สรุปก่อนเลย เผื่อใครขี้เกียจอ่านยาว
หนังไทยรสฮอลลีวู้ดแบบนี้หายากมาก เชื่อว่าน่าจะเป็นตัวเก็งได้ส่งไปชิงออสการ์จากประเทศไทยอีกเช่นเคย GDH ยังทำหนังบทได้แน่นเหตุผลส่งรับกันตลอด พัฒนาการตัวละครเป็นอะไรที่น่าตกตะลึงและน่าเชื่อ และที่ทำเอาขนลุกขนชัน ยกนิ้วโป้งให้หมดทุกนิ้วทั้งมือทั้งเท้าเลยคือ บททดสอบจริยธรรมที่ไม่ธรรมดาที่กระซวก คนดี ได้กระอั่กกระอ่วนมาก ๆ ไม่ขอบอกหรอกว่าแฟน GDH ควรดู แต่เชื่อว่าใครที่เคยเรียนเคยสอบในระบบการศึกษาแบบบ้านเรามา ควรต้องดู!
เคยมั้ยที่เพื่อนมาขอความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างขอลอกการบ้าน แล้วเราก็ให้ลอก ถ้าการบ้านให้ลอกได้งั้นแค่ข้อสอบสักข้อสองข้อที่มันยากโคตร ๆ ก็น่าจะพอบอกได้สิ ในเมื่อเพื่อนก็ดีกับเรามาก ๆ เขาอาจเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดี ถึงจะพยายามขนาดไหนก็สอบตกทุกที แต่บางคนก็ไม่ได้เกิดมาเก่งทำข้อสอบ เขาอาจจะเก่งเรื่องอื่น เอาคะแนนพวกนี้มาวัดค่าคนได้เหรอ ถ้างั้นแล้วแค่ช่วยนิดหน่อยได้ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ?
อ่านข่าวลูกกตัญญู (?) ขายยาบ้าเอาเงินมาช่วยพ่อแม่ที่แก่เฒ่าป่วยนอนโรงพยาบาล แล้วเรามีความเห็นแบบไหนล่ะ? อ่านข่าวคนทำร้ายตำรวจเพราะเหลืออดที่ถูกตำรวจขูดรีด ยัดข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม แล้วเรารู้สึกแบบไหนล่ะ? แม้จะไม่ตรงกับตัวหนังนัก แต่หนังก็สร้างบททดสอบจริยธรรมแบบที่คนในสังคมคนดีคนเก่งแบบบ้านเราควรต้องครุ่นคิดประมาณนี้เลยล่ะ
หนังเล่าเรื่องของ ลิน (ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) เด็กอัจฉริยะ ที่มีพ่อเป็นครูชั้นผู้น้อยธรรมดา ๆ และต้องเลี้ยงลูกสาวมาเพียงลำพังอย่าง ครูวิทย์ (ธเนศ วรากุลนุเคราะห์) เพราะความหวังให้ลูกสาวได้ดีที่สุดครูวิทย์จึงพาลูกมาเข้าโรงเรียนที่ค่าเล่าเรียนแพงหูฉี่แต่อนาคตได้เรียนต่อต่างประเทศสูง ลินรู้สถานะทางบ้านดีจึงปฏิเสธ แต่ ผอ.โรงเรียนเห็นโอกาสในการได้เด็กเรียนเก่งมาสร้างชื่อจึงเสนอทุนเรียนฟรีให้ เมื่อลินเข้าเรียนก็ได้พบกับเพื่อนคนแรก ที่บ้านรวยมาก ๆ อย่าง เกรซ (อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ) ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิท เกรซเรียนค่อนข้างอ่อนแต่เก่งในการแสดงละครเวที แม้เธอจะไปเรียนพิเศษกับครูประจำวิชาคณิตแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เข้าใจข้อสอบนัก เมื่อโรงเรียนกำหนดว่าคนจะเล่นละครเวทีต้องมีเกรดสูงกว่า 3.2 ลินจึงจำเป็นต้องช่วยติวให้เกรซ แต่แล้วเมื่อถึงวันสอบจริง ลินพบว่าข้อสอบทั้งหมดเหมือนกับในชีทเรียนพิเศษที่เกรซเคยเอาให้ดู เธอรู้ได้ทันทีว่าครูคณิตออกข้อสอบช่วยเด็กที่เรียนพิเศษกับตัวเองเท่านั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่ลินรับไม่ได้กับความอยุติธรรมในระบบการศึกษาที่ควรศักดิ์สิทธิ์ เธอจึงเขียนคำตอบให้เกรซลอกในที่สุด
หลายอย่างที่ตัวละครประสบ ทั้งความยากจน โชคชะตาที่ไม่เข้าข้าง พ่อแม่ที่เอาแต่คาดหวังและกดดัน ครูที่หวังแต่ผลประโยชน์ โรงเรียนที่หวังแต่เงิน ระบบการศึกษาและสังคมที่วัดค่าคนด้วยผลคะแนน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้พวกเขาต้องลุกขึ้นมาล้างแค้นระบบการศึกษาที่มันห่วยแตก
ด้วยการโกง
ตรงนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นจากการยอมโกงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสู้กับความไม่ยุติธรรมของลิน และกลายเป็นการเดินเข้าสู่ทางที่ยากจะแก้ไขมากขึ้น ๆ โดยมีตัวละครสำคัญที่เปรียบเหมือนเสียงด้านเลว คือแฟนหนุ่มของเกรซอย่าง พัฒน์ (เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ที่ใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง และเสียงด้านดี คือเด็กเรียนเก่งสู้ชีวิตและไม่ยอมต่อการทุจริตทุกกรณีอย่าง แบงค์ (นน-ชานน สันตินธรกุล) ในเกมแห่งความดีชั่วที่เส้นแบ่งเริ่มเลือนลงเรื่อย ๆ ตัวละครแต่ละตัวก็ถูกเกมผลักดันไปในทิศทางที่เราคาดไม่ถึง โดยเฉพาะบทสรุปของหนังพีคมากครับ
นี่คือหนังเรื่องล่าสุดและเรื่องแรกของปีนี้จากค่าย GDH ซึ่งมาแบบงง ๆ ไม่ให้สุ้มให้เสียงกันเลย แต่เชื่อว่าวัดจากความน่าสนใจของพลอตในตัวอย่างหนัง ความแปลกใหม่ของเนื้อหา นักแสดงวัยรุ่นหน้าใสที่ยังไม่ช้ำจากบทเก่า ๆ มากนัก ก็น่าจะทำให้ค่าย GDH มั่นใจในตัวหนังระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่งั้นคงไม่กล้าลงโปรแกรมฉายล่วงหน้ากันวันพุธ ตามแบบฉบับหนังฮอลลีวู้ดยักษ์ใหญ่ที่มักทำกันเช่นนี้แน่ ๆ
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับที่เคยมีงานเด่น ๆ อย่างหนังตัวแทนประเทศไทยส่งชิงออสการ์สาขาต่างประเทศ ปี 2014 เรื่อง เคาท์ดาวน์ ซึ่งก็มีความกล้าเล่นทางธริลเลอร์แบบที่ตลาดหนังไทยไม่ค่อยจะมีใครกล้าเสี่ยงทำนัก มารอบนี้บาสก็ยังมุ่งมั่นในแนวจริงจังซีเรียสเช่นเดิม แต่ปรับพล็อตมาเล่นเรื่องการโกงข้อสอบที่น่าจะใกล้ชิดกับเด็กไทยแบบสุด ๆ และด้วยความแม่นที่มากขึ้น หนังเลยไม่ลอยไม่หลุดมากเท่าเรื่องก่อนหน้า นี่จึงทำให้หนังเรื่องนี้ ดูมีของ ขึ้นมาทันที
หนังเรื่องนี้มีจุดเสียน้อยมาก ด้วยความเข้มแข็งของทีมเขียนบทขั้นเทพของ GDH ซึ่งพิสูจน์มาแล้วกับหนังหลาย ๆ เรื่องอย่าง แฟนเดย์ เป็นต้น มาในเรื่องนี้ บทนั้นนอกจากจะอุดรอยโหว่ให้พล็อตสุดเว่อวังให้น่าเชื่อ ขนาดที่ต้องร้องเชี่ยในช่วงการโกงข้อสอบระดับนานาชาติแล้ว บทยังส่งอารมณ์และความคิดคนดูไต่ระดับได้สุด ๆ คือดูนอกจากจะได้ความระทึกความสนุกแล้วยังได้ข้อคิดแบบไม่ถูกยัดเยียดอีกด้วย ด้านนักแสดงนั้นแม้จะไม่เยอะแต่ก็ทำให้เน้นโฟกัสพัฒนาการของแต่ละคนได้อย่างลงลึก และนักแสดงก็รับหน้าที่จากบทมาได้ดีมาก ๆ ด้วย คือแสดงกันดีจริง ๆ ไม่มีใครที่ย่อหย่อนกว่าใครเลย แม้แต่บทบางเบาสุดอย่าง เกรซยังส่งหน้าที่ของเพื่อนสนิทที่ต้องทำให้ลินก้าวเท้าสู่กลโกงได้อย่างน่าเห็นใจสุด ๆ แม้แต่ในช่วงหลังเองเราก็ยังเกลียดตัวละครนี้ไม่ลงจริง ๆ ต้องยอมรับฝีมือของ อุ้ม-อิษยา เลยที่บทไม่ส่งแต่เธอก็ผลักดันตัวละครมาได้ขนาดนี้ ดังนั้นคนอื่นที่บทส่งด้วยอย่าง ลิน พ่อ แบงค์ และพัฒน์ ยิ่งไม่ต้องพูดเลย
ข้อดีอีกอย่างคือโปรดักชั่นที่มีการคิดภาพมาสื่อกับเรื่องได้อย่างฉลาดมาก ๆ สวยมาก ๆ คอสตูม เมคอัพ ฉาก กิมมิกต่าง ๆ ที่ล้อกับการสอบการศึกษา โอ้ย! ทุกอย่างทำมาได้จริงมาก ฉลาดมาก แม้แต่ฉากต่างประเทศที่มักเป็นจุดอ่อนของหนังไทยที่มักคุมไม่อยู่ หนังเรื่องนี้ยังเอาอยู่เลย เจ๋งจริง ๆ
ดีขนาดนั้น ไม่มีข้อเสียเลยเหรอ จริง ๆ มันก็มี คือกลวิธีการโกงของลินในเรื่องอย่างการกดแป้นเปียโนในตัวอย่างหนัง มันถูกเขียนมาเพื่อรับกับส่วนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มดราม่ามากเกินไป ทั้ง ๆ ที่จริงคิดตามเหตุผลมันเป็นวิธีที่โฉ่งฉ่างและให้เพื่อนลอกยากมาก ๆ ถ้าตัวละครลินจะบอกเหตุผลที่ฉลาด ๆ ที่ว่าทำไมต้องใช้วิธีนี้ในหนังก็คงจะดีกว่านี้ ซึ่งมันก็เป็นแค่จุดเสียเล็กน้อยที่ไม่กระทบกับหนังล่ะนะ แต่มันก็สร้างความสะดุดสงสัยไปจนจบการดูอยู่ไม่น้อยเลย
เอาเป็นว่า หนังมีรสแปลกใหม่สำหรับหนังไทย แต่ดูสากลมาก ๆ แถมด้วยความแสบและช่างคิดของคนสร้างอย่างน่านับถือ ควรดู ไม่สิต้องดูล่ะ