Our score
8.0The Angry Birds Movie 2
จุดเด่น
- บทหนังดูหนักแน่นกว่าภาคแรกและดำเนินเรื่องติดตามง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- คาแรกเตอร์นำมีเสน่ห์ทุกตัว ชวนเอาใจช่วย
- ตัวขโมยซีนอย่างแมวน้ำและหมาน้ำแข็งคือ เดอะเบสต์
- ขยันปล่อยมุก ให้ฮาหนักมาก ขำจนอายคนในโรง
- มีคาแรกเตอร์น่ารักจนเผลอร้อง งุ้ย.. ไม่รู้ตัว
จุดสังเกต
-
ความสมบูรณ์ของบท
8.0
-
งานสร้าง ความสวยงามของภาพแอนิเมชัน
8.0
-
คุณภาพการพากย์.
8.0
-
ความสนุก ความฮา น่าติดตาม
8.0
-
ความคุ้มค่าตั๋ว
8.0
หลังกรำศึกปะทะกันมาเป็นเวลาช้านานก็ได้ฤกษ์ที่เหล่านกสายไฝ่ว์นำโดย เรด (เจสัน ซูไดคิส)นกแดงขี้โมโห, ชัค (จอช แกด)นกเหลืองเจ้าลมกรดช่างจ้อ, บอมบ์ (แดนนี แมกไบรด์)นกพี่เบิ้มที่สามารถผลิตระเบิดได้จากการผายลม และ ซิลเวอร์ (เรเชล บลูม)น้องสาวเจ้าปัญญาของชัคสมาชิกใหม่ในกลุ่ม จำใจต้องจับมือกับพวกหมูเขียวสุดแสบนำโดย ลีโอนาร์ด (บิล เฮเดอร์)หมูเคราแพะจอมกวน และคอร์ตนีย์ (อควาฟินา)หมูสาวลูกสมุน งานนี้คู่เกาเหลาจำต้องแท็กทีมเพื่อต่อกรกับเซต้า (เลสลี โจนส์) นกสาวแห่งเกาะน้ำแข็งศัตรูตัวใหม่ที่หวังทำลายเกาะหมูและเกาะนกแล้วยึดเป็นที่อยู่ใหม่เสียเอง งานนี้เหล่าหมูและนกต้องร่วมแรงกันหยุดยั้งอาวุธมหาประลัยของเซต้าก่อนบ้านของพวกเขาจะถูกก้อนน้ำแข็งทำลายยับเยิน
จากเกมดีดนกดีดหมูสุดฮิตในสมาร์ตโฟนรุ่นบุกเบิกสู่ภาพยนตร์ภาคแรกในปี 2016 กับ The Angry Birds Movie ที่เรียกได้ว่าทางสตูดิโออย่างโซนี่เป็นเสือปืนไวคว้าสิทธิ์ในคาแรกเตอร์สุดน่ารักและโดดเด่นมาทำหนังแอนิเมชันและทำเงินไปพอสมควร แต่โดยส่วนตัวแล้วอาจจะไม่ค่อยประทับใจกับหนังภาคก่อนนักเพราะเหมือนเนื้อเรื่องจะวนเวียนระหว่างการเอาชนะความโกรธของ เรด กับภารกิจปกป้องเกาะนกจากพวกหมูที่ยิ่งเล่าก็ยิ่งรู้สึกสับสน อีกอย่างการดำเนินเรื่องที่เร็วมากเปลี่ยนซีนแบบแทบไม่รอคนดูในหนังภาคแรก ก็ส่งผลให้มันกลายเป็นแอนิเมชันที่ดูแล้วจบกันไม่มีอะไรให้จดจำนัก ซึ่งก็น่ายินดีที่ผู้สร้างอย่าง SONY Animation เองก็ให้ความสำคัญกับตรงนี้ด้วยการยกเครื่องทีมเขียนบทและกำกับใหม่ ดังนั้นเราจะเห็นได้เลยว่าในส่วนของบทภาพยนตร์ดูมีโครงสร้างชัดเจน เควสต์ที่ฮีโรทั้งพวกนกและพวกหมูต้องตะลุยก็ดูสำคัญเป็นวิกฤติการณ์ที่หนักแน่นพอให้คู่อริมารวมตัวกันได้แถมยังเล่นมุกกาว ๆ ได้อย่างไม่ขัดเขินอีกด้วย ตัดสลับกับซับพลอตของเหล่าลูกนกตัวจิ๋วที่ดันเล่นกันเพลินจนไข่หลุดลอยไปในทะเลจนพวกเขาต้องหาสารพัดวิธีตามไข่กลับบ้านมาให้ได้ ซึ่งแต่ละวิธีนี่บอกเลยว่าคิดไม่ถึงแน่นอน ทำให้ในภาพรวมการดำเนินเรื่องของหนังภาคนี้ดูลื่นไหล ดูสนุก มันส์ ฮา และคนดูรู้ว่าจะเกาะเกี่ยวใครไปผจญภัยในภารกิจครั้งนี้ และยังทำให้คาแรกเตอร์ของทั้งสองฝั่งมีจุดที่ทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากอีกด้วย
สำหรับความดีงามในส่วนของบทภาพยนตร์ประการแรกเลยคือทำให้เรารู้ว่าทำไมเราควรต้องเอาใจช่วย เรด ด้วยการเอาปมนกสีแดงที่แปลกแยกจากตัวอื่นมาเล่นและขยี้ต่อด้วยสถานการณ์แรกคือพวกหมูขอสงบศึกที่ทำให้ เรด เกิดความไม่มั่นใจว่าหากเกาะนกสงบสุขเขายังจะเป็นที่รักของคนอื่น หรือถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งเอาจริง ๆ ปมมันดูเป็นผู้ใหญ่พอสมควรเลยนะ แต่ทีมบทก็รัดกุมพอจะเล่นในประเด็นต่อมาคือการทำงานเป็นทีมที่อาจต้องลดบทบาทตัวเองและให้กำลังใจทีมงานในภารกิจที่จะต้องไปหยุดอาวุธทำลายล้างของเจ้าแม่น้ำแข็งอย่าง เซต้า ซึ่งก็ถือเป็นข้อคิดที่ดีไม่น้อยเลยที่บทหนังเรื่องนี้จะสอนให้เด็ก ๆ เข้าสังคมและรู้จักปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมโลกด้วยความอ่อนโยนในยุคที่หลายคนพาตัวเองไปอยู่ในโลกโซเชียลกันหมด ดังนั้นการที่ได้เห็น เรด ค่อย ๆ ลดทิฐิตัวเองแล้วหันหน้าไปฟังทีมและบทสรุปที่สวยงามก็น่าจะกล่อมเกลาเด็ก ๆ ที่ได้ดูหนังอย่างดีเลยล่ะ.
อีกประการคือเรื่องของการยอมรับในความแตกต่าง..ตั้งแต่การนำหมูสีเขียว กับพวกนกมารวมตัวกัน ซึ่งในหนังภาคแรก แม้ว่าพวกหมูจะมีความตลกแค่ไหนแต่ด้วยสถานะผู้ร้ายเราเลยไม่ค่อยได้เรียนรู้หรือเห็นอีกด้านของเหล่าหมูเขียวเท่าใดนัก แต่กับหนังภาคนี้ที่ให้บทบาทกับ ลีโอนาร์ด และคอร์ตนีย์ ได้มีบทบาทเด่นมากขึ้นก็ทำให้เห็นด้านที่อ่อนโยน ความรักในพวกพ้องและความร่วมมือร่วมใจที่หวังให้ทั้งเกาะนกและเกาะหมูผ่านวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้จนเราเผลอมอบหัวใจให้พวกหมูไปแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ
และแน่นอนว่านอกจากสาระและข้อคิดแล้วก็คือความบันเทิงที่ The Angry Birds Movie 2 ก็ขยันปล่อยมุกให้คนดูบริหารขากรรไกรกันทุก ๆ 2 นาที นอกจากมุกดีดตัวดีดของไปทำลายล้างกันที่ดูบันเทิงกว่าหนังภาคแรกแล้ว ในภาคนี้ยังเพิ่มตัวขโมยซีนอย่าง แมวน้ำอุ๋งอุ๋ง ที่ชอบขโมยของเซต้าแล้วขยิบตาให้ หรือหมาแช่แข็ง…เอ่อ..มันเป็นหมาที่มีชีวิตอยู่ในก้อนน้ำแข็งจริง ๆ นะ ที่ดูแล้วน่าสงสารแต่ก็อดขำไม่ได้ เช่นเดียวกับพวกบรรดา “เบบี๋” ทั้งหลายที่จะมาเติมอาการ “งู้ย” ให้คนดูโดยเฉพาะลูกนก 3 ส่วนตัวกับภารกิจหาไข่ที่ได้เด็ก ๆ ลูกคนดังอย่างลูกสาวของนิโคล คิดแมน กับ คีธ เออร์เบิน มาพากย์เสียงทั้ง เฟธ เออร์เบิน ในบท บีอาทริซ และ ซันเดย์ เออร์เบิน ในบท ลิลลี ร่วมกับเหล่าเด็ก ๆ คนดังอย่างหนู บรุคคลินน์ พรินซ์ (Brooklynn Prince) สาวน้อยที่เคยขโมยหัวใจผู้ชมจาก The Florida Project ในบทโซอี้ ลูกนกสีชมพูดสุดน่ารัก หรือจะเป็น โจโจ ซิวา (Jojo Siwa) ก็มาให้เสียงพากย์เป็น เจย์ ลูกนกสีฟ้า เช่นเดียวกับนักร้องดังที่ตบเท้ามารับเชิญพากย์เสียงกันหอมปากหอมคอทั้ง นิคกี มินาจ นักร้องดัง โดฟ แคเมอรอน จากซีรีส์ดิสนีย์อย่าง The Descendants หรือ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ จากซีรีส์ Game of Thrones ก็มาพากย์บทสำคัญเช่นเดียวกัน
โดยสรุปแล้วถือว่า The Angry Birds Movie 2 สอบผ่านในแง่การเป็นหนังบันเทิงที่แค่เอาคาแรกเตอร์จากเกมมาสานต่อเรื่องเล่าใหม่ได้อย่างสวยงาม ทั้งการออกแบบงานภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซีนผจญภัยที่ดูแล้วลุ้นตาม การออกแบบคาแรกเตอร์ให้มีเสน่ห์และการพากย์เสียงที่รับส่งมุกได้ดีทั้ง เจสัน ซูไดคิส ที่ทำให้ เรด เจ้านกจอมไฝ่ว์มีเสน่ห์น่าจดจำ, บิล เฮเดอร์ ที่เอาความเป็นดาราตลกใส่ในเสียงพากย์ของ ลีโอนาร์ด หัวหน้าหมูเคราแพะ, จอช แกด ที่เราเพิ่งได้ยินเขาพากย์เป็น โอลาฟ ไปใน Frozen 2 หรือจะเป็นอควาฟินา ที่เสียงแหบเสน่ห์ของเธอทำให้ คอร์ตนีย์ กลายเป็นตัวละครที่เรารอฟังเสียงที่สุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงข้อคิดดี ๆ และมุกตลกที่เวิร์กก็ทำให้หนังน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เข้าโรงไปคลายเครียดกันครับ.
หนังเข้าฉายรอบสนีคพรีวิว รอบบ่าย 2 เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ 5 – 9 ธันวาคม และเข้าฉายจริงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ใครสะดวกรอบไหนไปคลายเครียดกันเด้อ..
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส