เราทราบกันดีว่า อากิโอะ โตโยดะ (Akio Toyoda) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Toyota เป็นหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับกระแสความนิยมของรถไฟฟ้ามานานแล้ว และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาสละตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายน 2023 และล่าสุดรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของ Tesla ที่ย่ำแย่ก็ทำให้นักลงทุนอาจตระหนักได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่ใช่หนทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน ซึ่งโตโยดะได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในที่สุดผู้คนก็เริ่มเห็นความจริงเสียที”

แม้ว่าในปัจจุบันตลาดรถยนต์ EV จะยังคงเติบโตอยู่ แต่อัตราการเติบโตก็เริ่มชะลอลง โดยในครึ่งปีแรกของปี 2023 ยอดขายของรถยนต์ EV เติบโตเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่อัตราการเติบโตก็เริ่มชะลอตัว และลดน้อยลงจากเดิมที่เติบโตถึง 63%

สำหรับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกเองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย เพราะล่าสุดมูลค่าทรัพย์สินของเขาก็ลดลงไปถึง 30,000 ล้านเหรียญ (กว่า 1 ล้านล้านบาท) จากราคาหุ้นของ Tesla ที่ลดต่ำลง เนื่องจากผลกำไรต่อหุ้นที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ซึ่งตัวเลขที่รายงานก็ต่ำกว่าการคาดการณ์ของเหล่านักวิเคราะห์ไปถึง 10% ทำให้มูลค่าหุ้นของ Tesla ร่วงลงเกิน 17% ในช่วงเวลา 2 วันที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการซื้อขาย

นอกจาก Tesla ที่มีผลประกอบการไม่ดีแล้ว บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่น ๆ ก็เริ่มลดการผลิตรถยนต์ EV ลงแล้ว เช่น Lucid ที่ลดกำลังการผลิตถึง 30% หรือ GM ที่เลื่อนการเปิดตัว Chevy Silverado ออกไปอีกถึง 1 ปี รวมถึง Ford ก็ประกาศว่าจะลดกำลังการผลิต F-150 Lightning ให้ช้าลง เป็นต้น

นักวิเคราะห์มองว่า การเปลี่ยนผ่านมาสู่เทคโนโลยีรูปแบบใหม่จะมีราคาสูง เพราะมันต้องการให้คนมีมุมมองและการปฏิบัติกับยานพาหนะที่แทบไม่เปลี่ยนไปเลยตลอดหลายสิบปี ดังนั้นการที่ผู้บริโภคจะยอมรับทุกอย่างที่ออกมาจากฝั่งผู้ผลิตอย่างราบรื่นจึงเป็นไปได้ยาก

ที่มา: Fortune

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส