เราได้เห็นไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าหลายคันในงาน Auto Shanghai 2023 มาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ Lotus ELETRE (อ่านว่า โลตัส อีเลททร้า) ซึ่งเป็นไฮเปอร์คาร์เอสยูวีไฟฟ้าของ Lotus แบรนด์ซูเปอร์คาร์ในตำนานกว่า 75 ปี ในงานยังมีไฮเปอร์คาร์อีกรุ่นอย่าง Lotus Evija ด้วย แต่เสียดายไม่เข้าไทยในเวลานี้ แบไต๋ขอพาชม Lotus ELETRE ก่อนว่ามีดีอะไร ทำไมถึงยกให้เป็นรถ 2 มอเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก
สำหรับ Lotus ELETRE ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Lotus ELETRE R (รุ่นท็อป) และ ELETRE S (รุ่นเริ่มต้น) ทั้งสองคันได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นในตำนานอย่าง Emira และ Evija ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีแอโรไดนามิกเพื่อให้กำเนิดไฮเปอร์คาร์เอสยูวีไฟฟ้าสุดแข็งแกร่ง
ดีไซน์ภายนอกของ Lotus ELETRE มาพร้อมเส้นสายของโฉบเฉี่ยว ทรงหน้า Shape-nose รวมถึงส่วนกระจังหน้ารูปทรงกริดที่เปิดปิดได้ มาช่วยในเรื่องแอโรไดนามิก พร้อมไฟท้ายเส้นตรงยาว ที่จับประตูเรียบไปกับตัวรถ กระจกมองข้างแบบดิจิทัลทำด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเชื่อมจอกับจอภาพติดกับประตูด้านในของตัวรถ
ในขณะที่ภายในห้องโดยสารเรียบหรู มาพร้อมหน้าจอ 15.1 นิ้ว และเบาะที่นั่ง Welcone เมื่อก้าวเข้าตัวรถ หลังคาพาโนรามิกแบบ 360 องศา ให้ทัศนียภาพกว้างขวางและไฟ LED รอบตัวรถ พื้นที่สัมภาระ 1,532 ลิตรเมื่อพับเบาะ ใหญ่พอจะเป็นที่นั่งที่ 5
ความพิเศษของ Lotus ELETRE ยังจับมือร่วมกันพัฒนาระบบเสียงกับ KEF แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Uni-Q แหล่งกำเนิดเสียงแบบ 2 ไดรเวอร์ในดอกลำโพงเดียว และ Uni-Core ซัพวูฟเฟอร์แบบวางดอกลำโพงหันหลังชนกัน เพื่อหักล้างเสียงรบกวนจากแรงสั่นสะเทือน จัดเต็มระบบเสียงใน ELETRE R (1,380W) จำนวน 15 ตัวและ ELETRE S จำนวน 23 ตัว (2,160W) ให้เสียงกระหึ่มระบบ Dolby Atmos ตลอดการขับขี่
ในด้านสมรรถนะก็ดุดันสมกับเป็นไฮเปอร์คาร์ โดยในรุ่น ELETRE S มาพร้อมกำลังสูงสุด 630 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ขณะที่รุ่นท็อป ELETRE R มาพร้อมกำลังสูงสุด 905 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 2.95 วินาที จัดเต็มระบบเลี้ยว 4 ล้อ ตอบสนองได้ดีเหมือนรถสปอร์ตที่ Lotus เคยทำมา
และด้วยความเป็นรถไฮบริดมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh ขับขี่ไฟฟ้าได้ไกล 600 กิโลเมตร รองรับการชาร์๗ AC 22 kW และ DC สูงถึง 350 kW ชาร์จจาก 0 – 80% เพียง 20 นาที ตัวรถมาพร้อมซิม Dual Qualcomm 8155 พร้อมรองรับ 5G และระบบปฏิบัติการณ์ Lotus Hyper OS ทำงานร่วมกับ LIDAR 7 ตัวและกล้องเรดาร์ 5 ตัว พร้อมกล้องรอบคัน รองรับขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 ที่สามารถอัปเดต OTA ได้จากตัวรถ
Lotus ELETRE เปิดราคารุ่น ELETRE S เริ่มต้นที่ 5,890,000 บาท และรุ่นท็อป ELETRE R ราคา 6,590,000 บาท นอกจากนี้ยังเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการเตรียมศูนย์บริการที่ Emsphere ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อ ๆ ไปอย่าง EMEYA และ Type 135 (เอสยูวีไซซ์เล็ก) ที่จะเปิดตัวตามมา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส