ดูเหมือนว่า Activision Blizzard จะไปไม่รอดจริง ๆ หลังเจอประเด็นดราม่าร้อนแรงไปตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ได้ประกาศเข้าซื้อ Activision Blizzard ด้วยเงินมากกว่า 68,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เกือบ 2.3 ล้านล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งหลังจากที่ Microsoft ได้เข้าซื้อ Activision Blizzard พร้อมกับพนักงานมากกว่า 10,000 ชีวิตและสตูดิโอพัฒนาเกมที่ตั้งใน 190 ประเทศทั่วโลกแล้ว แน่นอนว่าแฟรนไชส์เกมอย่าง Warcraft, Diablo, Overwatch, Call of Duty, Candy Crush และกิจกรรมแข่งขัน ESports จะถูกควบคุมและดูแลโดย Microsoft อย่างเต็มรูปแบบต่อจากนี้

นอกจากนั้นแล้ว Microsoft ก็ได้กลายเป็นค่ายเกมที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจาก Tencent และ Sony อีกเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ‘บ็อบบี โคทิค’ (Bobby Kotick) จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Activision Blizzard อยู่เหมือนเดิม แต่การตัดสินใจต่าง ๆ เนื่องจาก Microsoft เข้ามาเป็นเจ้าของกิจการแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะต้องได้รับอนุมัติจาก ‘ฟิว สเปนเซอร์’ (Phil Spencer) ผู้บริหารของ Microsoft Gaming ก่อนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ การตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ Microsoft จะส่งผลทำให้ Activision Blizzard กลับมากู้ชื่อเสียงได้หรือไม่ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปครับ
อ้างอิง Microsoft
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส