กระแสของเกมในอุปกรณ์พกพานั้นก็สลับสับเปลี่ยนความนิยมไปเรื่อยๆ นะครับ ตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ Doodle Jump กับ Pocket God โด่งดังขึ้นมา มาถึงยุคของ Angry Birds ที่ดังติดลมบนจน Rovio ผู้ผลิตจากฟินแลนด์กลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเกมโมบาย แล้วมาถึงยุคของ Supercell จากฟินแลนด์เหมือนกันที่ส่ง Hey Day และ Clash of clans มาครองใจผู้เล่นทั่วโลก
และกระแสเกมยอดนิยมล่าสุดนั้นตกเป็นของ Flappy Bird เกมง่ายๆ ของนักพัฒนาอิสระจากเวียดนาม ที่อยู่ๆ ก็นิยมจนนักพัฒนาก็งงไม่น้อยกว่าอยู่ๆ มันดังได้ยังไงแว้
รูปแบบของ Flappy Bird นั้นเป็นเกมง่ายๆ ผู้เล่นสามารถเข้าใจวิธีเล่นในเวลาไม่ถึงนาที แต่การเล่นให้ไปได้ไกลนั้นต้องเรียกว่ายากสลัด เพราะนกน้อยจะตกลงด้านล่างตลอดเวลา ผู้เล่นต้องคอยแตะหน้าจอเป็นจังหวะเพื่อกระพือปีกให้นกบินไม่ตก แตะเร็วมากก็ไม่ได้เพราะนกจะบินสูงเกินไป นี่คืออุปสรรคแรกที่ผู้เล่นต้องควบคุมให้ได้
แต่ที่ยากกว่าคือความบอบบางของเจ้านก ที่แม้ขนไปแตะสิ่งกีดขวางในเกมเพียงนิดเดียว ตายยยย จบเกมทันที ซึ่งมันก็มีท่อคล้ายๆ เกมมาริโอมาคอยกั้นทางเยอะเหลือเกิน ผู้เล่นต้องควบคุมจังหวะการกระพือปีกให้บินขึ้นหรือลงผ่านช่องให้พอดี
ซึ่งบินผ่านได้ 10 ช่องก็เก่งแล้ว
Dong Nguyen ผู้พัฒนาจากสตูดิโอ dotGears ของเวียดนามบอกว่าเขาก็อธิบายไม่ถูกว่าทำไมเกมที่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013 ถึงมาดังเอาตอนสิ้นปีแบบนี้ ซึ่งถ้าวิเคราะห์ออกมาจริงๆ ก็ต้องบอกว่าตัวเกมนั้นเหมาะกับการบอกต่อ และได้โชคช่วยทำให้กระแสการเล่นเกมนี้ไปไกลมากในอเมริกา
เริ่มวิเคราะห์จากตัวเกมก่อน Flappy Bird มีคุณสมบัติครบถ้วนในการบอกต่อ ทั้งเป็นเกมแจกฟรี วิธีเล่นที่เข้าใจง่าย เล่นจบเกมหนึ่งในไม่กี่วินาที สามารถเริ่มต้นเกมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือเกมมันยากมาก ทำให้ผู้เล่นที่รู้สึกไม่ยอมแพ้ เลือกที่จะเล่นใหม่ๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้คะแนนที่พอใจ แล้วแชร์คะแนนแข่งกับเพื่อน
จริงๆ เกมที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ก็มีอยู่มากมายใน App Store แต่ Flappy Bird ได้โชคช่วยที่มีผู้เล่นจำนวนหนึ่งค้นพบมัน เล่นแล้วติดจนแนะนำให้คนอื่นเล่นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าผู้เล่นกลุ่มแรกไม่ใช่กลุ่มที่แชร์ต่อ Flappy Bird ก็จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างนี้
ซึ่งเมื่อ Flappy Bird ได้รับการดาวน์โหลดถึงระดับหนึ่ง อันดับแอปก็จะไต่ขึ้น จนล่าสุด Flappy Bird ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งใน App Store ของอเมริกา ทำให้คนเล่นยิ่งเยอะขึ้นไปอีก
แล้วเมื่อเกมหนึ่งดัง คนก็ไปค้นต่อว่านักพัฒนาคนนี้ทำเกมอะไรบ้าง จนพาให้เกมอื่นๆ จาก dotGears ทั้ง Shuriken Block เกมปัดดาวกระจายไม่ให้ตกลงหัวนินจา หรือ Super Ball Juggling เกมเดาะบอลให้นานที่สุด ที่มีองค์ประกอบคล้ายๆ กัน คือเกมเล่นง่าย เล่นเร็ว จบง่าย ไต่อันดับ App Store ตามไปตามๆ กัน งานนี้ Dong Nguyen รับค่าโฆษณาที่แปะไว้ในเกมไปเต็มๆ
แต่ถ้าให้แบไต๋วิเคราะห์ต่อ อันดับของ Flappy Bird ไม่น่าจะอยู่นานนัก เพราะความเรียบง่ายของเกมที่มีเนื้อหาน้อย ทำให้เล่นกี่ทีๆ ก็เล่นด่านเดิมซ้ำกันตลอด เมื่อเทียบกับเกมอย่าง Super Meat Boy เกมแนวแพลตฟอร์มที่เน้นความยากนรกเหมือนกัน แต่สามารถครองใจคนเล่นเกมได้ยาวนานเป็นปีๆ เพราะมีด่านให้เล่นเยอะ
ถ้านักพัฒนาไม่สามารถปรับปรุงเกม เพิ่มเนื้อหา หรือทำอะไรสักอย่างเพื่อยืดอายุการเล่นออกไปได้ ก็มีแนวโน้มว่าจะโดนแอปอื่นๆ ถมอย่างรวดเร็ว
ปล. ถ้าใครเล่นเกม Flappy Bird แล้วรู้สึกชอบแนวนี้ แต่อยากเล่นเกมให้มีเนื้อหามากกว่านี้แนะนำให้ลองเล่น Badland สำหรับ iOS และ Android ดู อาจจะไม่เรียบง่ายเท่า แต่ยิ่งใหญ่กว่า