กลายเป็นซีรีส์เกาหลีที่ฮิตไปทั่วโลก แต่ความดังของ ‘Squid Game’ ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดี เพราะล่าสุดผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแดนกิมจิยื่นฟ้อง Netflix เพราะซีรีส์ดังและฮิตเกินไปจนทำทราฟฟิกเต็ม!

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า SK Broadband ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ยื่นฟ้อง Netflix ให้จ่ายค่าปรับเนื่องจากมีปริมาณการรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติและเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาเครือข่าย สาเหตุก็เพราะมีผู้รับชมคอนเทนต์จากสตรีมมิงเจ้าดังเพิ่มขึ้น

รายงานดังกล่าวเผยว่า SK Broadband ยื่นแถลงคำร้องหลังศาลในกรุงโซลกล่าวว่า Netflix ควรตอบแทนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับปริมาณการใช้งานเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ฝ่ายนิติบัญญัติในกรุงโซลหลายคนยังออกมาร้องเรียนบริการสตรีมมิงต่าง ๆ ที่ไม่จ่ายเงินค่าบำรุงรักษาเครือข่ายแม้ว่าคอนเทนต์ของพวกเขาจะทำให้เกิดทราฟฟิกมหาศาลก็ตาม

ฝ่ายผู้ฟ้องร้องกล่าวว่า ความดังของ ‘Squid Game’ ทำให้ Netflix กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีปริมาณการรับส่งข้อมูลสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเกาหลีใต้รองจาก YouTube (ซึ่งเป็นบริการของ Google) อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการทั้ง 2 รายกลับไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่าย ทั้งที่ผู้ให้บริการคอนเทนต์รายอื่นอย่าง Amazon, Apple และ Facebook ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเหล่านั้น

นอกจากนี้ทางฝ่าย SK Broadband ยังเผยว่าหลังจาก ‘Squid Game’ และคอนเทนต์สัญชาติเกาหลีเรื่องอื่น ๆ อย่าง ‘D.P.’ ออกฉาย ส่งผลให้ปริมาณการรับส่งข้อมูลของ Netflix เพิ่มขึ้นถึง 24 เท่าจากเดือนพฤษภาคม 2018 กลายเป็น 1.2 ล้านล้านบิตต่อวินาทีในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

จากคำร้องที่เปิดเผยออกมา ทาง Netflix ก็ออกมาตอบว่าจะตรวจสอบข้อเรียกร้องของ SK Broadband อีกครั้ง และจะเจรจารวมถึงหาวิธีร่วมมือกับทาง SK Broadband เพื่อให้มั่นใจว่าในระหว่างนี้ลูกค้าทุกคนจะไม่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทที่เกิดขึ้น

แต่การฟ้องร้องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในปี 2018 บริษัท SK Broadband เคยยื่นฟ้องให้ Netflix จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้งานเครือข่ายเพื่อสตรีมมิงเนื้อหาความละเอียดสูงจากเซิฟเวอร์ในญี่ปุ่นและฮ่องกงให้แก่ผู้ชมชาวเกาหลี ซึ่งเป็นการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลมาแล้ว

ในปี 2019 Netflix จึงยื่นฟ้องบ้างเพื่อขอความกระจ่างจากศาลว่าพวกเขามีหน้าที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวจริงหรือไม่ โดยอ้างว่าหน้าที่ของ Netflix คือสร้างคอนเทนต์และให้ผู้ชมเข้าถึงได้ ส่วนเรื่องของปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตหรือค่าใช้จ่ายระหว่างนั้นควรเป็นภาระผูกพันระหว่างทาง SK Broadband กับลูกค้าผู้ใช้บริการเครือข่าย นอกจากนี้ Netflix ยังอ้างว่าการรับส่งข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตนั้น ‘ตามหลักพื้นฐานแล้วไม่ควรเสียค่าใช้จ่าย’

Netflix Squid Game
เครดิตภาพ: Netflix

แต่ศาลแขวงกรุงโซลก็ตัดสินลงโทษ Netflix ไปเมื่อเดือนมิถุนายน โดยศาลกล่าวว่าบริการของ SK เป็นบริการที่ ‘มีค่าใช้จ่าย’ และเป็นเรื่อง ‘สมเหตุสมผล’ ที่ Netflix จะตอบแทนบางสิ่งบางอย่างให้กับบริการนี้ ส่วนทางฝั่ง SK เองก็ได้ประเมินค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายของ Netflix ในปี 2020 เอาไว้ว่าจะสูงถึง 27,200 ล้านวอน (ประมาณ 776 ล้านบาท)

ฝั่ง Netflix ทำการยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว โดยมีการแถลงเมื่อวันพุธที่ 29 กันยายนที่ผ่านมาว่า บริการสตรีมมิงของตนทำให้เกิดการจ้างงานในเกาหลีใต้มากกว่า 16,000 อัตรา และยังมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่า 5.6 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท) จากการสร้างหนังและซีรีส์สัญชาติเกาหลี จากคำอุทธรณ์ดังกล่าวส่งผลให้จะมีการพิจารณาคดีกันใหม่เดือนธันวาคมนี้

เรียกได้ว่าเป็นผลจากความดังและความฮิตของคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ Netflix ผลิตและให้บริการบนแพลตฟอร์มของตัวเอง อย่างไรก็ตามคำตัดสินจะออกมาอย่างไร จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของ Netflix และสตรีมมิงรายอื่นที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่ายในเกาหลีใต้หรือไม่เราคงต้องมาติดตามกันต่อไป

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส