Nio ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเจ้าของรถยนต์ SUV ไฟฟ้า 3 รุ่น คือ EC6, ES6 และ E8 ได้เปิดตัวรถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท คือ ET7 เพื่อกินส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ Tesla เจ้าของรถยนต์ซีดานไฟฟ้า Model 3 ได้ปล่อยรถ SUV ไฟฟ้า Model Y ออกมาแข่งขัน
ET7 นั้นโชว์เหนือโดยใช้แบตเตอรีแบบใหม่ที่ให้ระยะวิ่งมากกว่า 1,000 กิโลเมตร (621 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในราคาเริ่มต้นที่ 448,000 หยวน (2,084,541 บาท) แต่ก็มีทางเลือกให้ซื้อแบบไม่รวมชุดแบตเตอรีที่เป็นส่วนประกอบอันแสนแพงได้ในราคา 378,000 หยวน (1,759,574 บาท) โดยเจ้าของรถสามารถเช่าชุดแบตเตอรีกับบริษัทได้
เมื่อจะแข่งกับ Tesla ก็ต้องไปให้สุดด้วยการติดตั้งเซนเซอร์ Lidar ที่นิยมใช้กันในเทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่ด้วยตัวเอง ส่วนจะดีกว่า AutoPilot ของ Tesla หรือไม่ต้องรอพิสูจน์กัน แต่ที่แน่ ๆ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ไม่ยอมรับว่าการใช้ Lidar วัดระยะทางด้วยการยิงเลเซอร์และตรวจจับระยะเวลาที่ย้อนกลับจะได้ผลสำหรับระบบรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเอง ซึ่ง Tesla เลือกใช้ Computer Vision คือ การใช้ AI พยากรณ์ภาพจากกล้องและเรดาร์ที่สามารถตรวจจับได้ว่าวัตถุคืออะไรแล้วควรจะตอบสนองอย่างไร
Nio ตั้งเป้าหมายไว้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ซีดานและ SUV แต่ละซีรีส์จะต้องกินส่วนแบ่ง 46% ของยอดขายในตลาดโดยรวม ซึ่งรถยนต์ซีดานไฟฟ้าจะต้องแข่งกับ Tesla Model 3 Standard Range Plus ที่มีราคาเริ่มต้น 249,900 หยวน (1,162,783 บาท) และรถยนต์ SUV ไฟฟ้าของ Nio รุ่นที่ขายดีก็คือ NIO ES6 ในราคาเริ่มต้น 358,000 หยวน (1,665,771 บาท) จะต้องแข่งกับ Tesla Model Y ที่มีราคาเริ่มต้น 339,900 หยวน (1,581,552 บาท)
ปี 2020 Nio สามารถส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 43,728 คัน เพิ่มขึ้น 112.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีมูลค่าตลาดมากกว่า 92,000 ล้านดอลลาร์ (2.77 ล้านล้านบาท) ซึ่งมากกว่าผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมอย่าง Daimler AG และ General Motors และการเติบโตนั้นมาจากที่บริษัทได้รับเงินทุนจากรัฐถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ (30,130 ล้านบาท) นอกจากนี้ Nio ได้ประกาศว่าจะขยายสู่ตลาดหลัก ๆ ทั่วโลกภายในปี 2023 – 2024 โดยเริ่มต้นจากยุโรป
ที่มา : reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส