2 กรกฎาคม เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกได้ประกาศยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 อยู่ที่ 254,695 คัน ซึ่งลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 18% และเป็นจุดสิ้นสุดในการเป็นเจ้าของสถิติการส่งมอบรถยนต์ประจำไตรมาสติดต่อกันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี สาเหตุเนื่องมาจากการปิดโรงงานช่วงโควิดในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นเวลานาน
เทสลารายงานว่ายอดส่งมอบ 254,695 คัน มาจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นราคาเป็นมิตร Model 3/Y จำนวน 238,533 คัน และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหรู Model S/X จำนวน 16,162 คัน ส่วนยอดการผลิตทั้งหมดอยู่ที่ 258,580 คัน เป็นของ Model 3/Y จำนวน 242,169 คัน และเป็นของ Model S/X จำนวน 16,411 คัน
จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นฐานการผลิตรถยนต์ Model 3 และ Model Y ที่สำคัญของเทสลา แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจิกะเซี่ยงไฮ้ต้องปิดเปิดโรงงานอยู่หลายรอบ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ในจีนที่เข้มงวดจากการระบาดของโควิด – 19 เริ่มจากมีนาคมปิดโรงงานไป 2 วันและปิดต่อในเดือนเมษายน รวมปิดนานถึง 22 วัน
ปีนี้เทสลาได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในยุโรปที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และโรงงานจิกะเซี่ยงไฮ้ ในเท็กซัส จึงช่วยชดเชยปัญหาการผลิตจากการล็อกดาวน์ช่วงโควิดในเซี่ยงไฮ้ไว้ได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ควรจะเป็นปีที่รุ่งเรื่องของเทสลา แต่กลับมีปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้มากดทับไม่ให้บินขึ้นมาผงาดดั่งใจหวัง ซึ่งนอกจากการปิดโรงงานในจีนช่วงโควิดแล้ว ยังมีปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานขาดแคลนวัตถุดิบ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซีอีโอ อีลอน มัสก์ ได้บ่นว่าโรงงานใหม่ทั้งสองแห่งเป็น “เตาหลอมเงินขนาดมหึมา” ซึ่ง “สูญเสียหลายพันล้านดอลลาร์” (หลายหมื่นหรืออาจถึงแสนล้านบาท)
ที่มา : theverge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส