หลังจากที่ Browser เจ้าใหญ่ 2 รายอย่าง Google Chrome [อ่านข่าวที่นี่] แม้กระทั่ง Internet Explorer ของ Microsoft เองประกาศเลิกสนับสนุน Windows XP, Vista ไม่ออกอัพเดต Version ใหม่ ไม่แก้บั๊ก ไม่อัพเดตเรื่องความปลอดภัยใดๆ แล้ว ก็เหลือแต่ Firefox นี่แหละที่ให้การสนับสนุน Windows XP, Vista มาอย่างต่อเนื่อง ออกอัพเดตตลอดโดยไม่ระบุว่าจะยุติการสนับสนุนตอนไหน
แต่ทีมงานได้เห็นประกาศของทาง Mozilla ผู้พัฒนา Firefox ได้ระบุไว้เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 บอกว่า
หมายความว่า ในเดือนมีนาคม 2560 ผู้ใช้ Firefox บน Windows XP และ Windows Vista จะอัพเดตเป็น Version ESR ซึ่งเป็น Version สนับสนุนแบบระยะยาว (ปกตินิยมนำมาใช้กับองค์กรที่ไม่ต้องการอัพเดต Version บ่อยๆ แบบผู้ใช้ทั่วไป)
เมื่ออัพเดตแล้วก็ยังคงออกอัพเดต Patch ความปลอดภัย แก้ช่องโหว่ แต่ไม่อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้แล้ว โดยอัพเดต Patch ให้ถึงเดือนกันยายน 2560 หลังจากนั้นจะไม่สนใจหรือออกอัพเดตให้กับ Windows XP และ Vista อีกต่อไปแล้ว
ผลเสียหลังจากที่ Firefox เลิกสนับสนุน Windows XP และ Vista (รวมถึง Browser อื่นๆ ที่ประกาศหยุดสนับสนุนด้วย)
หากท่านยังใช้ Windows XP และ Vista ซึ่งตัว Windows เหล่านี้เองก็หยุดสนับสนุนแล้ว (ยกเว้น Vista จะหยุดสนับสนุนในเดือนเมษายน 2560) แน่นอนตัว Windows ไม่มีการแก้ช่องโหว่ใดๆ อีกแล้ว จึงตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์หรือผู้สร้างมัลแวร์ได้ง่ายกว่า Windows รุ่นใหม่ๆ อีกทั้งยังสามารถเจาะระบบ แก้ไขระบบต่างๆ ได้ง่ายกว่า Windows รุ่นใหม่มาก และยิ่ง Browser ไม่ออกอัพเดต ซึ่งตอนนี้ทุกค่ายก็จะเลิกสนับสนุนกันหมดแล้ว ก็ยิ่งตกเป็นความเสี่ยงเข้าไปใหญ่
นอกจากนี้เทคโนโลยีเว็บมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้บนเว็บ แต่ Browser ไม่มีการอัพเดต ก็จะไม่รองรับ อาจส่งผลให้หน้าเว็บแสดงผลเพี้ยน หรือผิดพลาด ไม่ได้มาตรฐานได้
Opera ก็เอาด้วย หยุดสนับสนุน Windows XP, Vista เช่นกัน
Opera นั้นได้ระบุไว้ว่า Opera Version สุดท้ายที่รองรับ Windows XP และ Vista คือ Version 36 และจะไม่สนับสนุน Windows 2 ตัวนี้อีกแล้ว ไม่มีออกอัพเดตใดๆ อีกทั้งสิ้น (ทั้งนี้เมื่อดาวน์โหลด Opera และ Google Chrome ด้วย Windows XP และ Vista จะถูกบังคับให้ดาวน์โหลด Version เก่า คือ Opera 36 และ Chrome 49 แม้ว่าจะดาวน์โหลด Version ใหม่มาจากเครื่องอื่นก็เอามาติดตั้งไม่ได้อยู่ดี)
แม้แต่ Microsoft ยังทิ้ง Internet Explorer บน Windows XP และ Vista
เอาจริงๆ Microsoft ประกาศเลิกอัพเดต Browser ของตัวเองบน Windows XP และ Vista ก่อนค่ายอื่นๆ อีก ซึ่ง Windows รุ่นใหม่ๆ รองรับถึง Internet Explorer 11 แล้ว และใน Windows 10 มี Microsoft Edge (Browser ใหม่ของ Microsoft) มาให้ด้วย
โดยรุ่นสุดท้ายของ Internet Explorer แต่ละ Windows คือ
- Windows XP รองรับ Internet Explorer สูงสุดคือ Internet Explorer 8 (เปิดตัว มีนาคม 2552)
- Windows Vista รองรับ Internet Explorer สูงสุดคือ Internet Explorer 9 (เปิดตัว มีนาคม 2554)
คำแนะนำจากทีมงานแบไต๋
สำหรับกรณีนี้
- ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณยังไม่เก่ามาก แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ Windows ใหม่ๆ ได้แล้ว อย่างต่ำควรเป็น Windows 7 Service Pack 1 ขึ้นไป หรือจะไปใช้ Windows 8.1, Windows 10 ไปเลยยิ่งดี เพราะว่าเขายังสนับสนุนอยู่ ไม่ว่าทั้งจากทาง Microsoft เอง และผู้ผลิต Browser ต่างๆ และยิ่ง Windows รุ่นใหม่ ช่องโหว่ก็ยิ่งน้อยลง อะไรอะไรก็ปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น หรือจะเปลี่ยนไปใช้ Linux ก็ได้ มีมากมายหลายตัวให้เลือกใช้ หรือจะแหวกแนวไปใช้ OS อื่นๆ เลยก็ได้ อย่าง “CloudReady” ที่เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของคุณให้กลายเป็น Chrome OS มี Browser Chrome Version ใหม่มาให้ใช้ในตัว (CloudReady ใช้ตามบ้านหรือส่วนบุคคลไม่แสวงหากำไรฟรี แต่ถ้าใช้เพื่อการศึกษาหรือภาคธุรกิจ หน่วยงานต่างๆ ต้องเสียเงิน)
- แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ของท่านค่อนข้างเก่า อาจใช้งาน Windows รุ่นใหม่ๆ ไม่ไหว ก็คงแนะนำให้ไปใช้ Linux เช่นเดียวกันครับ เพราะเขามี Version ที่ใช้กับเครื่องเก่าๆ ได้ดีและพัฒนา/สนับสนุนต่อเนื่องอย่าง xbuntu, lubuntu, Puppy Linux เป็นต้น หรือจะแหวกแนวไปใช้ OS อื่นๆ เลยก็ได้ อย่าง “CloudReady” ที่เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของคุณให้กลายเป็น Chrome OS มี Browser Chrome Version ใหม่มาให้ใช้ในตัว (CloudReady ใช้ตามบ้านหรือส่วนบุคคลไม่แสวงหากำไรฟรี แต่ถ้าใช้เพื่อการศึกษาหรือภาคธุรกิจ หน่วยงานต่างๆ ต้องเสียเงิน)
- ถ้าท่านมีงบ ซื้อเครื่องใหม่ได้เลยครับ เดี๋ยวนี้ราคาเริ่มต้นไม่แพงแล้ว 7-8 พันกว่าบาทก็ได้คอมพิวเตอร์ใหม่ใช้งานพื้นฐานรองรับ Windows รุ่นใหม่แล้ว แต่แนะนำเผื่อเงินซื้อลิขสิทธิ์ Windows แท้อย่าง Windows 10 ไปเลย ช่วยให้การทำงานมีเสถียรภาพและปลอดภัยมากขึ้น
- หากจำเป็นต้องใช้ Windows XP, Vista จริงๆ พิจารณาเลือกซื้อ Antivirus ที่มีระบบ Virtual Patching อย่างเช่น TrendMicro [อ่านบทความ] หรือย้ายไปติดตั้งลงโปรแกรม Virtual Machine ที่ทำงานบน OS ใหม่ๆ แทน
อ้างอิงข้อมูลจาก : Wikipedia และ Mozilla Blog