โอลิเวีย แจ็กสัน สตันท์หญิงวัย 36 ปี ต้องรับสภาพทุกข์ยากจากอาการบาดเจ็บสาหัส หลังประสบอุบัติรุนแรงในระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ Resident Evil: The Final Chapter ในเรื่องนี้เธอรับหน้าที่เป็นนักแสดงแทน มิลลา โจโววิช ในฉากผาดโผนเสี่ยงตาย ในฉากนี้เธอต้องขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วสูง กล้องถ่ายภาพยนตร์ที่บันทึกภาพนี้ติดอยู่บนเครนที่ยื่นออกมาจากรถอีกคันที่วิ่งเข้าหาเธอ จากตอนที่ซ้อมเมื่อใกล้จุดปะทะรถที่ติดกล้องจะหักออก แต่เมื่อถ่ายทำจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น รถมอเตอร์ไซค์ที่เธอขี่วิ่งชนเข้ากับรถคันที่ติดกล้องเข้าอย่างจัง
โอลิเวีย บาดเจ็บสาหัส เธออยู่ในอาการโคมาถึง 17 วัน สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดกับเธอ คือแพทย์ต้องตัดแขนซ้ายของเธอ ตั้งแต่เหนือข้อศอกลงไป แต่สภาพร่างกายเธอยังมีอาการบาดเจ็บอีกมาก กระดูกสันหลังบิดผิดรูป เป็นอัมพาตบริเวณด้านบนซ้ายของร่างกาย หัวไหล่เคลื่อน นิ้วโป้งมีบาดแผลรุนแรง ปอดทะลุ ซี่โครงหัก มีอาการบาดเจ็บที่เส้นประสาทส่วนปลาย และมีแผลเป็นบนใบหน้า
โอลิเวีย แจ็กสัน ยื่นฟ้องผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน และเจเรมี โบลต์ ผู้อำนวยการสร้าง กับศาลในสหรัฐอเมริกา มาตั้งแต่กันยายน ปีที่แล้ว เธอเรียกร้องค่าเสียหายจากทั้งคู่โดยไม่ได้ระบุจำนวนเงิน ทางจำเลยก็ยื่นคำร้องกลับ แสดงเจตจำนงขอจำหน่ายคดี โดยอ้างว่า “ทนายยื่นฟ้องร้องผิดตัวบุคคล และผิดสถานที่” คำร้องเป็นอันตกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จนเรื่องราวคดีความย้ายมาว่ากันต่อในศาลที่แอฟริกาใต้ มีผลการตัดสินออกมาในสัปดาห์นี้ ศาลสูงในแอฟริกาใต้ได้ตัดสินให้ โอลิเวีย แจ็กสัน เป็นผู้ชนะคดีในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ศาลได้ลงความเห็นว่า บริษัท บิกเกอร์ แอ็กชัน ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในแอฟริกาใต้นั้น และเป็นผู้รับผิดชอบงานสตันท์ในหนังเรื่องนี้ “ได้ดำเนินการภายใต้การวางแผนที่ไม่รัดกุม”
ในขณะเดียวกันนี้ กุสตาฟ มาเรส และ โรแลนด์ เมลวิลล์ จากบริษัท บิกเกอร์ แอ็กชัน ก็ได้โต้แย้งว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความผิดพลาดของ โอลิเวีย แจ็กสัน ในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งศาลไม่รับพิจารณาในข้อกล่าวอ้างนี้ โดยศาลอ้างถึงเหตุนี้ว่า โอลิเวีย ในฐานะโจทก์นั้น ไม่ได้ยินยอมสมัครใจที่จะรับความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เธอไม่ได้รับรู้มาก่อนเลยว่าผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน นั้น ได้มีคำแนะนำให้คนขับรถติดเครนถ่ายภาพนั้น ลดระดับความปลอดภัยลงจากตอนซ้อม เพราะเขาต้องการภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น
“ฉันคิดถึงใบหน้าเดิม ร่างกายเดิม ชีวิตเดิมของฉัน แต่อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็มาถึงจุดที่ศาลได้ตัดสินแล้วว่าสาเหตุครั้งนี้มาจากการวางแผนที่เลวร้ายของทีมสตันท์ไม่ใช่ความผิดของฉัน”
โอลิเวีย แจ็กสัน กล่าวหลังได้รับฟังคำพิพากษา
“การทำหนังแอ็กชันนั้นเป็นงานต้องการคนที่ออกไปเสี่ยงอันตราย ซึ่งเขาจำเป็นต้องมีการวางแผนที่รัดกุมและดำเนินการด้วยความระมัดระวังมาก ๆ พวกเขามีการทำประกันภัยสำรองไว้ด้วย ในกรณีที่นักแสดงหรือทีมงานอาจจะต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรุนแรง”
ความเห็นจาก จูเลียน แชมเบอร์เลน หนึ่งในทีมงานที่ปรึกษาของโอลิเวีย แจ็กสัน
การไต่สวนครั้งต่อไป จะเป็นการประเมินมูลค่าความเสียหายที่โอลิเวีย แจ็กสัน สมควรจะได้รับ จะเกิดขึ้นในอีก 1 หรือ 2 ปี จากนี้