ทริปป์ นักเรียนไฮสคูลซึ่งกำลังหาทางย้ายออกจากเมืองที่เขาเกิดและไปใช้ชีวิตที่อื่น เขาสร้างรถบิ๊กฟุตจากเศษชิ้นส่วนรถยนต์ และพบว่ามีสิ่งมีชีวิตลึกลับมาแอบอยู่ในรถยนต์ของเขา เจ้ารถบิ๊กฟุตพลังมอนสเตอร์คันนี้จะพาเขาไปซิ่งตามความฝันของเขาได้หรือไม่ ?
ตัวอย่างภาพยนตร์ Monster Trucks #1
เรื่องราวที่โปรยมาไว้ให้ใต้ตัวอย่างหนังไม่ได้บอกเลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในหนังมันส์กว่าด้านบนที่กล่าวไว้อีกโข โดยเฉพาะฉากแอคชั่นติดสปีดทั้งปั่น เหยียบ ปีน สะบัด บดขยี้ ทุกอย่างมาเต็มสะใจแบบไม่ต้องกลัวหลับในโรงกันเลยทีเดียว แถมฝีมือ ผกก. คริส เวดจ์ (Ice Ace, Rio, Robots) ยังสามารถเอาหัวเป็นประกันได้ว่าจะต้องสร้างตัว Creature หรือเจ้า “ครีช” มอนสเตอร์เพื่อนรักของพระเอกออกมาได้มีเอกลักษณ์ไหลลื่น หยุบหยับ ดึบดึ๋ย สมจริง ไม่มีอาการภาพลอยแน่ ๆ ไม่นับฉาก background ด้านหลัง ที่ดูออกจะตั้งให้มันลอยแบบหนังแฟนตาซียุคเก่า
ลูคัส ทิล (Havok หรือ Summer จากภาพยนตร์ชุด X-Men) รับบทนำในเรื่องนี้เป็น “ทริปป์” เด็กไฮสคูล ที่มีปมรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน พ่อหายไปไหนไม่รู้ แม่มีคนรักใหม่เป็นนายอำเภอชื่อ “ริค” (แบร์รี่ เป็ปเปอร์) วันหนึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันของ เทอร์ราเว็กซ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ ทริปป์ ได้เจอกับเพื่อนตัวลื่นคู่ใจ “ครีช” เห็นข่าวในทีวีกำลังสัมภาษณ์พ่อ หรือ เวด (แฟรงค์ วาลีย์) อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเริ่มปฏิบัติการหนี เทอร์ราเว็กซ์ และตามหาพ่อ
ทริปป์ นักเรียนที่ลงวิชาชีวะไว้ แต่ไม่เคยไปเรียน ความจริงเป็นเด็กหัวดี มีบุคลิกคล้ายคนบ้าที่เรียกได้ว่าบ้าระดับ 8/10 ไม่มีเพื่อนคุยไม่เป็นไร คุยเอง เพ้อเอง เล่นเองคนเดียว แถมเล่นใหญ่มากอีกต่างหาก พ่วงมาด้วยความไฮเปอร์ กล้าคิด กล้าลอง… มีชีวิตที่ขลุกอยู่ใน เซียงกงของ มิสเตอร์ เวทเธอร์ (แดนนี่ โกลเวอร์) วัน ๆ ไม่สนใจอะไรนอกจากรถ
คำเตือน : ไม่เหมาะกับคนเกลียดสัตว์เลื้อยคลาน เพราะ CGI มันสมจริงเกินไป
หลังจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันของ เทอร์ราเว็กซ์ ออยล์ ทีมขุดเจาะพบมอนสเตอร์ขนาดมหึมาไม่ทราบสายพันธุ์ ระหว่างกำลังเจาะลึกดิ่งลงไปใต้พื้นผิว “บึ้ม!” ทุกอย่างกระเด็นกระดอน แตกกระจายกลายเป็นโกโก้ครั้นช์ หลังจากอุบัติเหตุนั้นเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้ก็มาหลบในกองขยะ ที่่ ทริปป์ ชอบไปหมกตัวอยู่ ระหว่างนั้นทั้งสองก็.. ดูเหมือนพยายามทำความเข้าใจกันและกัน (คิดว่านะคะ ฮ่า ๆ)
การประจันหน้ากันครั้งแรกเป็นไปได้ไม่ดีนัก …ใครจะไปชินกับตัวประหลาดน่ากลัวไหลลื่นหยึบหยึย ดึ๋ย ๆ เป็นเยลลี่ เหมือนเอาปลาหมึกที่ลอกผิวสีม่วงออกแล้ว รวมร่างกับคางคกผิวตะปุ่มตะป่ำและหยุ่นแบบปลิง ที่อาจเขมือบร่างเราเข้าไปตอนไหนก็ได้ แต่เจ้า “ครีช” กลับมีระบบการเรียนรู้ที่ว่องไวราวแสงและเป็นเด็กดี ที่สำคัญจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งสองซี้กันคือ ครีช ไปทำให้รถคันเก่งของ ทริปป์ ที่มีแต่ Body ไร้ซึ่งเครื่องยนต์กลับโลดแล่นได้อีกครั้งด้วยการซ่อนตัวอยู่ในรถและเล่นเป็นเครื่องยนต์อย่างสนุกสนาน !
ทริปป์ แทบจะไม่ได้ฝังเรื่องการเข้าเรียนลงสมองของเขาเลย จน เมเรดิธ (เจน เลวี) หนอนหนังสือ เด็กดี เรียนเก่งระดับ A คลาสของโรงเรียน แต่ดันต้องมาเป็นบัดดี้จับคู่เรียนกับ ทริปป์ ทนไม่ไหวกับความเหลวไหลของพ่อหนุ่มคนนี้เลยจะมาติวให้ แต่ปรากฏว่าดันเกิดเรื่องไม่คาดคิดเมื่อมาถึงก็เจอเหตุระทึกด้วยการที่ต้องหนีตายจาก เบิร์ค (โฮลท์ แม็คคัลลานี) หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของ เทอร์ราเว็กซ์ ที่สงสัยว่า ทริปป์ ซ่อน ครีช เอาไว้ ทริปป์ หนีตายไปหาพ่อที่อณาเขตขุดเจาะน้ำมันของ เทอร์ราเว็กซ์ ตามที่พบในข่าว
เรื่องราวหลังจากนี้ถ้าเล่าไปก็อาจเป็นการสปอยล์ได้ค่ะ เรื่องที่เหลือคือเราไปร่วมเป็นกำลังใจให้ ทริปป์ และ ครีช ดีกว่าว่าจะรอดพ้นจาก เทอร์ราเว็กซ์ ไปได้ยังไง แล้วสุดท้ายเรื่องราวของ ทริปป์และครีช จะจบลงเช่นไร ที่สำคัญการดูครั้งนี้คงรู้สึกได้ฟีลมากกว่าเดิมถ้าจัดเข้าโรงแบบ 4DX ต้อนรับวันเด็กที่ผ่านมาซะ
คริส เวดจ์ สร้างให้เจ้า ครีช ที่หน้าตาดูเหมือนลื่นแต่ดันมีเส้นขนเล็ก ๆ ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อความไวสัมพันธ์ต่อการขับเคลื่อนพาหนะ (ถึงจะโม้ก็เถอะ) นอกจากนี้ยังใช้ความเหนียวหนึบของ ครีช มาเป็นลูกเล่นในการปีนป่ายที่สูง ความว่องไวในการเรียนรู้ของ ครีช เรื่องขับเคลื่อนรถจากการดูทีวี ! ฉลาดกว่าคนเราอีกไหมล่ะ? ไม่ต้องสอนหรอกดูทีวีเอาเหอะเอ็ง (ฮา) เรื่องนี้มีฉากเอารถ บิ๊กฟุต หรือ Monster Trucks ของพระเอก เหาะข้าม บดขยี้ เหวี่ยงโยน และติดสปีด ควงสว่าน รถคันอื่น ไปเกินกว่า 20 คัน เอาจริง ๆ คือนับไม่ถ้วน มีฉากเหล่านี้มากกว่า 30% ของหนังทำให้ไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนขณะดูรอบดึก
นอกจากนี้ คริส เวดจ์ ยังบอกเราเรื่องครอบครัวและความไว้ใจอีกด้วย ว่ามิตรภาพจากคนใกล้ตัวไม่บางทีก็ไม่อาจยั่งยืนได้ ไม่ใช่ทุกคนที่เรารักจะรักเรา และไม่ใช่บางคนที่เราเหม็นขี้หน้าจะเกลียดเรา ที่สำคัญไม่ว่ามนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตแบบไหนก็ตามย่อมมีคุณค่าในแบบของตัวเองเสมอ
ผกก. คริส เวดจ์ ไม่ได้พูดถึงการขุดเจาะน้ำมันและมอนสเตอร์ที่พบเจอแบบลอย ๆ เขายังตั้งใจที่จะบอกเราอีกว่าเราควรเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น สอนให้ ทริปป์ รู้จักการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันกับเพื่อนมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นด้วย คริส เวดจ์ ยังพยายามสื่อว่าทุกอย่างบนโลกย่อมมีธรรมชาติของมัน ครีช ที่บริโภค น้ำมันบริสุทธิ์ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อน ตอนที่ตัวเอกเติมน้ำมันเบนซินเข้าไปก็เกิดท่าทางที่ผิดปกติเนื่องจาก “เบนซิน” ตามท้องตลาดนั้นผสม สารเคมี อื่นเข้าไปด้วย
ความรู้สึกหลังดูจบ
ไม่ต้องถามถึงเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ในโรงขำกันทุก 5 นาที(แอดมินก็เช่นกัน) เด็กวัยรุ่นทั่วไปก็คงดูได้เพลิน ๆ แอดมินดูจบแล้วนึกถึงคุณพ่อคนแรกเลยค่ะ น่าจะชอบแน่ ๆ นี่มันหนังที่มีฉากให้ความรู้สึก 7ขวบอีกครั้ง ประหนึ่งย้อนวัยไปหา E.T., Back To The Future, Ju Man Ji, Jurassic Park ผสมกับหนังยุคปัจจุบันอย่าง Fast And Furious มีความคลั่งของ Minions ตัวสีม่วงปะปนอยู่บาง ๆ คือนี่มันหนังแนวยุค 90 ที่เราเริ่มขยันเข้าโรงไปดูหนังกันที่เมเจอร์รัชโยธินสมัยก่อน แต่ให้รสสัมผัสที่ดีกว่าในเรื่องของ CGI ที่ปั้น ครีช ออกมาได้ โค-ตะ-ระ สวย น่าจะถูกใจคุณพ่อคุณลูก(วัยประถม)ที่พร้อมจะเชื่อไปกับความผูกพันธ์ของมนุษย์และสัตว์ประหลาดครั้งนี้ไม่น้อย ที่สำคัญถ้าพาแฟนสาวไปคงจะไม่บ่นแหละค่ะ ลูคัส ทิล ในลุคบ้าน ๆ นี่เค้าหล่อละลายถือเป็นอีกหนึ่งงานพรีเมี่ยมทีเดียว (ฮา)