หลังจากที่รอคอยมานานหลังจากที่มีการประกาศข่าวการสร้างภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่คราวก่อนตัวภาพยนตร์ที่กำกับโดย พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W. S. Anderson) นั้นแทบไม่มีความเป็น ‘Resident Evil’ แบบที่แฟนเกมต้องการเลย จนมีการประกาศสร้าง ‘Resident Evil’ ภาคใหม่ขึ้นมาโดยอ้างอิงเรื่องราวจากเกม ‘Resident Evil’ ภาค 1 และ 2 มายำรวมกันในชื่อ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’
ที่ตั้งแต่ประกาศข่าวพร้อมกับภาพหลุดของ อวาน โจเกีย (Avan Jogia) ในชุดนายตำรวจ ลีออน สกอต เคนเนดี (Leon Scott Kennedy) ที่เหมือนในเกมพร้อมหนวดเครา ก็สร้างความสงสัยให้แฟน ๆ ว่าเราจะได้เห็นลีออนในแบบนี้จริง ๆ หรือ จนกระทั่งภาพอย่างเป็นทางการออกมาพร้อมกับตัวละครหลักแบบครบชุด
- แคลร์ เรดฟิลด์ (Clair Redfield) ที่ได้ คายา สโคเดลาริโอ (Kaya Scodelario)
- คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) ก็ได้ ร็อบบี้ อเมล (Robbie Amell)
- จิล วาเลนไทน์ (Jill Valentine) รับบทโดย แฮนนาห์ จอห์น-คาเมน (Hannah John-Kamen)
- อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) ก็ได้ ทอม ฮอปเปอร์ (Tom Hopper)
- แบรด วิคเกอรส์ (Brad Vickers) ที่ได้ นาธาน เดลส์ (Nathan Dales) ซึ่งตัวละครตัวนี้ถูกเปลี่ยนแทน แบร์รี่ เบอร์ตัน (Barry Burton) เพราะแบรดคือคนที่จะขับเฮลิคอปเตอร์มารับทุกคนท้ายเกม แต่เขาถูกเปลี่ยนมาอยู่ตรงนี้แทน
กำกับภาพยนตร์ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ (Johannes Roberts) กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวของลีออนและแคลร์ที่ต้องเอาชีวิตรอดใน ‘Raccoon City’ ไปพร้อมกับการตัดสลับเรื่องราวในอดีตของหน่วย STARS ภาคแรกคู่กันไป เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่า ‘Raccoon City’ ที่ส่งผลถึงตัวเมืองว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผู้กำกับบอกว่าคราวนี้ตัวภาพยนตร์จะบอกเล่าเรื่องราวด้วยตัวละครในเกม ไม่ใช่เพียงแค่ตัวละครคอสเพลย์ที่มีทรงผมและเครื่องแต่งกายของเกมเท่านั้น ผู้กำกับยังอธิบายถึงการเลือกนักแสดงที่จะมารับบทลีออนนั้นค่อนข้างยาก เพราะตัวละครตัวนี้ค่อนข้างซับซ้อนทั้งความสมดุลของอารมณ์ขันและความเหนื่อยล้า ซึ่งอวานช่างเหมาะสมกับบทนี้ที่สุด
ผู้กำกับโรเบิร์ตส์ยังบอกอีกว่าภาพยนตร์ ‘Welcome to Raccoon City’ นั้นจะแตกต่างจากภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ที่ผ่านมา เพราะเขาเองก็เป็นแฟนซีรีส์นี้และอยากเห็นทุกสิ่งที่มีในเกมมาอยู่ในภาพยนตร์ ทางทีมงานจึงไปติดต่อทาง ‘Capcom’ เพื่อขอข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเกมนี้จนได้พิมพ์เขียวการออกแบบของ ‘Spencer Mansion’ และสถานีตำรวจ Raccoon เพื่อสร้างมันขึ้นมาใหม่อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือบรรยากาศในเกมที่ต้องมืดวังเวงและดูอันตรายทุกย่างก้าว ซึ่งทีมงานได้หยิบยกบรรยากาศชวนอึดอัดเหล่านี้มาจากภาพยนตร์อย่าง ‘The Exorcist’, ‘Don’t Look Now’ และ ‘The Shining’ มาใช้ ส่วนโครงสร้างทั้งหมดของภาพยนตร์ก็ได้รับอิทธิพลมาจาก ‘Assault on Precinct 13’ ที่เล่าถึงกลุ่มตำรวจดีที่ต้องต่อสู้กับหน่วยตำรวจเลวที่จะบุกเข้ามาในโรงพักในโรงพักตัวเอง
อีกหนึ่งภาพที่ถูกเปิดเผยออกมานั่นคือภาพของ ลิซ่า เทรเวอร์ (Lisa Trevor) เด็กสาวผู้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเชื้อไวรัสเกือบทั้งหมดในเกม ‘Resident Evil’ โดยตัวจริงของลิซ่านั้นเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีพ่อเป็นสถาปนิกชื่อ จอร์จ เทรเวอร์ (George Trevor) ผู้ออกแบบ ‘Spencer Mansion’ ที่รู้กลไกทุกอย่างในคฤหาสน์เป็นอย่างดี จนเมื่อตัวคฤหาสน์สร้างเสร็จ ออสเวลล์ อี. สเปนเซอร์ (Oswell E. Spencer) เจ้าของคฤหาสน์ได้เชิญครอบครัวเทรเวอร์มางานเลี้ยง แต่ตัวของจอร์จติดธุระจึงให้ลูกเมียมาที่คฤหาสน์ก่อน จนเมื่อมาถึงทั้งสองแม่ลูกก็ถูกจับมาทดลองเชื้อ ‘T-Virus’ ทันที ซึ่งคนแม่นั่นกลายเป็นซอมบี้ทันทีในการทดลองครั้งแรก ต่างกับลิซ่าที่ยังคงมีสติและไม่เป็นซอมบี้ซึ่งเป็นกรณีที่หาได้ยาก นับจากนั้นเด็กน้อยก็ถูกจับมาทดลองนับครั้งถ้วนจนเกิดเป็นเชื้อไวรัสแบบต่าง ๆ มากมายจากตัวเธอ หนึ่งในนั้นคือเชื้อ ‘G-Virus’ โดยมี วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) เป็นผู้ทดลองกับเธอ ขณะที่พ่อของลิซ่าเมื่อมาถึงเขาก็ถูกขังในเขาวงกตของคฤหาสน์ที่เขาไม่ได้เป็นคนออกแบบ จนสุดท้ายจอร์จก็เสียชีวิตเพราะอดน้ำและอาหารตายตรงที่ที่เป็นหลุมศพของเขาที่สเปนเซอร์เตรียมรอเอาไว้พอดี
ส่วนตัวของลิซ่านั้นเรียกว่าใกล้เคียงความเป็นอมตะ เพราะผลของไวรัสจึงทำให้ร่างของเธอเปลี่ยนไปรวมถึงสติความเป็นมนุษย์ สิ่งที่เธอจำได้เพียงอย่างเดียวคือแม่ และสิ่งที่เธอมักจะทำอยู่เสมอเมื่อเจอคน นั่นคือการถลกหนังของคนในห้องทดลองผู้โชคร้ายมาสวมเป็นหน้ากาก ซึ่งในเกมนั้นเราจะไม่สามารถเอาชนะลิฆ่าได้ไม่ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เธอต้องการเพียงอย่างเดียวคือแม่เท่านั้น และหลังจากการระเบิดของ ‘Spencer Mansion’ ก็ไม่มีใครทราบอีกเลยว่าลิซ่าหายไปไหนอยู่รึตาย ในส่วนของภาพยนตร์นั้นก็ได้ มาริน่า มาเซปา (Marina Mazepa) รับบทเป็นลิซ่าทั้งร่างปกติและร่างปีศาจ โดยเนื้อหาในภาพยนตร์ตัวลิซ่าจะเชื่อมโยงกับเรื่องราวของแคลร์ ซึ่งเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่แคลร์เติบโตขึ้นมา คงต้องรอดูว่าภาพยนตร์จะเชื่อมโยงไปในทิศทางไหน
ผู้กำกับยังทิ้งท้ายอีกว่าทางทีมงานทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ‘Capcom’ เพื่อให้ภาพยนตร์ออกมาได้ใกล้เคียงกับตัวเกมมากที่สุด ทั้งฉากเนื้อหาอารมณ์ตัวละครไปจนถึงเหล่าซอมบี้ที่ต้องให้อารมณ์เหมือนที่เกม ‘Resident Evil’ มีมากที่สุด คงต้องมารอดูตัวอย่างในอนาคตว่าตัวเกมจะทำออกมาได้ดีตามที่แฟน ๆ ต้องการมากน้อยขนาดไหน ใครคิดเห็นอย่างไรก็ลองมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส