ในยุคสงครามเย็นที่สิ้นสุดไปเมื่อราว 30 ปีก่อน สายลับของแต่ละประเทศได้ออกปฏิบัติการลอบสังหารและขโมยข่าวระหว่างฝั่งสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต เหตุการณ์เหล่านั้นเหมือนจะย้อนกลับมาเกิดอีกครั้งในช่วงนี้ แต่เปลี่ยนคู่สงครามสนามสายลับเป็นสหรัฐฯ กับจีน
รายงานข่าวบอกว่า FBI สามารถรวบตัว Juan Tang นักชีววิทยาซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น 1 ใน 4 สายลับชาวจีนที่พยายามเจาะฐานข้อมูลของสหรัฐอเมริกาได้ และสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะนำตัวสายลับจีนสัญชาติสิงคโปร์ Dickson Yeo ที่ถูกจับได้เมื่อปีที่แล้วมาขึ้นให้การต่อศาล ซึ่งเจ้าตัวก็สารภาพว่าเป็นสายลับของรัฐบาลจีน
Dickson เข้าเรียนระดับชั้นปริญญาเอกที่สถาบัน Lee Kuan Yew School of Public Policy ในปี 2015 จบปริญญาตรีด้านสื่อสารมวลชนจาก Oklahoma City University และปริญญาโทด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาจาก National University of Singapore และปริญญาโทใบที่ 2 ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก International University of Japan ส่วนหัวข้อวิจัยระดับปริญญาเอกเป็นประเด็นเกี่ยวกับนโยบาย Belt and Road Initiative ของประธานาธิบดี Xi Jinping นั่นทำให้ Dickson Yeo ต้องเดินทางเข้าออกไปที่ประเทศจีนอยู่หลายต่อหลายครั้งเพื่อหาข้อมูลทำวิจัย
รัฐบาลจีนเห็นโอกาส จึงสั่งให้หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลจีน (MSS) ติดต่อ Dickson Yeo ในปี 2015 เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของรัฐบาลจีนเสนองานให้กับเขา เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของรัฐบาลจีนได้ขอให้เขาเปิดบริษัทปลอมขึ้นมาหนึ่งบริษัทชื่อ Resolute Consulting เน้นให้คำปรึกษาทางด้านนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนฉากหลังทำงานจารกรรมข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ให้ Dickson Yeo ทำการโพสต์โพรไฟล์ของบริษัทลงภายเว็บไซต์จัดหาและรับสมัครงานระดับโลกอย่าง LinkedIn เพื่อใช้ LinkedIn เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับคนที่ทำงานให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ
Dickson Yeo อธิบายว่า คนที่โพสต์เรื่องหน้าที่การงานของตัวเองลง LinkedIn นั้นเป็นคนประเภทที่ชอบเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลด้านการทำงาน ประสบการณ์ทำงานของตัวเองอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้ผู้ใช้ LinkedIn จำนวนมากกลายเป็นเป้าของหน่วยข่าวกรองของจีนที่จะติดต่อไปขอให้ทำงานในทางลับให้
รัฐบาลจีนไม่สนว่าข้อมูลที่ได้มาจะต้องตรงกับความจริง จะเป็นแค่ข่าวลือ ข่าวซุบซิบ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่ข้อมูลที่หาได้จากสื่อสาธารณะ รัฐบาลจีนรับทั้งหมดเพื่อจะไปเช็กกับเหล่าสายลับหรือแหล่งข่าวกรองของตัวเองอีกที สนนราคาต่อหนึ่งรายงานทางลับที่อยู่ที่ประมาณ 2,000 เหรียญฯ และ Dickson Yeo ได้รับงบเป็นบัตรกดเงินที่จะคอยจ้างผู้คนในการทำงานลับครั้งนี้เป็นเงินราว 5 ล้านเหรียญฯ
มีคนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น FBI, CIA, NSA, กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, กองทัพบก และกองทัพอากาศ ติดต่อส่งใบสมัคร ส่ง CV Resume เข้ามาสมัครงานกับบริษัทของ Dickson Yeo อย่างเกินคาดมากกว่า 400 คน ส่วนมากเป็นคนจากกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงที่ทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายนโยบายในทำเนียบขาว Dickson Yeo ส่ง CV ทั้งหมดให้รัฐบาลจีนและหน่วยข่าวกรองของจีนคัดเลือกผู้สมัคร
โดยวิธีการเลือกคนจะไม่ได้เลือกจากความเก่ง แต่เลือกจากผู้ที่มีปัญหาทางบ้าน ปัญหาทางด้านการเงิน เพราะคนที่มีปัญหาชีวิตอยู่แล้ว มักจะเป็นคนที่อ่อนไหวและเจอโอกาสอะไรก็คว้าไว้โดยไม่คิด จีนเคยใช้วิธีเดียวกันนี้กับเยอรมันและในครั้งนั้นก็ได้โพรไฟล์ผู้สมัครงานที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลเยอรมันไปกว่า 10,000 คน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส