Ford กำลังพัฒนาแผนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยการใช้แบตเตอรี่แบบใหม่เพื่อขยายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้จำนวนที่มากขึ้น โดยตั้งเป้าจะทำให้อัตราการผลิตทั่วโลกอยู่ที่ 600,000 คันต่อปี ภายในสิ้นปี 2023
แบตเตอรี่แบบใหม่นี้จะใช้วัสดุ ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (Lithium Iron Phosphate) ซึ่งมีปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น ส่งผลทำให้ใช้งานได้ยาวนานหลายปี, ลดต้นทุนการผลิต และลดการต้องพึ่งพาวัสดุบางประเภทที่หาได้ยาก เช่น นิกเกิล เป็นต้น ได้อีกด้วย
Ford ได้เริ่มติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่นี้ในรถยนต์บางส่วนแล้ว เช่น Mustang Mach-E ที่จะจำหน่ายในแถบอเมริกาเหนือในปี 2023 และ F-150 Lightning ที่จะจำหน่ายในปีต้นปี 2024
อัตราการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 600,000 คันต่อปีที่ Ford ตั้งเป้าไว้นั้น เกือบครึ่งหนึ่ง (270,000 คัน) จะเป็นการผลิต Mustang Mach-E สำหรับจำหน่ายในประเทศจีน, ยุโรป และอเมริกาเหนือ
นอกนั้นจะเป็นรุ่น F-150 Lightning จำนวน 150,000 คัน, รถตู้ Transit พลังงานไฟฟ้า จำนวน 150,000 คัน และรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV สำหรับจำหน่ายในยุโรปที่ยังมิได้ระบุรุ่นอีก 30,000 คัน
ทาง Ford ได้กล่าวเสริมว่า ต้องการขยายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 2 ล้านคันต่อปี ภายในสิ้นปี 2026
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส