เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา กองกำลังตรวจกลางของประเทศแคนาดา หรือที่เรียกว่า RCMP (Royal Canadian Mounted Police) ได้รายงานว่า พวกเขาได้รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับการขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงบนทางหลวงหลายเลข 2 ใกล้กับเมือง Ponoka รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา
ผู้ที่แจ้งเหตุได้รายงานว่า รถยนต์ดังกล่าววิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเบาะหน้าได้ถูกปรับเอนไปด้านหลัง กอปรกับคนขับและผู้โดยสารที่เบาะหน้าต่างก็กำลังหลับอยู่
ตำรวจได้พบว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็น Tesla Model S ปี 2019 และได้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนคนขับ แต่รถยนต์ดังกล่าวกลับเพิ่มความเร็วขึ้นเป็น 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะจอดในที่สุด
ในเบื้องต้น ทางตำรวจแคนาดาได้ตั้งข้อหาคนขับในวัย 20 ปี จากรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ในข้อหาขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง และระงับใบอนุญาตขับขี่เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากขับขี่ในขณะอ่อนเพลีย อีกทั้งยังถูกตั้งข้อหาขับรถยนต์ด้วยความอันตราย และมีกำหนดขึ้นศาลในเดือนธันวาคม 2020 นี้
ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ารถยนต์ Tesla Model S ดังกล่าวนั้นได้เกิดความผิดพลาดในระบบ Autopilot (ขับเคลื่อนอัตโนมัติ) หรือไม่ ในขณะที่ทาง Tesla ได้กล่าวว่าระบบ Autopilot นั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อสามารถตรวจจับว่ามือของคนขับยังอยู่บนพวงมาลัยเท่านั้น แต่ถ้าไม่สามารถตรวจพบ ก็จะส่งสัญญาณเสียงเตือนคนขับก่อนที่จะหยุดการทำงานของระบบ Autopilot ลง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ Gary Graham ผู้ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการงานบริการด้านจราจรของ RCMP ก็ได้กล่าวว่า “แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์รุ่นใหม่จะติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัยของคนขับ แต่มันก็เป็นเพียงระบบความปลอดภัยที่เสริมขึ้นมาเท่านั้น และคนขับยังคงต้องมีความรับผิดชอบต่อการขับรถยนต์อยู่”
ข้อมูลอ้างอิง : engadget
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส