันนี้ฮอลลีวู้ดยังเล่นมุกกูอยู่เลย หนังน่าจะถูกใจคอแอ็คชั่นครับ แม้ฉากเด่น ๆ จะถูกนำมาโชว์ในตัวอย่างหนังจนหมดสิ้นแล้ว แต่ฉากที่ต้องพูดถึงคือฉากที่แซนเดอร์ ไล่ล่า แชง บนไฮเวย์ สองคนวิ่งไล่กันบนหลังคารถที่กำลังวิ่งโดดไปคันนั้นคันนี้ ร่วงลงบนพื้นโดนรถชนกลิ้งกัน รถเบรคชนกันลอยละลิ่ว นับเป็นฉากที่รุนแรง หวาดเสียวและแปลกใหม่ ยังไม่เคยเห็นไอเดียนี้มาก่อนในเรื่องอื่น และอีกฉากที่ถือว่าแปลกใหม่ก็คือฉากต่อสู้ในเครื่องบิน เตะต่อยกันในสภาพไร้น้ำหนัก ก็นับว่าเป็นหนังขายแอ็คชั่นที่ทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้ดูดี เสียดายที่ว่าไม่แบ่งความใส่ใจมาที่เรื่องบทบ้างเลยนะ จะช่วยยกคุณภาพหนังได้กว่านี้มาก
วิน ดีเซล ในวัย 49 ปี ถือว่าดูแลตัวเองดีมากครับ กลับมารับบทเดิมในรอบ 15 ปี ดูแทบไม่ต่างจากเดิมมากนัก หนังมีเซอร์ไพรส์ช่วงท้ายนิดนึง ด้วยการใส่ตัวละครที่ไม่ได้รับเครดิตถูกเก็บเงียบไว้มาเปิดตัวในช่วงท้ายเรื่อง และวางหมากไว้เหมือนว่าจะได้แท็กทีมกันในภาคต่อ ซึ่งอาจจะได้เห็นนะ เพราะทุน 85 ล้าน แค่ฉายในจีนก็ได้ทุนคืนแล้ว ทำใจให้มากครับ ตั้งใจชมแต่ฉากแอ็คชั่นเท่านั้นแล้วจะไม่ผิดหวัง