มาแล้ว! 2021 Ford F-150 พร้อมด้วย Full Hybrid ให้ระยะวิ่งได้ถึง 1,126 กม.

Ford F-150 รถกระบะที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาอย่างยาวนานถึง 43 ปี ซึ่งล่าสุดปี 2019 มียอดขาย 896,526 คัน และ 25 มิถุนายนนี้ได้เปิดตัว 2021 F-150 รถกระบะรุ่นที่ 14 มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง Hybrid และการเชื่อมต่อที่มากขึ้น

2021 Ford F-150 มีเครื่องยนต์ให้เลือก 6 ตัวแต่ยังไม่เปิดเผยแรงม้าและแรงบิด เริ่มตั้งแต่ระดับล่างสุด 3.3L V6, 5.0L V8, 2.7L Twin-turbocharged EcoBoost V6, 3.0L Diesel V6, 3.5L Twin-turbocharged EcoBoost V6 และใหม่ล่าสุด 3.5L PowerBoost Full Hybrid V6 พร้อมติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 35 กิโลวัตต์ (47 แรงม้า) ภายในระบบส่งหรือตัวเรือนเกียร์ที่รับพลังงานจากชุดแบตเตอรีลิเธียมไอออน 1.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และให้ระยะวิ่งเมื่อเติมน้ำมันเต็มถังได้ถึง 1,126 กม. (700 ไมล์) พร้อมด้วยเกียร์ออโต้ 10 สปีด

บริษัทคาดหวังว่าแรงบิดและความสามารถในการลากจูงระดับที่ดีที่สุดซึ่งอาจจะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าจากรุ่น V8 และ V6 EcoBoost ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันอย่างเดียว จึงได้นำเสนอตัวเลือกใหม่ Full Hybrid ที่ทรงพลังกว่าระบบ Mild-hybrid ของ GM และ Ram

ระบบ Infotainment มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน 8 นิ้วหรือตัวเลือกเพิ่มเติม 12 นิ้ว ซึ่งช่วยแสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ความเร็ว การเลือกเกียร์ และเส้นทาง รวมทั้ง Sync 4 ช่วยให้เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่รองรับได้ทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay อีกทั้งฟีเจอร์ SYNC AppLink ที่ช่วยให้คุณสั่งงานด้วยเสียงเพื่อเข้าถึงแอปที่ชื่นชอบบนสมาร์ตโฟน เช่น เข้าถึงเพลง สถานีวิทยุ/พอตแคสต์ แชร์ตำแหน่งที่ตั้ง และการนำทางด้วย Waze รวมทั้งการสั่งงานอุปกรณ์ภายในบ้านได้ด้วย Alexa

ผู้ช่วยในการขับขี่ด้วยฟีเจอร์ Co-Pilot360 2.0 ที่มีระบบป้องกันการชนล่วงหน้าด้วยระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบตรวจจับคนเดินเท้า ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าและไฟสูงอัตโนมัติ กล้องมองหลังและระบบ Dynamic Hitch Assist ช่วยควบคุมในการลากจูง ทั้งนี้บางรุ่นจะสามารถเพิ่ม Active Drive Assist ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจรได้โดยไม่ต้องคอยจับพวงมาลัยเมื่อขับทางไกลเป็นเวลานาน ๆ แต่ผู้ขับขี่ต้องมองทางข้างหน้าอย่างไม่ละสายตาเพื่อสามารถเข้ามาควบคุมรถได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งระบบจะมีกล้องคอยจับใบหน้าผู้ขับขี่ว่ามองทางอยู่หรือไม่ (คล้ายกับ Autopilot ของ Tesla) นอกจากนี้ยังมี Intersection Assist ตรวจจับการจราจรที่กำลังจะมาถึง และ Active Park Assist 2.0 ระบบช่วยในการจอด

ระบบจ่ายไฟฟ้า (Pro Power Onboard) ช่วยส่งมอบพลังงานไฟฟ้าในขณะที่จอดรถ ซึ่งรุ่นน้ำมันจ่ายไฟได้ถึง 2.0 kW ส่วนรุ่น Hybrid จ่ายไฟได้ถึง 2.4 kW หรือตัวเลือกเพิ่มเติม 7.2 kW โดยจะมี 4 ช่องเสียบจ่ายไฟขนาด 120 V./20 A. ส่วนตัวเลือกเพิ่ม 7.2 kW จะมีช่องเสียบไฟ 240 V./30 A.