เทคนิคในการหากินกับตัวละครยิ่งใหญ่ตัวเดิมของฮอลลีวู้ดอย่างคิงคอง รีเมคไปหลายรอบแล้ว คิงคองปีนตึกไปตกมาตายก็หลายหนแล้ว จะทำไงดี ว่าแล้วก็ใช้คิงคองตัวเดิมเนี่ยล่ะ แล้วเขียนเรื่องให้มันใหม่ซะ รอบนี้จับใจความเอาที่เกาะกะโหลกเป็นหลัก เป็นเกาะลึกลับในมหาสมุทรแปซิฟิกมองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปหัวกะโหลก เกาะกะโหลกไม่ปรากฏในแผนที่เครื่องบิน,เรือ หลงเข้าไปใกล้ก็จะหายสาบสูญไปเหมือนกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เรื่องกำหนดให้เกิดในปี 1973 บิล แรนด้า นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากลุ่มโมนาร์ชที่เคยถูกพูดถึงใน ก๊อดซิลล่า เขาศึกษาเรื่องเกาะนี้อยู่จึงของบและทหารคุ้มกันจากวุฒิสมาชิกเพื่อสำรวจเกาะกะโหลก บิลยังว่าจ้างคอนราด อดีตทหารอังกฤษให้เป็นผู้นำทางและย้ำว่าต้องพาเขาให้รอดชีวิตออกจากเกาะกะโหลกให้ได้
ความสนุกในรอบนี้ เหมือนกับที่ได้เคยสัมผัสในจูราสสิคปาร์คภาคแรก ๆ คือทั้งคนดูและตัวละครเข้าไปในสถานที่ลึกลับที่สวยงามแต่แฝงอันตรายโดยไม่รู้ว่าจะมีอะไรโผล่มา บรรดาตัวละครนับสิบทั้งทีมนักวิทยาศาสตร์และเหล่าทหารถูกมอบหน้าที่ให้ปรุงรสชาติของหนังด้วยการเป็นเหยื่อ เมื่อบิล แรนด้าเผยว่าเกาะกะโหลกคือประตูเชื่อมโลกใต้พิภพที่มีบรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่มากมายและเหล่าตัวละครต้องเดินเท้าไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับตัวอะไร บรรดาสัตว์ประหลาดมากพิษสงก็โผล่มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจัดการกับเหล่ามนุษย์ ตัวลูกกระจ๊อกก็โดนจัดการก่อน ตัวเด่น ๆ ก็โดนทีหลัง ส่วนจะเหลือใครรอดไม่ต้องเดาก็รู้อยู่แล้ว หนังมีฉากขายแบบนี้หลาย ๆ ครั้ง ประเภทเดินไปในที่รก ๆ หมอกหนาเงียบ ๆ ให้ชวนลุ้นว่าตัวอะไรจะโผล่มา บางฉากก็โหดพอดู ฉากตุ้งแช่ให้ได้สะดุ้งก็มี เรียกว่ารอบนี้เหล่ามนุษย์โดนลดสถานะเหลือแค่ตัวประกอบจริง ๆ แต่ละตัวมาแบบตื้น ๆ ไม่ต้องไปรู้จักที่ไปที่มากันมาก เดี๋ยวก็ตายแล้ว
สำหรับคนที่รักที่ชอบตัวคิงคอง ภาคนี้น่าจะได้เห็นคิงคองเต็มจอกันแบบจุใจเพราะพี่คองออกมาเดินกันโล่ง ๆ ให้เห็นกันเต็ม ๆ ตัวจะ ๆ และภาพส่วนใหญ่เป็นตอนกลางวัน โชว์รายละเอียดกันทุกเส้นขน รายละเอียดบนผิวหน้าดวงตารอยแผลก็ทำกันแบบละเอียดยิบ มั่นใจขนาดแช่หน้าคองกันเต็ม ๆ จอให้เห็นกันทุกรูขุมขนเลย คองตัวนี้ได้ เทอรี่ โนตารี่ มารับบทต้นแบบโมชั่นแคปเจอร์ เทอรี่ นี่ก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการนี้ เคยร่วมงานกับเจ้าพ่อโมชั่นแคปเจอร์อย่าง แอนดี้ เซอร์คิส มาแล้วใน Rise Of The Planet Of The Apes (2011) , Dawn Of The Planet Of The Apes คองรอบนี้ตัวใหญ่กว่า KingKong (2005) ของปีเตอร์ แจ๊คสัน ที่สูง 25 เมตร แต่ตัวนี้สูงถึง 31 เมตร ถึงแม้คอง จะเปิดตัวในฐานะสัตว์ร้ายแต่ต้องลงท้ายตามระเบียบนิยม บทจะต้องเขียนให้คองเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วมนุษย์จะต้องกลายเป็นตัวร้าย ภาคนี้คองเลยต้องเหนื่อยเป็นพิเศษเพราะต้องเผชิญกับเหล่ามนุษย์ที่ต้องการกำจัดคอง และยังต้องฟัดกับตะกวดยักษ์สัตว์ประหลาดจากใต้พิภพที่เป็นคู่แค้นของคอง ฉากต่อสู้ระหว่างคองกับตะกวดยักษ์ลากยาวและทำได้มันส์มาก ตะกวดยักษ์ทำหน้าที่ได้สมกับเป็นบอสท้ายสุดจริง ๆ ตายโคตรยาก ดูแล้วสนุกกว่าดูหุ่นยักษ์สู้กันที่เห็นกันมาแล้ว 4 รอบแล้วมากมาย เสียดายไปนิดที่ทางค่ายปล่อยเหล่าตัวประหลาดออกมาเผยโฉมเกือบหมดในตัวอย่างหนัง ถ้าเก็บไว้ให้ลุ้นในหนังจะได้อรรถรสกว่านี้มาก
ถึงแม้เหล่าดาราจะอยู่ในสถานะตัวประกอบของเรื่องทั้งสิ้น แต่ก็นับได้ว่าเป็นหนังที่อัดดาราเบอร์รองกันมาได้แน่นขนัดมาก บางคนโผล่มาแค่ไม่กี่นาทีก็ยังมาเล่นนะ ทอม ฮิดเดิลสตัน ก็ได้รับบทพระเอกเต็มตัวในหนังทุนสูงเรื่องแรก แต่กับบทคอนราด อดีตทหารกรำศึกที่ผ่านสมรภูมิมามากดูยังไงก็ไม่เข้ากับบุคลิกของทอม ที่ดูเพรียวสะโอดสะอง กับการปูพื้นว่าคอนราดทั้งเก่งและมากประสบการณ์ ผมก็รอดูนะว่า คอนราดจะได้โชว์ทักษะของทหารเก่าพาทีมออกจากป่าอันตรายนี้อย่างไร แต่สุดท้ายก็ยังไม่เห็นว่าคุ้มค่าจ้างเลยนะ บรี ลาร์สัน ในบทวีฟเวอร์ช่างภาพสงคราม นี่ก็เป็นนางเอกหนังใหญ่เรื่องแรกหลังจากได้ออสการ์นำหญิงมา วีฟเวอร์เป็นบทที่ถูกยัดเข้ามาเพียงเพื่อให้เป็นสิ่งสวยงามในเรื่อง ไม่งั้นหนังก็จะมีแต่ผู้ชายเต็มไปหมด ซามูเอล แอล.แจ๊คสัน อีกแล้วววว มาเสียบแทน เจ.เค. ซิมมอนส์ ในบทผู้พันแพคคาร์ด นี่คือบททางฝั่งมนุษย์ที่ดูเด่นสุดและได้เวลาบนหน้าจอมากสุดแล้ว นอกนั้นก็ยังมี จอห์น ซี.ไรลีย์ ที่ได้เสียบแทนไมเคิล คีตัน, ริชาร์ด เจนกินส์ , เชีย วิกแฮม , จอห์น กู๊ดแมน , โทบี้ เคบเบล และ เทียน จิง นางเอกจาก The Great Wall ผู้หญิงอีกคนในเรื่องที่แทบไม่มีบทบาทไรเลย
อีกจุดที่ชอบมากใน Kong คืองานภาพ หนังมีมุมกล้องเท่ ๆ เยอะมาก โดยเฉพาะฉากคองทะเลาะกับฝูงเฮลิคอปเตอร์ เห็นชัดว่างานใหญ่เรื่องแรกของผู้กำกับจอร์แดน วอกต์ โรเบิร์ต นั้นไฟยังแรงอยู่ไอเดียยังล้นเหลือเลยใส่มาเพียบ ผมชื่นชมฮอลลีวู้ดตรงนี้แหละ ในการสุ่มหาผู้กำกับหน้าใหม่ แบบกล้าเสี่ยงหลายรอบแล้ว เอาหนังทุนร้อยล้านเหรียญไปยัดใส่มือผู้กำกับที่ทำมาแต่หนังหลักแสนเหรียญแต่ส่วนใหญ่ก็รอดนะ จอร์แดน นี่ก็เพิ่งกำกับหนังมาแค่เรื่องเดียว The King Of Summer หนังเปิดตัวในเทศกาลซันแดนซ์เมื่อปี 2013 แล้วได้รางวี่รางวัลจากเทศกาลเล็ก ๆ ตืดมือมา 3 ตัว แล้วไงก็ไม่รู้ไปเข้าตา ลีเจนดารี่ บริษัทผู้สร้างเรียกมากำกับKONG ทุนสร้าง 190 ล้านเหรียญเลย ก็ถือว่าสอบผ่านนะถ้ามองกันในแง่หนังหวังผลทางการตลาดแบบนี้ก็ตอบสนองได้เต็มที่ บทยังมีช่องโหว่อยู่บ้างซึ่งก็ไม่ใช่จุดด้อยสำคัญกับหนังตลาดแบบนี้ หนังมีฉากให้ลุ้นเพียบ ตัวประหลาดเต็มไปหมด ดูสนุกตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง ทีมงานหาโลเกชั่นมาสมมติเป็นเกาะกะโหลกได้สวยงามมาก อ่านเบื้องหลังแล้วไปถ่ายกันที่ โกลด์โคสต์ ออสเตรเลีย กับ โอฮู ในฮาวาย ที่เดียวกับที่ถ่ายทำ Jurassic World แนะนำอย่างยิ่งว่าควรดูจอใหญ่อย่าง IMAX คุ้มเงินคุ้มเวลาแน่นอน