Bully หรือพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง, ทำร้าย, ล้อเลียน ไม่ใช่ศัพท์ที่ใช้กันแค่ในโลกไซเบอร์ แต่บูลลี่เป็นพฤติกรรมร้ายแรงในสถานศึกษาที่มีมายาวนานและยังคงเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไขได้เด็ดขาด แถมยังเป็นสาเหตุให้นักเรียนทั่วโลกจำนวนมาก เลือกที่จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว

ควอเด็น เบย์ลส์ เป็นหนูน้อยโชคร้ายวัย 9 ขวบ อยู่ที่รัฐบริสเบน, ออสเตรเลีย เขาเกิดมาพร้อมร่างกายที่เป็นโรค achondroplasia ทำให้มีร่างกายแคระแกร็น ด้วยสติปัญญาที่ปกติดี ทำให้ควอเด็นได้เข้าเรียนในโรงเรียนประถมเช่นเดียวกับเด็กปกติทั่วไป แน่นอนว่าในสายตาเด็กทั่วไป ต้องมองควอเด็นว่าเป็นตัวประหลาด ที่ตัวเล็กและไม่มีทางสู้ เป็นเป้าที่สนุกสนานสำหรับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันที่จะแกล้ง และล้อเลียนเขาอยู่ทุกวัน

ยารากา ผู้เป็นแม่มารับลูกกลับจากโรงเรียน แล้วก็ต้องเห็นลูกร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะโดนเพื่อนรังแกอยู่ทุกวัน หัวใจผู้เป็นแม่เข้าใจถึงความอัดอั้นตันใจของลูกน้อยดี แต่สิ่งที่เธอทำได้คือการให้กำลังใจให้ควอเด็นสู้ต่อไป เพราะเขายังต้องเจออุปสรรคที่โหดร้ายอีกมากบนโลกนี้ สำหรับคนที่เกิดมาพร้อมกับปมด้อยอย่างเช่นควอเด็น

ยารากา กับ ควอเด็น

ยารากา กับ ควอเด็น

ยารากา ก็เคยทำเฉกเช่นแม่หรือผู้ปกครองทั่วไปพึงกระทำ คือการร้องเรียนกับครูใหญ่เรื่องที่บุตรชายของเธอโดนกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แน่นอนล่ะว่าครูไม่สามารถเฝ้าดูพฤติกรรมของควอเด็นและเพื่อน ๆ ได้ตลอดเวลา สุดท้ายยารากา ก็ตัดสินใจถ่ายวิดีโอลูกชายที่ร่ำไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในรถ แล้วโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของเธอเอง เพื่อให้โลกรับรู้ถึงสภาพน่าสงสารของเด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะแค่ว่าเป็นลูกชายของเธอ แต่ในฐานะตัวแทนเหยื่อของพฤติกรรมบูลลี่ในโรงเรียน ยารากาเล่าว่าที่ผ่านมานั้น ปกติวิสัยของเธอแล้ว เธอเลือกที่จะรับสภาพความกดดันอยู่อย่างสงบเงียบ แต่มันมาถึงจุดที่เธอแบกรับไม่ไหว จึงขอเล่าเรื่องของควอเด็นออกสู่สาธารณชน

“พวกเราพยายามแล้วที่จะเข้มแข็งเท่าที่จะทนสู้ไหว แต่นี่คือผลของการบูลลี่ที่มีผลกระทบต่อเด็ก 9 ขวบคนหนึ่ง”
ยารากา พูดไว้ในคลิปวิดีโอ

ในช่วงต้นคลิป 5 นาทีแรก ยารากาได้เกริ่นนำไว้ว่า
“ฉันเพิ่งมารับลูกชายที่โรงเรียน แล้วก็ต้องเจอกับเรื่องบูลลี่อีกแล้ว ฉันบอกครูใหญ่แล้ว แต่ฉันก็ยังอยากให้ผู้คนได้รับรู้ผลร้ายของพฤติกรรมบูลลี่ด้วยเช่นกัน และนี่คือผลของมัน
ฉันก็อยากให้ทุกคนที่ได้ดูคลิปนี้ได้อบรมสั่งสอนลูก ๆ ของคุณเอง บอกครอบครัวของคุณ เพื่อนของคุณ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลกรรมของการบูลลี่ ที่ทำให้เด็กคนหนึ่งถึงกับอยากฆ่าตัวตาย
เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่อยากไปโรงเรียน อยากได้รับการศึกษา อยากเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ แต่สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ทุกวันกลับเป็น อีกวันหนึ่งที่โดนกลั่นแกล้ง อีกวันที่โดนล้อเลียน อีกวันที่โดนตั้งฉายาให้”

ยารากา พูดคลอไปในวิดีโอด้วยน้ำเสียงสะอื้น เธอร้องขอความเห็นใจจากทุกคนที่ได้ดูคลิปวิดีโอนี้

ในวิดีโอนี้ เราจะได้เห็นความน่าสงสารของควอเด็นที่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เขาหันมาพูดกับแม่ขณะที่นั่งอยู่บนพื้นรถ

“แม่ครับเอาเชือกให้ผมเถอะ ผมจะฆ่าตัวตาย ผมอยากที่จะแทงไปที่หัวใจตัวเอง ผมอยากจะให้ใครสักคนมาฆ่าผมให้ตาย ๆ ไปซะ”

ระหว่างที่พูด ควอเด็นก็ทำท่าเอานิ้วลากไปที่คอตัวเอง
“ผมอยากจะตาย ผมจะปาดคอตัวเองตาย”
ด้วยความน่าสงสารของควอเด็น ทำให้มีผู้ชมวิดีโอนี้มากถึง 3 ล้านวิวภายในระยะเวลาอันสั้น

“ได้โปรดเถอะค่ะ ถ้าพวกคุณมีคำแนะนำหรือหนทางสนับสนุนที่จะเป็นประโยชน์แก่พ่อแม่ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ ฉันเองได้รับคำแนะนำมามาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ฉันยังต้องการอีกมาก ฉันอยากให้ทุกคนได้รับรู้ด้วยว่าในครอบครัวที่ต้องเผชิญสภาวะเช่นนี้มันเจ็บปวดเพียงใด”
ยารากา พูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือ แม้เธอไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าควอเด็นโดนกลั่นแกล้งอย่างไร แต่เธอก็ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ควอเด็นมักจะถูกเพื่อน ๆ เรียกว่า “Midget” ถ้าจะแปลตามภาษาเด็ก ๆ ก็น่าจะแปลว่า “ไอ้แคระ”

ควอเด็น อยากจะมีความสุขเฉกเช่นเด็กน้อยทั่วไป

ควอเด็น อยากจะมีความสุขเฉกเช่นเด็กน้อยทั่วไป

สำหรับควอเด็นที่เกิดมากับสภาพร่างกายที่เป็นปมด้อยแบบนี้ ทำให้เขาต้องเผชิญสภาพความโหดร้ายในโรงเรียนมาตั้งแต่ยังตัวน้อยนัก สำหรับวัยเพิ่งจะ 9 ขวบแต่เขาก็ผ่านสภาวะที่เลวร้ายต่อสภาพจิตใจเขามาอย่างยาวนานมากแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ควอเด็นเอ่ยกับแม่ว่า “เขาอยากตาย”
ยารากาเล่าว่าควอเด็นเคยพยายามฆ่าตัวตายตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
“ฉันช็อกมาก บอกตามตรงเลยฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กอายุ 6 ขวบจะรู้จักการฆ่าตัวตาย”
ยารากาเล่าว่าควอเด็นเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งยารากาก็พยายามอธิบายด้วยภาษาง่าย ๆ กับลูกชายว่า

“ถ้าหนูไปแล้วหนูจะไม่ได้กลับมานะ หนูจะหายไปตลอดเลยนะ”
ยารากายังเล่าต่อว่าเหตุที่ควอเด็นพยายามฆ่าตัวตายนั้น เพราะมีแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากการตายของคุณปู่ และพี่ชายของเขาที่แท้งตั้งแต่อยู่ในครรภ์
บางครั้งควอเด็นก็บอกกับแม่ว่า ถ้าเขาได้ไปสวรรค์เขาจะไปอยู่กับปู่กับพี่ชายเขา

แบรด วิลเลียมส์ นักพูดเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง

แบรด วิลเลียมส์ นักพูดเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง

ยารากาบอกว่า เธอรู้สึกดีที่ได้พูดเรื่องปัญหานี้กับสาธารณชน ได้ทำหน้าที่ตัวแทนครอบครัวหนึ่งที่เผชิญสภาวะกรรมจากการบูลลี่ แล้วการกระทำของยารากาก็ไม่สูญเปล่า หลังจากยารากาโพสต์วิดีโอนี้ไปเมื่อวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์นี้เอง ก็ได้รับการตอบรับจาก แบรด วิลเลียมส์ นักพูดตลกหน้าไมค์ชื่อดังชาวสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนแคระเช่นกัน พอแบรดได้รับรู้เรื่องราวของควอเด็น เขาก็เป็นเจ้าภาพในการขอเรี่ยไรเงินทุนผ่านเว็บไซต์ Gofundme

“ผมเปิดเรี่ยไรเงินทุนผ่าน Gofundme เพื่อต้องการให้ควอเด็นรับรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องทนกล้ำกลืนกับสภาวะเช่นนี้อีกต่อไป เขาเป็นคนที่พิเศษคนหนึ่ง เขาสมควรที่จะได้รับความสุขเช่นกัน ผมต้องการให้แม่และควอเด็นบินมาที่อเมริกานี่ ให้พวกเค้าได้นอนโรงแรมดี ๆ แล้วผมจะพาเค้าไปดิสนีย์แลนด์ การกระทำของผมนี่ไม่ใช่เพื่อควอเด็นเท่านั้น เรามาช่วยกันทำให้ทั้งควอเด็นและคนอื่น ๆ ที่โดนกลั่นแกล้งมาตลอดชีวิต ได้รับรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามอีกมาก และพวกเขาสมควรที่ได้จะรับมัน”

หลังจาก แบรดเปิดรับเรี่ยไรยังไม่ทันข้ามวัน ก็มีผู้บริจาคมากถึง 6,500 ราย เป็นจำนวนเงินถึง 169,000 ดอลลาร์สหรัฐ (4.7 ล้านบาท) แน่นอนว่าเงินจำนวนนี้มากเกินกว่าที่แบรดคาดไว้ มากเกินกว่าจุดประสงค์ที่เขาจะพาควอเด็นและแม่ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ แบรดจะนำเงินส่วนที่เกินไปบริจาคให้กับกองทุนที่ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบูลลี่

ลาเทร็ล มิตเชลล์ และควอเด็น

ลาเทร็ล มิตเชลล์ และควอเด็น

นอกเหนือจาก แบรด วิลเลียมส์ แล้ว เรื่องราวของควอเด็นก็ยังได้รับความสนใจจาก ลาเทร็ล มิตเชลล์ นักกีฬารักบี้ซูเปอร์สตาร์ ประจำทีม South Sydney Rabbitohs jersey ที่ติดต่อเข้าหาครอบครัวเบย์ลส์ และเสนอตัวว่าอยากให้กำลังใจควอเด็น ลาเทร็ลได้เจอกับควอเด็นไปแล้ว ได้ถ่ายรูปคู่กัน แล้ววันเสาร์นี้ควอเด็นจะได้รับเกียรติเดินนำทีมลงสนามในเกมคืนวันเสาร์นี้

ขอให้กรณีของหนูน้อยควอเด็น เบย์ลส์ ได้เตือนใจ และมีส่วนในการยับยั้งพฤติกรรมบูลลี่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยเถิด นับว่ายังเป็นเรื่องดีที่เราได้เห็นภาพล่าสุดที่ยิ้มแฉ่งกับซูเปอร์สตาร์รักบี้ แทนที่จะเป็นข่าวเด็กแคระคนหนึ่งฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ได้กับการถูกรังแก

 

อ้างอิง