ยานพาหนะสมัยใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ซึ่งถือเป็นเรื่องดีถ้าทุกอย่างทำงานได้เรียบร้อยอย่างที่มันควรจะเป็น อย่างไรก็ตามในชีวิตจริง เทคโนโลยีกับเพิ่มความซับซ้อนในการผลิตมากขึ้น และทำให้โอกาสที่จะเกิดปัญหาและความผิดพลาดในด้านคุณภาพมากขึ้น!
ทั้งหมดนี้คือข้อสรุปที่มาจากการศึกษาในปี 2023 ภายในสหรัฐอเมริกาของ J.D. Power โดยพบว่า 8 ใน 9 หมวดหมู่หลักมีคุณภาพลดลง เหลือแค่หมวดหมู่ประสบการณ์การขับ (Driving experience) เพียงหมวดหมู่เดียวที่ไม่พบปัญหาคุณภาพตกต่ำ
การศึกษาของ J.D. Power ติดตามจำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อพาหนะ 100 คัน และพบว่าสถิติปัญหาที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ 100 คันนั้นเพิ่มขึ้นถึง 30 ปัญหาใน 2 ปีที่ผ่านมา (18 ปัญหาเพิ่มขึ้นจากปี 2022 เทียบ 2021, 12 ปัญหาเพิ่มขึ้นจาก 2023 เทียบ 2022)
“อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับปัญหาด้านคุณภาพหลายประการ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่เราไม่เคยเห็นในประวัติศาสตร์ 37 ปีของ IQS” แฟรงก์ เฮนลีย์ (Frank Hanley) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเปรียบเทียบมาตรฐานรถยนต์ของ J.D. Power กล่าว
คุณภาพที่ตกลงอย่างต่อเนื่องอาจมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งไม่ได้มาจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อนขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากปัญหา เช่น ระบบเสียง, ฟีเจอร์ หรือการควบคุม ที่เป็นเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่แล้ว ในขณะที่ระบบ Infotainment พบปัญหาเพิ่มขึ้นมากที่สุด ถึง +3.2 ปัญหา
จากกราฟสถิติจะเห็นว่า Dodge อยู่อันดับ 1 ในรายงานของ J.D. Power โดยพบปัญหาน้อยที่สุดที่ 140 ปัญหาต่อพาหนะ 100 คัน, ตามมาด้วย Ram ที่ 141 ปัญหา, Alfa Romeo 143 ปัญหา, Buick และ Alfa Romeo ที่ 143 ปัญหา โดยทั้ง 5 แบรนด์นี้ถือเป็น 5 อันดับแบรนด์ที่เกิดปัญหาน้อยที่สุด
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla และ Polestar กลับมีปัญหาด้านคุณภาพมากกว่าค่าเฉลี่ย โดยพบปัญหามากถึง 257 ปัญหาจากยานพาหนะ 100 คัน และ 313 ปัญหาจากยานพาหนะ 100 คัน ตามลำดับ
ที่มา: Techspot
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส