กลับมาอีกครั้งกับงาน Techsauce Global Summit 2019 สุดยอดงานประชุมด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัปประจำปี 2562 โดย Techsauce Media ร่วมกับ Hubba Thailand พร้อมพันธมิตรจัดขึ้นบนชั้น 22-23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งภายในงานก็มีบูธต่าง ๆ มากมายจาก Startup ทั่วโลกเข้ามาจัดแสดง รวมไปถึงนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดที่น่าสนใจมากมาย และยังมี Speaker มากมายเข้าร่วมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจในงานนี้ โดยเฉพาะด้าน AI และ Robot ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ภาพบรรยากาศภายในงาน
สรุป Session ที่น่าสนใจในงานนี้
The rise of Artificial Intelligent โดย Martin Ford
เขาได้พูดถึงเรื่องของผลกระทบของ AI Robot ที่เข้ามาว่า มันจะมีทั้งด้านทีและด้านที่ไม่ดี ด้านดีคือ การเข้ามาทำให้ Productivity เพิ่มสูงขึ้นมาก ๆ ในขณะที่เราใช้แรงงานเท่าเดิม แต่อีกด้านคือ AI จะทำให้คนหลายล้านคนไร้งานทำ เพราะหลายงานจะสามารถแทนด้วยระบบ AI Robot ได้ เพราะสิ่งนี้ไม่มีความต้องการ ไม่มีเรื่องความเจ็บป่วย สามารถทำงานได้ตลอด 24/7 โดยไม่ต้องหยุดพัก ซึ่งสามารถทดแทนมนุษย์ได้แทบจะ 100% แต่ประเด็นที่น่าสนใจต่อมาคือ เรื่องของงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการเข้ามาควบคุมดูแล AI Robot เหล่านี้ให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
งานที่อาจถูกแทนได้ในอนาคต
- งานขนส่งสินค้า
- งานด้านการเตรียมอาหารแบบสำเร็จรูปหรือแบบง่าย ๆ
- งานด้านการเคลื่อนย้าย / ขนของ
- งาน Routine ที่มีการทำงานซ้ำ ๆ
วิธีป้องกัน
- ระยะสั้น – ให้เสริมสร้างความรู้ที่นอกเหนือจากการทำงาน Routine ตามปกติ โดยเฉพาะด้านความคิดสร้างสรรค์หรือด้าน Programming
- ระยะยาว – มองหางานที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูก Robot เข้ามาแทนที่ได้
The Future of Mobility โดย Tin Hang Liu
รถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่เหมือนปัจจัยหลักของมนุษย์ในปัจจุบัน แต่ปัญหาคือ รถยนต์มีการถูกผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 100 ล้านคันต่อปี แต่มีการนำไปกำจัดเพียง 27 ล้านคันต่อปีเท่านั้น ซึ่งทำให้ปัจจุบันมีรถกว่า 1.4 พันล้านคันวิ่งอยู่บนถนนในโลกใบนี้ แต่ในอนาคตอันใกล้ ได้มีผลสำรวจจากประเทศจีนพบว่า จำนวนการเติบโตของรถยนต์ส่วนตัวจะเริ่มเปลี่ยนไปสู่ยุคของ Car Sharing มากขึ้น โดยจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ส่วนตัวที่นับวันจะเริ่มกลายเป็นปัญหาด้านมลพิษระดับโลก เพราะคนเราแท้จริงแล้วต้องการใช้รถยนต์โดยประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ซึ่งถ้ารถในอนาคตเป็นรูปแบบการ Sharing ก็จะช่วยในการลดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าของรถได้อีกทางหนึ่ง และในด้านการใช้พลังงานนั้น รถยนต์ในยุคใหม่ก็จะถูกพัฒนาให้ใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งรถยนต์เหล่านี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบมือถือเพื่อตรวจสอบและควบคุมได้ รวมไปถึงรถยนต์ยุคใหม่ เราควรที่จะสามารถปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในและภายนอกของรถได้อย่างอิสระ โดยเขาซึ่งเป็นเจ้าของ Projects Open Motors ก็แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ที่เขากำลังพัฒนาอยู่นี้มีความสามารถตามที่กล่าวมาทั้งหมดในช่วงท้ายของ Session
Driving Governments towards technological adoption working together to build smart cities
อีก 1 Session ที่น่าสนใจภายในงานนี้ โดยเฉพาะการขึ้นเวทีของ Audrey Tang ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันที่ได้ขึ้นเสวนากับ Tim Culpan จากสำนักพิมพ์ Bloomberg และ Catherine Caruana McManus จาก Meshed และ Jonathan Reichental ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Human Future
ซึ่งพวกเขาได้พูดคุยกันในประเด็นด้านความร่วมมือกับภาครัฐฯ ในการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะการสร้างเมืองอัจฉริยะว่า ผลักดันภาครัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนตรงนี้ได้อย่างไร
Audrey Tang ได้แนะนำว่า เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่ใช่ตัวแก้ไขปัญหา ผู้คนต่างหากคือผู้แก้ไขปัญหาจริง ๆ โดยเน้นย้ำว่าภาครัฐฯ ยุคปัจจุบันไม่ใช่เป็นตัวเอกอีกต่อไป แต่เป็นเหมือนกับผู้อนุญาตให้กับประชาชนในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ยกตัวอย่างของประเทศไต้หวันว่า ปัจจุบันเหล่า Startups ได้มองหาความท้าทายหรือการทดลองใหม่ ๆ อยู่เเรื่อย ๆ พวกเขามองหาตัวข่วยที่สามารถให้เขาลองทดสอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ และถ้าเขาสามารถนำการทดลองเหล่านั้นมาทดสอบเพื่อสร้างคุณประโยชน์ได้ ทุกภาคส่วนก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน
การร่วมมือกันของสังคมในประเทศไต้หวันนั้นมีความสำคัญมาก ยกตัวอย่างเช่น โครงการพัฒนาเว็บไซต์ของภาครัฐฯ ในมุมที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ซึ่งโครงการกว่า 20 โครงการใน 200 โครงการที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐฯ นั้นก็ได้ถูกดำเนินการแล้วในรัฐบาลประเทศไต้หวัน ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นความร่วมมือที่ทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศก้าวไปข้างหน้าได้
“ภาครัฐฯ ควรเชื่อในตัวประชาชน และบางครั้งประชาชนก็ควรเชื่อถือในภาครัฐฯ เช่นเดียวกัน” Audrey Tang กล่าวปิดท้าย