Mobileye เป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองสัญชาติอิสราเอล โดยได้พัฒนาอัลกอริทึมและชิปเร่งการประมวลผล EyeQ ที่ถูกนำไปใช้ในรถยนต์ของบริษัทชั้นนำ ได้แก่ BMW, General Motors และ Volvo แม้แต่ Tesla Model S ก็เคยใช้เทคโนโลยี EyeQ มาตั้งแต่ปี 2015 จนสิ้นสุดที่ชิป EyeQ3 ทาง Tesla ก็ได้ไปผลิตชิปของตัวเอง ต่อมามกราคมปี 2017 Mobileye ได้ร่วมมือกับ Intel และ BMW พัฒนารถยนต์ขับขี่ด้วยตนเอง จนสิงหาคมปีเดียวกัน Intel ก็ได้ซื้อกิจการ Mobileye และมุ่งหวังในการพัฒนา MaaS ระบบการเดินทางแห่งอนาคตที่จะออกจำหน่ายในปี 2022
16 กรกฎาคม ห้องข่าวของ Intel เปิดเผยว่าบริษัทย่อย Mobileye ได้รับอนุมัติให้สามารถทดสอบรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองในสภาวะการจราจรจริงบนท้องถนนทุกแห่งของเยอรมัน ทั้งในเขตเมืองที่รถหนาแน่นและชนบทที่รถจะเบาบางกว่า รวมทั้งบนทางหลวงที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งอนุญาตให้ขับได้ที่ความเร็ว 130 กม./ชม. แต่จะต้องมีคนขับคอยเฝ้าระวังที่พวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญ Mobileye เป็น non-OEM หรือบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีรายแรกที่ได้รับอนุญาตการทดสอบรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองจากหน่วยงานของเยอรมัน
กว่าจะได้การอนุญาต Mobileye ต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย วิเคราะห์อันตรายและพิสูจน์ได้ว่ารถสามารถเข้าไปขับร่วมอยู่กับการจราจรบนถนนสาธารณะได้อย่างปลอดภัย
ด้วยความมุ่งหวังที่จะพัฒนา MaaS เพื่อให้บริการเรียกรถแท็กซี่ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองในอนาคต เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Intel ก็ได้ซื้อบริษัท Moovit แอปบริการขนส่งสาธารณะสัญชาติอิสราเอลด้วยมูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเสริมทัพมาทำงานร่วมกับรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองของ Mobileye
มกราคมที่ผ่านมา Mobileye ได้เผยแพร่วิดีโอสาธิตรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองในเยรูซาเล็มประเทศอิสราเอลบนถนนที่มีการจราจรจริง โดยตรวจจับด้วยกล้องเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับระบบ Autopilot ของ Tesla ที่อ้างว่าขณะนี้กำลังใกล้ถึง SEA ระดับ 5 ที่สมบูรณ์แบบ
การทดสอบในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทได้สาธิตระบบ True redundancy (ด้วย 2 ระบบย่อย Radar และ Lidar) และ Responsibility-Sensitivity Safety (RSS) โดย AI สามารถตัดสินใจเสมือนมีสามัญสำนึกคล้ายมนุษย์เพื่อรับผิดชอบต่อความปลอดภัยที่อ่อนไหวทำให้สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติที่จะเกิดขึ้นได้
ในปี 2022 Mobileye มีเป้าหมายที่จะทดสอบการปรับใช้ Robo-taxi (แท็กซี่ขับขี่ด้วยตนเอง) ใน 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ Tel Aviv ประเทศอิสราเอล, ปารีสประเทศฝรั่งเศส และเมืองแดกูประเทศเกาหลีใต้
เมื่อดูความพร้อมของ Intel และบริษัทในเครือ Mobileye และ Moovit เชื่อว่าในอีกไม่ช้าเราจะได้เห็นบริการ MaaS ในเมืองใหญ่และขยายไปทั่วโลก ถึงตอนนั้นความสะดวกในการเดินทางและความปลอดภัยบนท้องถนนก็มีมากยิ่งขึ้น
ที่มา : engadget และ newsroom.intel.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส