ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง CARSOME ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อ-ขายรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นผู้นำตลาดในประเทศ เห็นโอกาสเติบโตของรถยนต์มือสองที่มียอดซื้อขายตลอดทั้งปีกว่า 2 ล้านคัน หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 3 – 5% โดยเฉพาะสัดส่วนของรถ EV ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
CARSOME เผยถึงอัตราเติบโตของบริษัทในปีที่ผ่านมาว่ามียอดเติบโตสูงขึ้น 10 เท่า โดยมีรถยนต์หมุนเวียนในคลังสินค้ากว่า 1,000 คัน และตั้งเป้าโตขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า อีกทั้งยังมุ่งรับมือปริมาณรถยนต์มือสองในไทยที่คาดว่าจะล้นตลาดในปีนี้ รวมถึงตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองของไทยภายใน 3 ปี
CARSOME เผยข้อมูลจากลูกค้าว่าทำไมยังไม่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลานี้ มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูง (69.2%) สถานีชาร์จแบตเตอรี่สาธารณะยังไม่เพียงพอ (68.2%) และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่และอะไหล่ยังมีราคาแพง (40.2%)
ในขณะที่ข้อมูลจากลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาจาก ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย (98.4%) อยากมีส่วนในการรักษาสิ่งแวดล้อม (65.6%) และสิทธิประโยชน์ทางภาษี (48.4%)
ทั้งนี้ CARSOME ตั้งเป้าเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์มือสอง ทั้งรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป โดยการจับมือกับผู้ประกอบรถยนต์ EV ในการวางแผนการซื้อรถ EV มือสอง (ในปีนี้ตั้งเป้าประมาณ 100 คัน) และการจัดการแบตเตอรี่อย่าง EV Me แพลตฟอร์มเช่ารถยนต์ไฟฟ้ามือสอง รวมถึงการอบรมการตรวจและปรับสภาพรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการจับมือกับผู้ใช้สินเชื่อเพื่อวางแผนการจัดการความเสี่ยงและการปล่อยกู้ ทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในปี 2023
นอกจากแพลตฟอร์มซื้อขายแล้ว CARSOME ยังมีหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าในชื่อ CARSOME Academy สำหรับผู้ที่สนใจและอยากต่อยอดธุรกิจเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจรถยนต์มือสองสามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.carsome.co.th หรือหน้าร้านสาขาต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปจนถึงผ่านแอปพลิเคชัน CARSOME ได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส