Our score
9.4Military Wives
จุดเด่น
- เพลงในหนังคือโคตรเพราะ
- เรื่องราวลึกซึ้ง น่าประทับใจ
- นักแสดงมีเสน่ห์ในตัวเองทุกคน
- มุกตลกทำให้ฮาครืนได้ทั้งเรื่่อง
จุดสังเกต
-
ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง ถ่ายภาพ บันทึกเสียง
10.0
-
ความสนุก น่าประทับใจ
10.0
-
คุ้มค่าตั๋ว
9.0
เมื่ออังกฤษส่งทหารไปประจำการที่อัฟกานิสถาน เหล่าแม่บ้านแห่งค่ายทหารจึงฟอร์มวงประสานเสียงเพื่อหวังใช้เวลาแต่ละวันไปกับกิจกรรมที่ทำให้พวกเธอเลิกกังวลถึงสามีในแนวหน้า โดยมีโต้โผหลักคือ เคต (คริสติน สก็อต โธมัส) คุณเมียผู้พันเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว และ ลิซ่า (ชารอน ฮอร์แกน) คุณเมียจ่าหมาด ๆ ผู้มีพื้นฐานทางดนตรี ทั้งสองได้ฝึกซ้อมเหล่าบรรดาเมีย ๆ ของเหล่านักรบเพื่อร้องเพลงรักจากใจของพวกเธอจนโอกาสใหญ่มาถึงเมื่อพวกเธอได้โอกาสไปแสดงในวันรำลึกทหารผ่านศึกที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ และระหว่างทางที่ท่วงทำนองถูกขับขานเรื่องราวความรัก มิตรภาพ การสูญเสียและกำลังใจที่มีให้กันจะทำให้คุณยิ้มทั้งน้ำตา
Military Wives นับเป็นงานคัมแบกคืนฟอร์มของ ปีเตอร์ คัตทานัว กลับมาอยู่ในสปอตไลต์อีกครั้ง ทิ้งห่างจาก The Full Monty ในปี 1997 ที่หลายคนยังประทับใจไม่หายและโดยปริยายที่เราแอบเห็นสูตรสำเร็จที่ผู้กำกับยังนำมาใช้โดยเฉพาะการรวมตัวกันของกลุ่มคนนอกสายตาที่มารวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อค้นพบคุณค่าในตัวเอง แม้โดยภาพรวมเราจะยังสลัดภาพและความประทับใจในเรื่องราวของเหล่าคนงานชายที่มารวมตัวกันฟอร์มทีมระบำเปลื้องผ้าเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวจากหนังเรื่องก่อนไม่ได้ แต่ Military Wives ก็พิสูจน์ฝีมือของ คัตทานัว ไม่น้อยเลยว่าต่อให้ทำหนังสูตรสำเร็จแต่ถ้ามือถึงหนังก็ออกมาน่าประทับใจแถมคราวนี้ยังเอาเรื่องจริงเป็นต้นทุนในการเล่าเรื่องได้ฉลาดอีกด้วย
โดยทั่วไปหากเรานึกถึงหนังที่มีองค์ประกอบคือทหารและสงคราม ก็คงหนีไม่พ้นภาพเดิม ๆ คือทหารออกรบอย่างดุเดือดและมักจะลงเอยด้วยเรื่องของความรัก ความเสียสละของเหล่าชายชาติทหาร โดยซีนที่เล็กที่สุดและแทบจะถูกแทรกในลำดับสำคัญรองลงมาก็หนีไม่พ้นซีนภรรยาและลูก ๆ ที่รอคอยการกลับมาของหัวหน้าครอบครัวอันเป็นที่รัก แต่ Military Wives ได้นำภาพแนวหลังของสงครามอย่างบรรดาแม่บ้านทหารมาบอกเล่าได้อย่างน่าประทับใจโดยนำวัตถุดิบชั้นดีอย่างเรื่องจริงของเหล่าชมรมประสานเสียงแม่บ้านทหารที่ต่อมากลายเป็นรายการทีวี Military Wives ทางช่อง BBC มาโขลกเข้ากับเรื่องราวดราม่าในครอบครัวที่คนสัมผัสได้ไม่ยากคลุกเคล้าเรื่องราวมิตรภาพการให้กำลังใจกันของพวกเธอก็ก่อเกิดเรื่องประทับใจได้ไม่ยาก แต่ที่ต้องชื่นชมเป็นพิเศษคือรายละเอียดตัวละครนำทั้ง เคต และ ลิซ่า ที่ถูกออกแบบมาอย่างเข้าอกเข้าใจและตรึงความสนใจคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง
โดยหนังแนะนำให้เรารู้จักตัวละครทั้งสองให้เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่ต้นเรื่องและโยนบุคลิกที่ต่างกันสุุดขั้วให้ทั้งสองตัวละคร เคต ในฐานะภรรยาผู้พันมักจะเหน็บแนม ลิซ่า เสมอว่าไม่เคยเอาจริงเอาจังหรือควบคุมสมาคมอย่างมีระบบ นั่นทำให้เคตมักพูดขัดหรือแสดงภาวะผู้นำจนสร้างความอึดอัดให้ลิซ่าเสมอ ส่วน ลิซ่า แม้จะจัดการชีวิตตัวเองได้ไม่ดีนักทั้งลูกสาวที่ชอบหนีเที่ยว ไม่ยอมจัดบ้าน แต่ด้วยทักษะทางดนตรีและการเป็นที่รักของเพื่อน ๆ มากกว่าเลยทำให้เธอเป็นที่ยอมรับในแบบที่ เคต เป็นไม่ได้ แต่อ่านถึงตรงนี้อย่าเข้าใจว่าหนังจะเต็มไปด้วยฉากเถียงกันจะเป็นจะตายสุดท้ายรักกันอย่างไร้เหตุผลนะครับ ตรงกันข้ามบทหนังจัดการให้ความขัดแย้งได้คลี่คลายลงอย่างมีที่มาที่ไป และค่อย ๆ เติมความเป็นมนุษย์ไปทีละน้อย
โดยเฉพาะกรณีของ เคต ที่หนังทำให้เราได้รับรู้ว่าอดีตเธอเคยสูญเสียคนที่รักและมันส่งผลให้เธอเริ่มหาที่ยึดเหนี่ยวโดยหนึ่งในนั้นคือการชอปปิงของทางทีวีไดเร็ก แม้จะไร้ประโยชน์แค่ไหนก็ตามเพื่อเติมเต็มช่องว่างในหัวใจนั่นทำให้เราไม่อาจเกลียดตัวละครอย่างเคตได้เลย อีกทั้งเรายังค่อย ๆ ได้สัมผัสมิตรภาพที่ค่อย ๆ เบ่งบานระหว่างสองสาวที่ต่างกันสุดขั้วผ่านเหตุการณ์ทีละอันพันละน้อยเช่นซีนที่ เคต ช่วยลูกสาวของ ลิซ่า ตอนเมาหรือฉากที่ทั้งคู่ซ้อมวงประสานเสียงที่เคตเริ่มมองเห็นและยอมรับในศักยภาพของลิซ่าทีละน้อยและยังช่วยสอนลิซ่าให้กลายเป็นแม่ที่ดีได้อีกด้วย ก่อนจะถึงปมขัดแย้งสุดท้ายที่ทำให้เราได้ลุ้นว่าพวกเธอจะได้แสดงการขับร้องวงประสานเสียงสุดไพเราะหรือไม่ได้แบบโคตรลุ้นอย่างยิ่ง
สำหรับจุดขายของหนังแน่ละจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเพลงที่นำมาใช้คัฟเวอร์แบบประสานเสียง และแม้เพลงในตัวอย่างหนังจะเป็นเพลง Time After Time ของ ซินดี ลอว์เปอร์ แต่เพลงที่โดดเด่นมากในเรื่องกลับเป็นของเพลง Only You ของวง Flying Pickets ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่ได้อย่างไพเราะและยังได้ความหมายที่ลึกซึ้งถึงการรอคอยคนรักของเหล่าแม่บ้านทหาร แต่ทีเด็ดจริง ๆ คือเพลงสุดท้ายที่แม่บ้านเอาถ้อยคำในจดหมายของสามีมาเรียบเรียงเป็นเนื้อเพลงที่เชื่อว่าใครต่อมน้ำตาแตกง่ายไม่น่ารอดแน่นอน ยิ่งประสานการแสดงของทั้งนักแสดงนำอย่าง คริสติน สก็อต โธมัส และ ชารอน ฮอร์แกน ก็ทำให้ตอนจบของหนังประทับใจเหนือคำบรรยายทั้งปวง
โดยรวมแล้ว ท่ามกลางกระแสหนังซูเปอร์ฮีโร่ หนังแอ็กชัน และหนังผีที่ถือเป็นโปรแกรมสามัญประจำโรงหนังแล้ว การเข้าฉายของ Military Wives ก็นับเป็นหนังที่มาเป็นตัวช่วยฮีลจิตใจสำหรับใครที่อยากผ่อนคลายจากสารพันปัญหาชีวิต เศรษฐกิจ การเมือง ที่เชื่อว่าการเข้าโรงหนังดูเรื่องราวเบาสมองพร้อมเพลงประสานเสียงเพราะ ๆ น่าจะทำให้เบิกบานและออกจากโรงมาพร้อมสู้กับปัญหาได้อย่างฮึกเหิมไม่น้อยเลยทีเดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส