ดูเหมือนว่าพิษจากการรื้อยกเครื่องบริษัทใหม่ของบริษัท ‘วอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี’ (Warner Bros. Discovery) ภายใต้การนำของซีอีโอคนใหม่อย่าง เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) จะยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อคนทำงาน และคนที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายกันแบบถ้วนหน้า หลังจากที่เพิ่งมีข่าวการทิ้งภาพยนตร์ ‘แบทเกิร์ล’ (Batgirl) ทั้ง ๆ ที่ลงทุนไปกว่า 90 ล้านบาท และทำเสร็จจนพร้อมฉายแบบไม่ไยดี เพื่อต้องการรีบูตจักรวาล DC ตามยุทธศาสตร์ 10 ปีของซีอีโอ
อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่โดนเทอย่างเป็นทางการก็คือ แต่ที่ชัดเจนและถือว่าเป็นทางการแล้วก็คือ สเตรนจ์ แอดเวนเจอร์ส (Strange Adventures) โปรเจกต์ซีรีส์จบในตอนของ HBO Max ที่ไม่ใช่แค่ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโรธรรมดา ๆ เพราะการเทในครั้งนี้ยังทำให้ไอเดียการนำดาราซุปตาร์รุ่นใหญ่ค้างฟ้าอย่าง นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) กลับมาแสดงเป็นซูเปอร์แมน (Superman) เป็นครั้งที่ 2 โดนล้มไปด้วย
เรื่องนี้เปิดเผยโดย เควิน สมิธ (Kevin Smith) หนึ่งในทีมผู้กำกับและผู้เขียนบทซีรีส์เรื่องนี้ ได้เปิดเผยเรื่องนี้ในรายการ ‘Hollywood Babble-On’ คอนเทนต์พอดแคสต์บนยูทูบที่เขาเป็นโฮสต์ของรายการด้วยตัวเอง หลังจากที่ในรายการได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการยกเลิก ‘Batgirl’ ว่า เขาเองก็เป็นอีกคนที่ได้รับผลกระทบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยเขาเล่าว่า เขาได้ยินข่าวนี้มาจากเพื่อนร่วมงานอย่าง เอริก คาร์รัสโก (Eric Carrasco) ผู้เขียนบทซีรีส์ ‘Supergirl’ (2015–2021) “วันก่อน ผมได้รับโทรศัพท์จากเอริก ก่อนที่จะได้ยินเรื่องนี้ แล้วเขาก็พูดเหมือนกับว่า ” ‘Strange Adventures’ น่ะมันตายอย่างเป็นทางการไปแล้ว” แล้วผมก็แบบ เชี่-ไรวะ! จริงดิ!”
การที่ซีรีส์เรื่องนี้ที่เขากำลังจะสร้างถูกยกเลิก นั่นหมายความว่า ความตั้งใจของเขาที่จะนำเอา นิโคลัส เคจ มาแสดงเป็น บิแซร์โร ซูเปอร์แมน (Bizarro Superman) หรือซูเปอร์แมนโคลนนิงในตอนหนึ่งของซีรีส์ก็มีอันจบไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเขาเผยว่า เขาตั้งใจอย่างมากที่จะเชิญ นิโคลัส เคจ มารับบทซูเปอร์แมนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มีการติดต่อทาบทามแต่อย่างใด
“คนที่ผมกำลังไล่ตามเพื่อมารับบท บิแซร์โร ซูเปอร์แมนก็คือ นิโคลัส เคจ แต่ผมยังไม่ได้ล็อกคิว ไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรด้วย โอกาสเหมือนหนึ่งในล้านเลย ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเขา (DC) จะยอม และทุกอย่างก็กำลังจะเริ่มเดินหน้า มันไม่เหมือนกับเติมเต็มความฝัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง แต่แล้ว…สิ่งนี้ก็ถูกฆ่าตายด้วยการปกครองระบอบใหม่”
อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Warner Bros. ยกเลิกโปรเจกต์นี้ก็คือเรื่องงบประมาณ เขาเผยว่า พอต้องเอาดาราเบอร์ใหญ่อย่าง นิก เคจ ทุนสร้างก็เลยสูงกว่าปกติ อาจจะมากถึงประมาณตอนละ 16-20 ล้านเหรียญ จากปกติที่ซีรีส์ของ DC หรือ Arrowverse ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตอนละ 3-5 ล้านเหรียญเท่านั้น แม้สมิธเองจะเขียนบทของซีรีส์ไปแล้วถึง 3 ดราฟต์ และทาง DC เองก็ฟีดแบ็กกลับมาว่าชอบมากด้วย
โปรเจกต์ซีรีส์ ‘Strange Adventures’ นั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2019 โดย เกร็ก เบอร์ลันตี (Greg Berlanti) โปรดิวเซอร์ของฝั่งจักรวาล Arrowverse เป็นผู้ริเริ่มขึ้นเพื่อโปรโมตคาแรกเตอร์ของ DC ที่ยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก ในรูปแบบซีรีส์จบในตอน (Anthology Series) และออกอากาศทาง HBO Max โดยให้ผู้กำกับสามารถเลือกตัวละครที่อยากจะเอามาพัฒนาเป็นบทได้อย่างอิสระ
ซึ่งสมิธได้เลือกตัวละคร บิแซร์โร ซูเปอร์แมน (Bizarro Superman) ซูเปอร์แมนเวอร์ชันแอนตีฮีโรที่มีทุกอย่างตรงข้ามกับซูเปอร์แมนปกติ อาศัยอยู่บนดาวลูกบาศก์ที่มีชื่อว่า ‘The Bizarro World’ พล็อตเรื่องของบทซีรีส์ตอนนี้จะว่าด้วยเรื่องของบิแซร์โรที่โคลนนิงมาจากเวอร์ชัน จอร์จ รีฟส์ (George Reeves) (จากทีวีซีรีส์ ‘Adventures of Superman’ (1952-1958)) นอกจากนี้ยังมีตัวละครคลาสสิกทั้ง เพอร์รี ไวต์ (Perry White) และ จิมมี โอลเซน (Jimmy Olsen) จากสำนักงานหนังสือพิมพ์ เดลีแพลนเน็ต (Daily Planet) ในซูเปอร์แมนเวอร์ชันปกติมาแจมด้วย
แต่แม้ว่านี่จะถือเป็นข่าวร้าย แต่เขาเองก็ค่อนข้างจะเข้าใจการตัดสินใจของสตูดิโอ และนโยบายใหม่ของซีอีโอ “จริง ๆ ผมก็พอจะเดาได้นะ เพราะไม่ได้ยินข่าว (โปรเจกต์นี้) จากพวกเขามาสักระยะแล้ว และผมเดาว่านี่คงเป็นผลจากการดำเนินงานของ เดวิด ซาสลาฟ แต่ให้ตายเหอะ ผมคิดว่ามันก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่นะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรู้จักตัวละครพวกนี้หรอก มันเป็นโชว์ที่ดูออกจะแพงเกินไปหน่อย”
เควิน สมิธ (Kevin Smith) เป็นทั้งผู้กำกับ เขียนบทภาพยนตร์ และยังเป็นนักเขียนการ์ตูนด้วย เขาได้ร่วมงานกับโปรเจกต์ของ DC หลายครั้ง ทั้งการร่วมกำกับบางตอนในซีรีส์ ‘The Flash’ และ ‘Supergirl’ และรวมทั้งเขาก็ยังเป็นคนที่รับผิดชอบเขียนบทดราฟต์แรก ๆ ในโปรเจกต์ ‘Superman Lives’ ภาพยนตร์รึบูตซูเปอร์แมนปลายยุค 90’s และเขาเองยังเป็นคนแนะนำให้ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) มาเป็นผู้กำกับด้วย
ในตอนนั้นด้วยความที่เคจเองกำลังเป็นนักแสดงที่กำลังมือขึ้นสุด ๆ ทำให้เขาได้ค่าตัวสูงมากถึง 20 ล้านเหรียญ โปรเจกต์ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำแล้ว แต่กลายเป็นว่าโปรเจกต์กลับถูกยกเลิกก่อนจะเปิดกล้องเพียง 3 สัปดาห์ ส่วนเคจก็ได้เงินค่าตัวไปแบบกินเปล่า แต่ถึงจะชวดบทฮีโร แต่เฮียก็ยังได้กลับมาพากษ์เสียงซูเปอร์แมนในแอนิเมชัน ‘Teen Titans GO! To the Movies’ (2018)) แทน
สมิธยังได้เปิดเผยความรู้สึกของเขาต่อกรณีที่ Warner Bros. ยกเลิกการฉายภาพยนตร์ Batgirl ด้วย เขากล่าวว่า
“มันดูแย่มากจริง ๆ นะที่ยกเลิก Batgirl ฉบับลาตินไป ที่ผมอยากจะบอกคือ *ผู้กำกับ Batgirl (อาดิล เอล อาร์บี (Adil El Arbi) และ บิลาล ฟาลลาห์ (Bilall Fallah)) กำกับ Ms. Marvel สองตอน แล้วมันก็ออกมาโคตรเจ๋ง ดูดีมาก แต่พวกเขามีเงินที่จะทำ Batgirl มากกว่า Ms. Marvel สองตอนนั่นซะอีกนะ!”
“สำหรับผม มันเหมือนกับว่า ครั้งหนึ่งผมเคยรู้สึกมีอนาคตสดใส เวลาที่ได้เห็นรายการของ DC มากมายอยู่บน HBO Max มีซีรีส์ DC ดี ๆ ตั้งเยอะแยะ รวมถึงอันที่แย่ ๆ อย่าง ‘Strange Adventures’ นี่ก็ด้วย…อนาคตที่สดใสมันหายไปไหนหมดแล้ววะ! “
ที่มา: Screen Rant, IGN, CBR, Looper, MovieWeb
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส