กลายเป็นเรื่องดราม่าชามใหญ่ของแฟน ๆ Star Wars ขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง (นอกจากเรื่องผู้กำกับตีกัน) เมื่อข้อสังเกตของแฟน ๆ ที่ชื่นชอบตัวละคร “โรส ทิโค” นำแสดงโดย Kelly Marie Tran ซึ่งมีบทเด่นในภาค The Last Jedi คู่กับตัวละครของ “ฟินน์” ที่แสดงโดย John Boyega ต่างคาดหวังว่าในภาค The Rise of Skywalker เธอจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น (เช่นเดียวกับบท “แลนโด คาริสเซียน” เพื่อนนักขับยานของฮาน โซโล จากตัวประกอบในภาค Empire Strikes Back ก็ได้มามีบทบาทสำคัญใน The Return of Jedi ซึ่งกับภาคล่าสุดนี้ก็กลับมารับเชิญด้วย) และหนังจะมีบทสรุปที่ลงตัวให้กับตัวละครตัวนี้ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อโรสกลายเป็นยิ่งกว่าไม้ประดับของเรื่อง จากการปรากฏตัวแค่ 76 วินาทีจากความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 22 นาทีของภาคนี้ เทียบกับ 11 นาที จากภาค The Last Jedi อย่างคนละเรื่อง
นักแสดง Kelly Marie Tran รับบท โรส ใน The Rise of Skywalker แค่ 76 วินาที
บทโรสใน The Last Jedi ที่มีบทบาทอยู่ 11 นาที
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ก่อนหนังฉาย 1 เดือน สื่อได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Tran และเธอก็ได้ตอบไว้อย่างตื่นเต้นว่า
“ฉันคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมากที่ทุกคนจะได้เห็นการอยู่ร่วมกันของเหล่าเจได ซึ่งพวกเราไม่เคยได้เข้าร่วมฉากด้วยกันมาก่อนเลย ฉันว่ามันเท่มากที่จะมีพลังของเจไดหญิงและนักสู้หญิงปรากฏในหนังที่เต็มไปด้วยผู้ชาย เพราะไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พวกเขาต่างลุกขึ้นสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกันนั้นคือ สู้เพื่อคนรักด้วยความศรัทธา”
Kelly Marie Tran เคยต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงในการที่เธอมารับบทโรสจากโลกออนไลน์เมื่อครั้งที่เธอใน The Last Jedi เมื่อปี 2017 ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมในการมารับบทเป็นตัวละครสำคัญ เพราะการเป็นผู้หญิงเอเชียและหุ่นไม่เซ็กซี่จึงตกเป็นเป้าของการโจมตี คำประณามและการด่าทอได้ถาโถมเธอถึงขนาดเธอต้องลบบัญชีอินสตาแกรมทิ้ง ทีมนักแสดงของ Star Wars รวมถึงผู้กำกับ Rian Johnson ต่างออกมาให้กำลังใจจนเธอยอมกลับมารับบทโรสอีกครั้ง เพื่อใช้บทนี้ในภาคสุดท้ายพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประมาทนั้น แต่จาก 76 วินาทีในหนังของ Abrams ที่เธอได้รับ ก็ดูจะเป็นการปิดประตูแห่งโอกาสของเธอลงไปแล้ว
Kelly Marie Tran ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ปี 2018
เพื่อนนักแสดงอย่าง Joonas Suotomo ผู้มารับช่วงต่อในบทของ “ชิวเบคกา” ต่อจากนักแสดง Peter Mayhew ผู้ล่วงลับได้ทวีตข้อความถึงช่วงเวลาประทับใจของปี 2019 เมื่อแฟน ๆ Star Wars ในงาน Star Wars Celebration ได้ยืนขึ้นปรบมือเพื่อชื่นชม Tran อย่างท่วมท้น ซึ่งเขารู้สึกว่านั่นคือสิ่งที่เธอควรจะได้รับมากกว่าที่ควรจะเป็น
One of the best moments of 2019 was seeing the standing ovation that Kelly Marie Tran received from fans at Star Wars Celebration. She deserves applause every time she enters a room 👏 pic.twitter.com/vhndSRinDH
— Joonas Suotamo (@JoonasSuotamo) December 28, 2019
Rian Johnson ก็ได้ทวีตรูปของ Tran สวมชุดสีแดง (สี Theme ของ The Last Jedi) อย่างสง่างามในรอบเปิดตัวของ The Rise of Skywalker พร้อมกับไอคอนอีโมจิรูปมงกุฎ ซึ่งสื่อความหมายได้ว่า เธอได้รับชัยชนะแล้วจากการถูกบูลลี่อย่างหนักเมื่อ 2 ปีก่อน และกลับมาแสดงในบทนี้ได้อีกครั้ง (ถ้าเป็นคนไทยก็ต้องใช้คำว่า “มงต้องลง”)
— Rian Johnson (@rianjohnson) December 21, 2019
จากเหตุการณ์นี้ก็ชวนให้คิดว่า ตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตถึงการกลับมาเปลี่ยนแปลงเรื่องราวของไตรภาคสุดท้าย The Rise of Skywalker ของ Abrams ถึงขั้นล้างบางหรือ “ซ่อม” สิ่งที่ Johnson ได้กำกับเอาไว้ในภาค The Last Jedi ตัวละครโรสจึงอาจตกเป็นเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบนี้ เมื่อไม่ใช่ตัวละครที่ Abrams สนใจจะเล่าต่อหรือสำคัญเท่ากับตัวละครอื่นที่ Abrams สร้างมาตั้งแต่ภาค The Force Awakens ครั้นจะไม่ใส่ไว้ในเรื่องหรือปล่อยให้ตัวละครหายไปดื้อ ๆ ก็ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องใส่ไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ และเพราะเขาไม่ได้อยู่ร่วมมีส่วนไปกับการต่อสู้ของ Tran ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
In no way was I referring to Kelly when I made my comments although the interviewer mentioned her given the topic. I was really speaking from my own perspective throughout this franchise. Sometimes I’ve felt strong and sometimes I’ve felt weak. Badly worded though. I apologize.
— John Boyega (@JohnBoyega) December 12, 2019
ภายหลังหนังเข้าฉาย Kelly Marie Tran ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ความจริงแล้วเธอได้ถ่ายทำฉากที่แสดงไว้ร่วมกับฟุตเตจของ Carrie Fisher ผู้ล่วงลับที่สวมบทในตำนานอย่างเจ้าหญิงเลอาเอาไว้ และคาดว่าทั้งผู้กำกับ Abrams และทีมตัดต่อจะนำฟุตเตจที่ถ่ายกันคนละเวลาแต่เป็นฉากเดียวกันนั้นไปใช้ แต่เธอก็เพิ่งมาทราบเอาตอนหนังฉายแล้วนี่เองว่าไม่มีฉากนั้น นอกจากนี้ แฟน ๆ ก็ยังได้เคยเห็นภาพโปรโมตซึ่งเป็นฉากที่เธอร่วมกับเรย์ ตัวละครหลักของเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เห็นฉากนั้นในหนังแต่อย่างใด
ฉากโรสกับเรย์ที่ปรากฏในการโปรโมต แต่แฟน ๆ ไม่เห็นในตอนที่ออกฉาย
ด้านผู้เขียนบทอย่าง Chris Terrio ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นนี้เช่นกันว่า ในตัวบทหนังนั้นมีฉากที่จะได้เห็นโรสทำงานอยู่เคียงคู่กับเจ้าหญิงเลอาในการบัญชาการศึกด้วย อย่างไรก็ตาม เขาก็เข้าใจเหตุผลดีว่า แม้ฉากนี้จะถูกเขียนขึ้นจากการเรียงร้อยฟุตเตจที่เคยถ่ายไว้ของ Fisher มาประกอบหนังภาคสุดท้ายให้สมบูรณ์ที่สุด ฉากนี้ก็อาจจะถูกตัดทิ้งไปจากหนังตามแนวทางที่ Abrams เห็นว่าเหมาะสมในห้องตัดต่อก็ได้
Kelly Marie Tran ถ่ายภาพกับนักแสดงหลักในภาค The Last Jedi
ผู้กำกับ John M. Chu ผู้เคยมีผลงานอย่าง G.I. Joe: Retaliation และ Now You See Me 2 แต่มาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับหนังที่ตีแผ่เรื่องราวของคนเอเชียไว้อย่าถึงพริกถึงขิงใน Crazy Rich Asian ก็ได้ออกมาทวีตข้อความเพื่อสนับสนุน Tran รวมถึงยังออกตัวว่า อยากให้ Disney+ นำเรื่องราวของตัวละครโรสไปสร้างเป็นซีรีส์และเขาจะมากำกับให้ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #RoseTicoDeservedBetter และ #JusticeforRose ซึ่งก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็วในไม่กี่วัน
Ok @disneyplus . Put me in coach. Let’s make this series happen. #RoseTicoDeservedBetter @starwars
— Jon M. Chu (@jonmchu) December 27, 2019
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การที่เธอเป็นผู้หญิงเอเชียและค่อนข้างเจ้าเนื้ออันไม่ใช่พิมพ์นิยมของแฟนหนังทั่วไป ในมุมหนึ่งก็เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่พร้อมจะลุกขึ้นสู้กับอำนาจอันยิ่งใหญ่ อันเป็นหัวใจสำคัญของ Star Wars ที่เป็นเรื่องของคนตัวเล็ก ๆ ที่ต่อสู้กับอำนาจมืดอันยิ่งใหญ่มาในทุก ๆ ภาค ซึ่งน่าจะโดนใจแฟนเดนตายของ Star Wars จนกลายเป็นมาเป็นแฟนของตัวละครโรสด้วยนั่นเอง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส