วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ ฟอร์ดได้ประกาศปรับลดราคารถยนต์ SUV ไฟฟ้า Mustang Mach-E รุ่นปี 2023 ที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ เป็นอันดับ 2 ในปี 2023 โดยได้ลดราคาสูงสุด 8,100 เหรียญ (292,049 บาท) หลังจากบริษัทพบว่ายอดขายลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนมกราคม
เริ่มต้นที่รุ่น RWD ลดจาก 42,995 เหรียญ (1,549,518 บาท) เหลือ 39,895 เหรียญ (1,437,795 บาท) ลดลงมา 3,100 เหรียญ (111,662 บาท) ส่วนรุ่นระดับสูง Mach-E GT ลดจาก 59,995 เหรียญ (2,161,769 บาท) ลดเหลือ 52,395 เหรียญ (1,887,922) ลดลงมา 7,600 เหรียญ (273,752 บาท) และที่ลดเยอะที่สุดคือรุ่น Premium RWD และ AWD ลดแบบจุกๆ 8,100 เหรียญ (291,782 บาท)
ฟอร์ดเผยว่าการลดราคาเกิดขึ้นเพื่อปรับให้เข้ากับตลาด ระหว่างการเติบโตของยอดขายและกำลังซื้อของลูกค้า ซึ่งยอดขาย Mach-E ในสหรัฐฯ ประจำเดือนมกราคม ลดลงมา 51% เหลือ 1,295 คัน เนื่องจากหลังวันที่ 1 มกราคม Mach-E หมดสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีมูลค่า 3,700 เหรียญ (133,290 บาท) ตามกฎระเบียบในกฎหมายลดเงินเฟ้อได้กำหนดสิทธิ์ให้แก่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ที่ไม่ใช้ส่วนประกอบแบตเตอรี่ที่ผลิตโดยผู้ผลิตในจีน
เทสลา (Tesla) เองก็ได้ปรับลดราคา Model Y ก่อนรับเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางที่ 7,500 เหรียญ (270,000 บาท) ในราคาเริ่ม 42,990 เหรียญ (1,547,640 บาท) ซึ่งจะแข่งกับ Mach-E ดังนั้นฟอร์ดจึงต้องลดราคาลงมาสู้ เพราะเทสลานี่แหละที่เล่นสงครามราคาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เพื่อต้องการกระตุ้นความต้องการของลูกค้าและกวาดส่วนแบ่งตลาด
ล่าสุดฟอร์ดและค่ายรถยนต์บางรายได้เริ่มชะลอการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ลดลง โดยได้มุ่งเน้นไปผลิตรุ่นไฮบริดและรถยนต์น้ำมันที่มีกำไรที่สูงกว่า นอกจากนี้เดือนที่ผ่านมา ฟอร์ดเผยว่าจะลดกำลังการผลิตรถกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning เหลือเพียง 1 กะ เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน
ที่มา : reuters.com
***