Tesla เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Cybertruck อย่างเป็นทางการ หลังจากปล่อยให้รอกันมาพักใหญ่ แถมยังมีข่าวดีสำหรับแฟน Tesla ชาวไทย เพราะเจ้า Cybertruck ก็ดันไปโผล่อยู่ในเว็บไซต์ Tesla เสียด้วยสิ งานนี้มีลุ้นว่าจะเข้ามาทำตลาดในไทยด้วยไหมนะ
Cybertruck มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ขับไกล 402 กม. ราคา 60,990 เหรียญ (ประมาณ 2.1 ล้านบาท) รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ขับไกล 547 กม. ราคา 79,990 เหรียญ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) และรุ่น Cyberbeast AWD ขับไกล 515 กม. 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.7 วินาที ราคา 99,990 เหรียญ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท)
Cybertruck ที่เปิดตัวมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่างระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า (Steer-by-Wire) ที่ช่วยควบคุมการหมุนล้อด้วยมอเตอร์หน้า 2 ตัว และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง (Rear wheel steering) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ทำให้รถมีวงเลี้ยวแคบลง ควบคุมรถได้ดีและคล่องตัวขึ้น แม้ตัวรถจะขนาดใหญ่ก็ตาม
พร้อมด้วยระบบการชาร์จ 2 ทิศทางหรือ Powershare คือ ชาร์จไฟเข้าและจ่ายไฟจากแบตไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือรถ EV คันอื่น ๆ ผ่านพอร์ต 120V จำนวน 4 พอร์ต (ภายในรถ 2 พอร์ตและท้ายกระบะ 2 พอร์ต) และยังมีพอร์ต 240V อีก 1 พอร์ตท้ายรถ
รวมถึงยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ขับไกลขึ้น Range Extender ที่ช่วยเพิ่มระยะให้แก่รถยนต์ไฟฟ้า Cybertruck ในแต่ละรุ่น อย่างรุ่น Cyberbeast จากเดิมขับได้ 515 กม. จะขยายเป็น 705+ กม. เลยทีเดียว ไปจนถึงโหมดำพิเศษ Beast Mode สำหรับรุ่น Cyberbeast ที่ทำให้รถมีกำลังสูงถึง 845 แรงม้า พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.7 วินาที
หลังจาก Cyberstruck เปิดตัวอย่างเป็นทางการได้มีสื่อต่างประเทศหลายสำนักรีวิวการขับขี่ รวมถึงดีไซน์ตัวรถคันจริงกันมากขึ้น แบไต๋รวบรวมรีวิว ความคิดเห็นจากสื่อบางสำนักมาให้ชมกัน ตั้งแต่สื่อใหญ่เจ้าสำนักรถยนต์อย่าง Top Gear บอกว่า “ชอบรูปลักษณ์ไม่เหมือนกับรถคันไหนที่เราสัมผัสมาก่อน ส่วนเรื่องขับขี่ออกไปทาง ‘แข็ง’ ตามสไตล์ของรถ Tesla แต่มีความเงียบ รวมถึงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อต่อ Cilp on ด้านท้าย” ทั้งนี้มีจุดที่ไม่ชอบอยู่บ้าง “การบังคับความเร็วต่ำยังไม่สมบูรณ์ ต้องทำความคุ้นเคยสักหน่อย แต่จะทำงานได้เนียนขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น รวมถึงอาจต้องทำใจเรื่องราคาที่สูงเกินไปหน่อย”
สื่ออีกสำนักจาก Carscoops กล่าวถึงความดุดันของ Cybertruck ไว้ว่า “สามารถเร่งได้ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน 2.6 วินาที บนถนนจริง พร้อมแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50% ตัวถังให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง รู้สึกดีกว่ารถบรรทุกคันอื่นๆ ที่เคยขับมา” แต่มีจุดที่ติดใจ “แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ตเวลาเข้าโค้งมากนัก รวมถึงการควบคุมรถเมื่อใช้ความเร็วต่ำกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงการถอยรถทำได้ยากเล็กน้อย เพราะไม่มีกระจกมองหลังมาให้ แถมมุมมองยังถูกบังด้วยฝาปิดท้ายรถ”
รีวิวจากอีกช่องทาง YouTube ของ Marques Brownlee พูดถึงตัวรถไว้ว่า “การควบคุมรถดีมาก วงเลี้ยวแคบ คล่องตัวบนทางหลวง ตอบสนองไวกว่า Model S Plaid” ในขณะที่มีจุดที่ไม่ชอบ “หลายคนบอกว่ามันน่าเกลียดไปหน่อย กับราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับรถบรรทุกราคาเกือบแสนเหรียญ”
รีวิวอีกช่องทางของช่อง Hagerty กล่าวถึง Cybertruck ไว้ว่า “มันคือ Truck 2.0 ที่พัฒนาตั้งแต่โครงสร้างตัวถัง แชสซี ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าที่ทำได้ดีมากๆ ไปจนถึงระบบไฟฟ้า 48V ใหม่ทั้งหมดและทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
ทั้งนี้ยังมีข่าวดีให้กับแฟน Tesla ประเทศไทย หากใครเข้าไปที่หน้าเว็บของ Tesla มีการลงข้อมูลของ Cybertruck ไว้แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเปิดให้จองเมื่อไหร่ จะเข้าข่ายของ Tesla Model X และ Model S หรือไม่ เราคงต้องติดตามกันต่อไป
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส