[รีวิว] I Still Believe จะรักให้ร้อง จะร้องให้รัก – ศรัทธา ปาฏิหาริย์ ในเรื่องรักที่เล่าได้ลงตัวเกินคาด

Our score

7.6

[รีวิว] I Still Believe จะรักให้ร้อง จะร้องให้รัก – ศรัทธา ปาฏิหาริย์ ในเรื่องรักที่เล่าได้ลงตัวเกินคาด

จุดเด่น

1. เรื่องราวความรักทำได้ลึกซึ้งกินใจ
2. การถ่ายทอดงานภาพงดงาม
3. เคเจ อาปา และ บริต โรเบิร์ตสัน เล่นได้ถึงหัวจิตหัวใจคนดู
4. เสียงเพลงของ เจเรมี แคมป์ ในโรงหนังคือทรงพลังมาก

จุดสังเกต

1. ตัวละครในเรื่องไม่ค่อยมีมิติเท่าที่ควร

• ตรรกะ ความสมบูรณ์ ของ บทภาพยนตร์

  7.0

• คุณภาพงานสร้าง

  7.5

• คุณภาพนักแสดง

  8.0

• ความสนุก ความลึกซึ้งตามแนวหนัง

  8.0

• ความคุ้มค่าตั๋ว

  7.5

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

I still believe หนึ่งในหนังค้างโปรแกรมก่อนโรงหนังปิดช่วงไวรัส COVID-19 ระบาด ที่ปล่อยตัวอย่างออกมาพร้อมจั่วหัวโฆษณาว่าสร้างจากเรื่องจริงระหว่าง เจเรมี แคมป์ นักร้องเพลงศาสนาร่วมสมัย 4 อัลบั้มแผ่นเสียงทองคำ กับ เมลิสซา ลินน์ เฮนนิง แคมป์ ภรรยาคนแรกที่เป็นแรงบันดาลใจให้เพลงดังหลาย ๆ เพลง และส่งให้แคมป์กลายเป็นซูเปอร๋์สตาร์แห่งเพลงสำหรับคริสเตียนจนถึงทุกวันนี้

หนังจะเล่าเรื่องราวของ เจเรมี แคมป์ (เคเจ อาปา) ช่วงเป็นนักศึกษาหนุ่มในมหาวิทยาลัย ที่สบโอกาสได้พบรักกับ เมลิสซา (บริต โรเบิร์ตสัน) ในงานดนตรีของมหาวิทยาลัย และในขณะที่ความรักของทั้งคู่กำลังงอกงาม มะเร็งรังไข่ก็มาคุกคามชีวิตของเมลิสซา แม้เจเรมีจะเริ่มมีชื่อเสียงในวงการเพลงแต่เขาก็เลือกจะอยู่ดูแลชีวิตของเธอ ไปพร้อม ๆ กับนำแรงบันดาลใจจากความรักของพวกเขาและศรัทธาต่อพระเจ้ามาแต่งเป็นเพลงศาสนา โดยหวังเพียงปาฏิหาริย์จากพระเจ้ามาช่วยให้มะเร็งร้ายหายไปจากร่างกายของเมลิสซา

ยอมรับเลยว่าตอนเห็นตัวอย่างหนังครั้งแรก โดยส่วนตัวแล้วแทบจะหนีห่างจากหนังพอสมควร เพราะตัวอย่างหนังคือมาทางงานขายความโรแมนติกแบบเข้ม ๆ และโดยส่วนตัวคือยังไม่เชื่อว่า บริต โรเบิร์ตสัน ในหนังที่ดูมาหลายเรื่อง เห็นความตั้งใจแต่ยังไม่เห็นเสน่ห์ และ เคเจ อาปา ไอ้หนุ่มพระเอก Riverdale ที่เคยแต่เน้นขายความเซ็กซี่ให้สาว ๆ จะนำพาเรื่องราวเรียบ ๆ แต่กินใจของเจเรมี แคมป์ ให้คนดูได้ซาบซึ้งได้

แต่ก็ต้องขอบคุณงานกำกับของ จอน และ แอนดรูว์ เออร์วิน ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้มีจังหวะจะโคน และโดยส่วนตัวมองว่าหนังที่แทบไม่มีคอนฟลิกต์ใหญ่โต หรือ พลอตโรคร้ายมาคุกคามความรักที่เห็นจนเกร่อแบบนี้ มันยากมากที่จะทำให้หัวใจคนดูต้องสั่นคลอน แต่กับ I Still Believe การลำดับเรื่อง ปูความสัมพันธ์ของตัวละครและการค่อย ๆ สอดแทรกสารด้านศาสนากลับทำได้ลงตัว ไปพร้อม ๆ กับการนำเสนอเพลงของเจเรมี แคมป์ที่ทำได้มีรสนิยม

ส่วนหนึ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับ I Still Believe คือมันโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของ เจเรมี กับ เมลิสซา ที่เริ่มตั้งแต่ความสัมพันธ์แบบ Puppy Love เดินไปรับส่งกันที่หอพัก แต่งเพลงให้ และแทรกด้วยเรื่องรักสามเส้าระหว่างทั้งคู่กับ ฌอง ลุค (นาธาน พาร์สันส์) นักดนตรีรุ่นพี่ที่มีส่วนผลักดันให้เจเรมีเข้าสู่วงการเพลง และแม้มันจะจบปัญหาด้วยความคลีเช่ ที่เห็นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่การผลักเรื่องราวที่เกือบน้ำเน่าให้ตกไปด้วยอาการป่วยของเมลิสซาก็น่าพอใจและเป็นเหตุเป็นผลพอให้หนังเดินไปสู่การบอกเล่าสารด้านศาสนาอย่างที่มันตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรก

สำหรับช่วงองก์สอง ยอมรับเลยว่าหนังหนักมือในด้านบอกเล่าปาฏิหาริย์พอสมควร จนหลายซีนนี่เกือบจะเป็นหนังสำหรับเปิดในโบสถ์หรือโฆษณาชวนเชื่ออยู่รอมร่อ แต่พอถึงฉากที่ เค เจ อาปา ขึ้นไปกล่าวถ้อยคำบอกเล่าปาฏิหาริย์ระหว่างเจเรมี และ เมลิสซา เชื่อมั้ยว่าในนาทีนั้นมันให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับการได้สวดภาวนาและสัมผัสได้จริง ๆ ว่า พระเจ้าอยากให้ทั้งคู่ได้บอกเล่าเรื่องราวนี้ และประสานกับแอกติงของ บริต โรเบิร์ตสัน ที่ถ่ายทอดโมงยามของการสัมผัสพระเจ้าได้อย่างเห็นภาพและชวนให้น้ำใส ๆ ไหลออกจากตาได้อย่างง่ายดาย

โดยสรุปแล้วแม้หนังจะยังมี่ข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งการที่มันแทบเสนอตัวละครแบบแทบจะไม่มีมิติอะไรเลย หรือการมุ่งประเด็นศาสนาแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวที่มีรสนิยมและเคมีการแสดงของเคเจ อาปา และ บริต โรเบิร์ตสัน ก็น่าจะทำให้คอหนังโรแมนติกได้ฟินและเสียน้ำตาให้กับความรักของทั้งคู่แบบมิอาจฝืนได้เลย และต้องขอบอกว่าเพลงของเจเรมี แคมป์ ในเรื่องทรงพลังมากเมื่อได้ฟังในโรงหนังนะครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส