ตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MVP หรือ multi-purpose vehicle นั้นอาจจะไม่ได้ใหญ่นักเมื่อเทียบกับกลุ่ม SUV หรือรถเก๋งทั่วไป แต่ก็เป็นรถยนต์กลุ่มที่น่าสนใจสำหรับครอบครัว ซึ่งล่าสุด Suzuki ขอกระตุ้นตลาดนี้อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Suzuki ERTIGA รุ่นที่ 2 รถครอบครัว 7 ที่นั่ง ที่ปรับปรุงอย่างหมดจดหลังจากรุ่นแรกออกมาตั้งแต่ปี 2555 ครับ
ดีไซน์ของ Suzuki ERTIGA
Suzuki ERTIGA 2019 ออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ พร้อมกันชนสีเข้ม ส่วนกระจกข้างนั้นออกแบบให้รวมเป็นบล็อกเดียวกันไล่ไปถึงกระจกหลัง พร้อมเส้นสายแบบ Aerodynamic โฉบเฉี่ยวด้านข้างรถ ซึ่งไฟหลังก็เป็นแบบ LED แนวตั้งแบบ Light Guides สวยงาม (ในรุ่นท็อป) พร้อมล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว
งานออกแบบภายในนั้นใช้ลายไม้ยาวเพื่อให้ห้องโดยสารดูโอ่โถง พวงมาลัย D-Sharp เพื่อเพิ่มพื้นที่การวางขาให้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย (ในรุ่นท็อป) เบาะแถว 3 ขยายให้ใหญ่ขึ้น ช่องด้านหลังขนาดใหญ่ ขนกระเป๋าเดินทางเล็กได้ 5 ใบ ที่เปิดพื้นลงไปเพื่อให้ได้พื้นที่เก็บของมากยิ่งขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกในรถมากมายคือ
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง
- ระบบ Keyless Entry (ปลดล็อกรถโดยไม่ต้องแตะกุญแจ) และ Keyless Push Start (สตาร์ทรถโดยไม่ต้องสัมผัสกุญแจ) ในรุ่นท็อป
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง
- ช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง พร้อมช่องปล่อยลมเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้นบริเวณคอนโซลกลางด้านหน้า (เฉพาะรุ่นท็อป)
- เบาะที่นั่งแถว 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 และเบาะแถวสามสามารถพับได้แบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของ
โดย Suzuki ERTIGA นั้นมีให้เลือก 4 สีคือ สีแดง Pearl Radiant Red, สีเทา Metallic Magma Gray, สีขาว Pearl Snow White และสีดำ Cool Black Metalic
ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
ประสิทธิภาพของ Suzuki ERTIGA
Suzuki ERTIGA 2019 ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ในรหัส K15B เป็นเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร กำลังอัดสูงสุด 105 แรงม้า / 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร / 4,400 รอบต่อนาที โครงสร้างรถยนต์ใหม่เรียกว่า Heartect ผลิตจากเหล็ก High-Tensile ที่แข็งแกร่ง พร้อมระบบความปลอดภัยครบทั้ง
- ABS – ป้องกันล้อล็อก
- EBD – กระจายแรงเบรค
- BA – เสริมแรงเบรค
- Hillhold Control – ช่วยออกตัวบนทางลาด
- ESP – ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัว
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- สัญญาเตือนในการถอยหลัง
- จุดยึด ISOFIX และ Top tether สำหรับเบาะนั่งเด็ก 2 ตำแหน่ง
รวมภาพรายละเอียดของ Suzuki ERTIGA 2019
รายละเอียดด้านเทคนิคอื่นๆ ของ Suzuki ERTIGA 2019
- น้ำหนักรถ 1.1 ตัน
- น้ำหนักบรรทุกรวม 1.7 ตัน
- อัตราการบริโภคน้ำมัน
- ในเมือง 12.7 กม/ลิตร
- ทางหลวง (highway) 18.5 กม/ลิตร
- รวมๆ กันสำหรับทางหลายแบบ 15.9 กม/ลิตร
- ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร
- เกียร์ CVT 4 สปีด
รุ่นย่อยและราคาของ Suzuki ERTIGA
Suzuki ERTIGA มี 2 รุ่นย่อย 2 ราคาคือ
- รุ่น GL ที่ได้ระบบความปลอดภัยครบชุด, เครื่องเสียงพร้อมระบบ Bluetooth, ระบบกรองอากาศ, แอร์แถวหลัง เริ่มต้น 655,000 บาท
- รุ่น GX ได้จุดเด่นจากรุ่น GL พร้อมเพิ่มกุญแจไร้สาย, ไฟตัดหมอก, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, กระจกพับอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว, มือจับโครเมี่ยม, ดีไซน์ลายไม้ในห้องคนขับ ฯลฯ เริ่มต้น 695,000 บาท
โดยราคานี้เป็นราคาพิเศษช่วงเปิดตัวถึง 30 เมษายน หลังจากนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาอีกครั้ง และวันที่ 9-10 ก.พ. มีกิจกรรมที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศ เมื่อทดลองขับจะได้บัตรชมภาพยนตร์ 2 ที่นั่งอีกด้วย
คุยกับผู้บริหารซูซูกิเกี่ยวกับแผนการตลาดและรายละเอียดของ ERTIGA
นอกจากในช่วงของงานเปิดตัวแล้ว เรายังได้เข้าร่วมสัมภาษณ์เพื่อลงรายละเอียดภาพรวมของซูซูกิและ Suzuki ERTIGA ครับ โดยผู้บริหารของซูซูกิ 4 ท่านที่เข้าร่วมตอบคำถามคือ
- มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- ชูจิ โออิชิ ผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
- ซาโตชิ คาซาฮาระ หัวหน้าวิศวกรของ All New Suzuki ERTIGA บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
- วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
แผนในปีนี้ Suzuki จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งหมดกี่รุ่น
ปีนี้ซูซูกิจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งหมด 3 รุ่น รวม ERTICA แล้ว ซึ่งขอให้ติดตามต่อไปว่าอีก 2 รุ่นจะเป็นอะไร
ซูซูกิมีแผนพัฒนารถเทคโนโลยีใหม่อย่าง Hybrid หรือ EV หรือไม่
ยังเป็นเรื่องที่เรายังพิจารณากันอยู่ แต่ตอนนี้ซูซูกิยังเน้นรถ Compact ในกลุ่ม A segment (รถ City Car ขนาดเล็ก) และ B segment (รถ Subcompact ขนาดใหญ่ขึ้นกว่า A Segment) เป็นหลัก เพราะเป็นจุดเด่นของเราที่สามารถสร้างรถที่มีความคุ้มค่าและความประหยัดได้
ภาพรวมตลาด B-segment MPV ในไทยเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้านับเฉพาะตลาดกลุ่มนี้ในไทยยังไม่ใหญ่นัก แต่รถของเราก็สามารถเทียบได้กับอีกรถหลายกลุ่มเช่น Compact SUV หรือ B Segment และ Eco car เพราะฉะนั้นตัวเปรียบเทียบหลักของเราเวลาลูกค้าเลือกรถจึงมีหลายกลุ่ม ซึ่งรวมๆ แล้วตลาดรถกลุ่มขนาดเล็กนี้อัตราการเติบโตสูง เพราะผู้ใช้รถตั้งแต่โครงการรถคันแรกมีเยอะมาก มากกว่า 1.3 ล้านคันในตอนนั้น มาถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนรถแล้ว
ซึ่งปีนี้ซูซูกิไทยวางยอดขายเอาไว้ 33,000 คัน จากความสำเร็จในการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการไปทั่วประเทศ และปัจจัยการเปลี่ยนรถจากรถคันแรกด้วย โดยแบ่งเป็น
- Swift 15,910 คัน
- Ciaz 8,930 คัน
- Ertica 2,390 คัน
- Celerio 2,330 คัน
- Carry 3,440 คัน
ว่าด้วยเรื่องรายละเอียด ERTICA ทำไมต้องใช้ลายไม้, ทำไมยังเป็นเกียร์ 4 สปีด, มีแผนประกอบในไทยไหม
ที่เราเลือกดีไซน์เป็นลายไม้เพราะต้องการให้ดูหรู และมีความเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้ ซึ่งลายนี้ก็ทำให้ห้องขับขี่ดูกว้างขึ้นด้วย ส่วนทำไมยังเป็นเกียร์ 4 สปีดเพราะเราเชื่อว่าตอนนี้ยังเพียงพออยู่ แต่อนาคตอาจจะมีการปรับปรุงระบบส่งกำลังใหม่ถ้าหากมีเสียงตอบรับกลับมา
ส่วนแผนการประกอบ ERTICA ในไทย ก็เป็นไปได้ในอนาคตหากซูซูกิสามารถขายรถได้มากขึ้นกว่าเป้าหมาย แต่ตอนนี้ยังประกอบที่อินเดียและอินโดนีเชียเป็นหลัก