[หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี] Wonder Woman 1984 ในระบบ IMAX

Our score

7.2

[หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี] Wonder Woman 1984 ในระบบ IMAX

จุดเด่น

1. หนังมีฉากขยายแม้ไม่เยอะ แต่ก็จัดว่าเด็ดมากเมื่อได้ดูจอใหญ่ ๆ
2. ระบบเสียงกระหึ่มดี แม้จะไม่ได้เป็น DOLBY ATMOS ตามที่หนังมิกซ์เสียงมาแต่แรก
3. มีฉากเด็ดหลายซีน แม้ไม่ใช่ซีนขยายแต่ก็ถือว่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ดูจอใหญ่ ๆ

จุดสังเกต

1. เสียดายกับฉากแอ็กชันหลายฉากที่ไม่ได้เป็นฉากขยาย
2. รู้สึกว่าถ้าได้ดูหนังในระบบเสียง Dolby Atmos น่าจะโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์เสียงได้น่าตื่นเต้นกว่านี้

• เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX

  8.0

• จำนวนฉากขยายบนจอ IMAX

  5.0

• ฉากเด็ดบนจอ IMAX

  7.0

• ระบบเสียงกระหึ่มแค่ไหนในระบบ IMAX

  8.0

• สรุปเลยคุ้มไม่คุ้ม

  8.0

หลังหนังฟอร์มยักษ์พากันยกทัพเลื่อนฉายไปปีหน้ากันหมด ในที่สุดหนังซูเปอร์ฮีโรที่ยืนหนึ่งฉายปีนี้เรื่องเดียวอย่าง Wonder Woman 1984 ก็ขอท้าทายไวรัสร้ายด้วยบ่วงบาศก์แห่งสัจจะและพลังแห่งเทพีลงฉายโรงแล้ววันนี้และที่สำคัญยังถือเป็นหนังที่ประกาศว่าตนเองใช้กล้อง IMAX ฟิล์มถ่ายอีกต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ต้องมาพิสูจน์ว่างานนี้ขุ่นแม่ไดอานา พรินซ์จะปังหรือพังบนจอยักษ์ IMAX

เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX

จากข้อมูลด้านเทคนิคของหนังจากเว็บไซต์ IMDB จะเห็นได้ว่ามีการใช้กล้องฟิล์ม IMAX ในการถ่ายทำควบคู่ไปกับฟิล์ม 35 มม.แต่เป็นการถ่ายทำเพียงบางฉากเท่านั้นเหมือน TENET นะครับ ส่วนระบบเสียงจะมีการมิกซ์ในระบบ Dolby Atmos ซึ่งไม่มีในโรง IMAX ประเทศไทยในขณะนี้ แต่จากการชมจริงก็พบว่าตัวหนังถ่ายทอดฉากเด็ดในระบบ IMAX ได้ดีทีเดียวทั้งภาพและเสียง ดังนั้นในภาพรวมเราให้ไปที่ 8 คะแนนครับ

จำนวนฉากขยาย

เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ว่า Wonder Woman 1984 จะมีฉากขยายที่ทำให้เราเห็นมากกว่าในโรงทั่วไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากการชมจริงก็พบว่าตัวหนังเลือกถ่ายทอดฉาก IMAX แบบไม่เน้นปริมาณครับ ฉากที่ขยายถูกเลือกแบบจริงใจพอสมควรแต่ข้อดีคือมันไม่ได้เดี๋ยวยืดเดี๋ยวขยายในช็อตต่อเนื่องกันเหมือน TENET แล้ว แต่จะขยายแบบทั้งซีนไปเลยและถ้าตัดสลับก็คือตัดมาเฉพาะฉากที่เป็นบทสนทนา ซึ่งขนาดภาพพอดูในระบบ IMAX Digital แล้วก็พบว่าขนาดภาพดูใกล้เคียงกันมากระหว่างฉากปกติกับฉากขยายจนอาจจับสังเกตได้ยากอยู่เหมือนกันดังนั้นจำนวนฉากขยายเราให้ไป 5 คะแนนนะครับ

ฉากเด็ดในระบบ IMAX

สำหรับฉากเด็ดในระบบ IMAX ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นซีนเปิดเรื่องที่เป็นกีฬาโอลิกปิกของเหล่าเทพีนักรบแห่งเทอร์มิสกีราที่เราจะได้เห็นสาวน้อยไดอานา พรินซ์กระโดดตีลังกายิงธนูโชว์ความน่ารักแบบเท่ ๆ ไปพร้อมงานภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจซึ่งยอมรับเลยว่าระบบ IMAX ทำให้ซีนนี้น่าประทับใจจริง ๆ ส่วนอีกฉากที่เห็นเป็นฉากขยายแบบเด่นชัดคือซีนขับเครื่องบินเจ็ตฝ่าพลุวันชาติที่ดูโรแมนติกมาก ๆ แต่กระนั้นก็ยังแอบเสียดายซีนแอ็กชันเด็ด ๆ ทั้งขับรถไล่ล่าบนถนนในอียิปต์ หรือ ฉากไดอานาปะทะกับชีตาห์ท้ายเรื่องที่ไม่ได้เป็นซีนขยายดังนั้นฉากเด็ดเราให้ไปที่ 7 คะแนนครับ

ระบบเสียงกระหึ่มแค่ไหน

ส่วนระบบเสียงยอมรับเลยว่าพอหนังมิกซ์ในระบบเสียง Dolby Atmos ก็เสียดายเหมือนกันที่โรง IMAX ส่วนใหญ่จะเน้นเสียงเบสหนัก ๆ กระหึ่ม ๆ จนบางทีมันสูญเสียเทคนิกบางอย่างของระบบเสียง Atmos ที่จะเน้นดีไซน์ทิศทางของเสียงให้สมจริง คือไม่ใช่ว่าเสียงของหนัง Wonder Woman 1984 ในระบบ IMAX ไม่ดีนะครับ คือมันยอดเยี่ยมในแบบของมันโดยเฉพาะซีนแอ็กชันต่าง ๆ เพียงแต่พอหนังมิกซ์ในระบบ Atmos เลยทำให้รู้สึกว่าขาดประสบการณ์การดูหนังแล้วเสียงเพอร์ฟอร์แมนซ์ในแบบที่มันควรจะเป็นเท่านั้นเอง ดังนั้นเราให้ไปที่ 8 คะแนน

สรุปเลยคุ้มไม่คุ้ม

สำหรับราคาบัตรชมภาพยนตร์ระบบ IMAX จะแบ่งเป็น 3 ระดับราคาตามสาขาดังนี้

• สาขาเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ จะเริ่มที่ 200 บาท และราคาที่นั่งสูงสุดคือโซฟาคู่ละ 800 บาท
• สาขาชานเมืองเช่น เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และ เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์จะเริ่มต้นที่นั่งละ 250 บาท และราคาที่นั่งสูงสุดคือโซฟาคู่ละ 900 บาท
• สาขากรุงเทพมหานครชั้นในทั้ง พารากอนซีนีเพล็กซ์ ไอคอนซีนีเพล็กซ์และควอเทียร์ซีนีอาร์ต จะเริ่มต้นที่นั่งละ 350 บาท และสูงสุดคือโซฟาคู่ละ 1500 บาท

ซึ่งเรื่องราคาคงต้องมองที่ความสะดวกของผู้ชมแต่ละท่านนะครับ หากมองที่คุณภาพหนังบนจอ IMAX สำหรับผมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควรชมในโรง IMAX อย่างยิ่งครับโดยเฉพาะซีนเปิดเรื่องที่เป็นโอลิมปิกของเทอร์มิสกีรา และ ซีนเครื่องบินผ่านพลุวันชาติที่ทั้งภาพฉากขยายและเสียงกระหึ่ม ๆ บอกเลยว่าเต็มอารมณ์มาก ๆ เราให้ไปเลยที่ 8 คะแนนครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส