บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสัมมนาประกาศรับรองความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นแก่แนวทางการแก้ไขปัญหาหลังการหยุดให้บริการของ Window XP ด้วยการเปิดตัวโซลูชั่น Virtual Patching ทางออกใหม่ที่จะช่วยปกป้องความเสี่ยงและจัดการกับช่องโหว่ที่จะเกิดขึ้นกับตัวดาต้าเซ็นเตอร์ จนถึงเครื่องเดสก์ท็อปพีซี สำหรับองค์กรและภาคธุรกิจที่ยังต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Window XP อยู่หลังจากการหยุดให้บริการรับรองจากไมโครซอฟต์แล้วจากข้อมูลเชิงสถิติของ StatCounter ชี้ชัดว่าในเมืองไทยมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานระบบ Window XP อยู่ถึง 27% ซึ่งส่วนมากเป็นคอมพิวเตอร์ในภาคองค์กรธุรกิจและภาครัฐฯ หรือประมาณ 1 ใน 4 ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในประเทศไทยทั้งหมด และหลังจากที่ไมโครซอฟต์ประกาศหยุดให้บริการ Window XP ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ใช้ Window XP ลดลงแค่ 2.02% ซึ่งเห็นได้ชัดว่าองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ยังชะลอการตัดสินใจในการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ

สำหรับ Vitual Patching จากเทรนด์ไมโคร คือทางออกที่จะมารองรับกลุ่มธุรกิจองค์กรที่ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ โดยจะช่วยจัดการดูแลกับช่องโหว่ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ไมโครซอฟต์ประกาศสิ้นสุดการรับรองในระบบปฏิบัติการดังกล่าว ตั้งแต่การจัดการในเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ จนถึงเครื่อเดสก์ท็อปพีซี เพื่อลดปัญหาเรื่องต้นทุนและปัญหาที่เกิดจากระบบปฏิบัติการเกี่ยวกับการ patch หลักๆ มีส่วนสำคัญดังนี้

  • Deep Security ช่วยอุดช่องโหว่ในส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ สามารถจัดการภัยคุกคามได้ทันที มีระบบที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลและความน่าเชื่อถือผ่านระบบคลาวด์ ทำให้บล็อกหรือป้องกันภัยที่จะคุกคามและเจาะเข้าระบบ รวมถึงการติดตั้งมัลแวร์โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ในเครื่อง และสนับสนุนกฏระเบียบและมาตรฐาน อย่าง PCI, FISMA และ HIPAA
  • OfficeScan Intrusion Defense Firewall ช่วยจัดการช่องโหว่ในเครื่องปลายทางทุกประเภท ทั้งแบบ Physical และ Virtual มีไฟร์วอล์ป้องกันการบุกรุก รวมทั้งระบบ HIPS (Host Instrusion Prevention System) ที่ป้องกันช่องโหว่ โดยสามารถวิเคราะห์และเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองได้ในการป้องกันภัยอื่นๆ ที่จะตามมา

ด้านนายคงศักดิ์ ก่อตระกูล ผู้จัดการอาวุโสด้านเทคนิค บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า virtual patching ได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน และบริษัทวิจัยชั้นนำอย่า IDC แล้วถึงศักยภาพที่จะจัดการช่องโหว่ดังกล่าวได้มีประสิทธิภาพจริง โดยเฉพาะองค์กรจำนวนมากในภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงใช้ระบบ XP อยู่ ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ การเงินธนาคาร ภาคการผลิต ทำให้องค์กรเหล่านี้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเรื่องความปลอดภัย และยืดเวลาในการเปลี่ยนแปลงระบบเช่น ค่าไลเซนส์ ค่าติดตั้งดูแล ค่าอบรมการใช้งาน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล นั่นเอง

1959930_752166174816465_1608772571_n