ในโอกาสครบรอบ 60 ปีของออโตโมบิลิ ลัมโบร์กีนี (Automobili Lamborghini) เปิดแผนเดินหน้าสู่ยนตรกรรมไฟฟ้า ประเดิมด้วยรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกอย่าง Lamborghini Revuelto เพื่อมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2024

ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กีนี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1963 และให้กำเนิดซูเปอร์คาร์คันแรกด้วย Lamborghini Miura ในปี 1966 หลังจากประสบความสำเร็จบนเส้นทางยนตรกรรมมานานกว่า 60 ปี ลัมโบร์กีนีเตรียมเข้าสู่โลกแห่งพลังงานสะอาด พร้อมเปิดตัว Lamborghini Revuelto รถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรก ที่ผสานเครื่องยนต์ V12 และมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมทั้งกางแผน ‘Direzione Cor Tauri’ (คำว่า Cor Tauri ภาษาละตินแปลว่า หัวใจของกระทิง) มุ่งสู่ซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในสิ้นปี 2024

Lamborghini Revuelto เป็นตัวแทนคำว่าของ HPEV ที่ย่อมาจาก High Performance Electifired Vehicle หรือซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง นอกจากนี้ชื่อรุ่นของลัมโบร์กีนีทุกคันจะตั้งชื่อตามชื่อของวัวกระทิง เช่นเดียวกับ Revuelto เป็นวัวกระทิงจอมดุดันในปี 1880 ตัวรถได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Countach ในปี 1971 ผสานดีไซน์ยานอวกาศจากชุดท่อไอเสียทรง 6 เหลี่ยม ฝากระโปรงทรง Shark-nose กับดีไซน์รูปตัว Y มาพร้อมประตูปีกนก และมีออปชันให้เลือกมากกว่า 400 เฉดสี

Lamborghini Revuelto มาพร้อมตัวถังใหม่ Monofuselage ที่ได้แรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมการบิน และยังใช้ตัวถังส่วนหน้าด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ทำให้ตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในคลาส ถือเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นแรกที่ทำได้แบบนี้

ตัวรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ผสานเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (2 ตัวคู่หน้า 1 ตัวกับชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์ 8 สปีด) ให้พละกำลังสูงสุด 1,015 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 2.5 วินาที (0 – 200 กม./ชม. ต่ำกว่า 7 วินาที) และทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

นอกจากนี้ Lamborghini Revuelto มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 3.8 kWh ขับขี่ไฟฟ้าเพียว ๆ ได้สูงสุด 10 กม. รองรับการชาร์จ AC ภายใน 30 นาที หรือชาร์จด้วยเครื่องยนต์ V12 เพียง 6 นาทีเท่านั้น มีโหมดขับขี่ให้เลือกต่างกันถึง 13 โหมด เสริมด้วยโหมดขับขี่ใหม่คือ Recharge, Hybrid และ Performance หรือจะใช้โหมดเดิมให้ความรู้สึกขับขี่ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น โหมด Citta (City) หรือโหมดขับขี่ไฟฟ้าและใช้เครื่องยนต์ V12 ปั่นไฟ หรือโหมด Strada สำหรับขับขี่ทางไกลโดยใช้เครื่องยนต์ V12 ทำงานและชาร์จแบตไปพร้อม ๆ กัน หรือโหมด Corsa เพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด

Lamborghini Diablo

ตัวรถยังมาพร้อมระบบผู้ช่วย Amazon Alexa ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมตัวรถผ่านเสียง ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณหภูมิ ระบบนำทางและปรับเปลี่ยนเพลงได้ พิเศษสำหรับรุ่น Revuelto ยังมีระบบนำทางใหม่ What3Words ที่ใช้ GPS ได้ทั่วโลก

Lamborghini Aventador

แถมเพิ่มความสะดวกกับผู้ขับขี่ด้วยแอปพลิเคชัน Lamborghini Unica ในการเช็กสถานะต่าง ๆ เช่น ระดับเชื้อเพลิง, การชาร์จแบตเตอรี่, ระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จ, ตำแหน่งที่จอดรถ ไปจนถึงควบคุมรถจากระยะไกล บางฟังก์ชันสั่งการผ่าน Apple Watch ได้ด้วยนะ

Lamborghini Aventador

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส