“สกาย ไอซีที” ร่วมกับ “AOT” พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่ดิจิทัลด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” เปิดประตูสู่ประเทศไทย Gateway to Thailand ที่จับมือพันธมิตรหลากหลาย ต่อยอดสู่การเป็น Thailand Travel Super App ผนึกไลฟ์สไตล์เข้ากับเทคโนโลยี ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะถึง 96 ล้านคน ในปี 2023
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีจำนวนกว่า 142 ล้านคนต่อปี แต่หลังจากนั้นลดลงเหลือแค่ 23 ล้านคน จนกระทั่งปี 2022 ที่ไทยเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทำให้ตัวเลขกลับมาเป็น 45.6 ล้านคน และตั้งเป้าไปที่ 96 ล้านคนในปี 2023
การท่องเที่ยวไทยในปีหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวแล้ว ความต้องการด้านบริการก็อาจเปลี่ยนไปด้วย ทอท. จึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาบริการในทุกมิติ โดยจะผลักดัน SAWASDEE by AOT ให้กลายเป็น Thailand Travel Super App ตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง
นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการ Digital Platform และ AI-Empowered Solution ระดับประเทศ กล่าวว่า แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เป็นการนำเทคโนโลยีมาผสานกับไลฟ์สไตล์ผู้คน ที่มุ่งเชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินชีวิตของคนไทย และเชื่อมโยงระบบนิเวศทางเทคโนโลยี (Tech Ecosystem) ของประเทศไทยให้ครบสมบูรณ์ พร้อมเดินหน้าสู่อนาคต
นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทอท. และสกาย ไอซีที มุ่งส่งมอบประสบการณ์เดินทางสุดพิเศษแก่นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “GATEWAY TO THAILAND” โดยผนึกกำลังหลากองค์กรพันธมิตรไทย ยกระดับฟีเจอร์ใหม่บน SAWASDEE by AOT ตอบโจทย์ 3 ด้าน ได้แก่ Digital Airport Experiences ยกระดับประสบการณ์ภายในสนามบิน Digital Lifestyle ยกระดับบริการด้านการใช้จ่ายและสิทธิพิเศษและ Digital Travel Safety ยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว
แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT มีฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น “Flights” เหมือนยกกระดานไฟลต์มาไว้บนสมาร์ตโฟน สามารถดูไฟลต์บินได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความสะดวกให้สามารถบันทึกไฟลต์บินของตัวเองล่วงหน้า 6 เดือน พร้อมแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาออกเดินทาง หรือจำเป็นต้องเลื่อนไฟลต์
อีกหนึ่งตัวช่วยให้นักเดินทางกับฟีเจอร์ Queue Time ระบบจะแสดงข้อมูลเวลาและคิวในสนามบินแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่จุดเช็กอิน จุดตรวจกระเป๋าเดินทางและจุดตรวจหนังสือเดินทาง ทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ ไม่ตกเครื่องแน่นอนครับ
เอาใจสายท่องเที่ยวกับการเชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยบริการจากฟีเจอร์ ‘Explore’ หรือ ‘เที่ยวไทย’ ที่รวบตึงข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พักมาไว้ในที่เดียว สามารถเปิดแอป SAWASDEE by AOT ขึ้นมาช่วยแนะนำ เสมือนไกด์นำทางตลอดทริป
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยก็มี ‘Tourist Help‘ ร่วมมือกับตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวเพียงกดปุ่มเดียว (เริ่มต้นใช้งานที่สนามบินภูเก็ต ครอบคลุมการช่อยเหลือในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เกาะพงัน เกะาสมุยและเกาะเต่า) สามารถสื่อสารได้ 6 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย ไปจนถึงฟีเจอร์ ‘Insurance‘ บริการซื้อประกันเดินทางและประกันอุบัติเหตุในราคาพิเศษ พร้อมรับความคุ้มครองตลอดการเดินทางจากเมืองไทยประกันภัย (MTI)
นอกจากการให้บริการต่างๆ แล้ว เพื่อให้การใช้จ่ายในยุค Cashless ทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอป แค่ชำระผ่าน SAWASDEE Pay ผ่านบัตรเครดิต พร้อมสะสมแต้ม AOT Point เมื่อใช้จ่าย 25 บาทต่อ 1 AOT Point หรือนำพอยต์บัตรเครดิตหรือ CARAT จาก King Power และ PT Max Card ของปั๊มน้ำมัน PTG มาแลกเป็น AOT Point ได้เช่นกัน AOT Point ใช้แลก Privilege ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม เลาจน์สายการบิน ไปจนถึงส่วนลดค่าบริการเช่ารถสูงสุดถึง 50%
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ยังรองรับได้สูงสุดถึง 8 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สเปนและรัสเซีย พร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่จะทยอยเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ อาทิ Airport Free Wi-Fi ใช้อินเทอร์เน็ตภายในสนามบินฟรี Premium Services ให้บริการ Butler & Buggy และเทคโนโลยี AR ที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ภายในสนามบิน รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาร่วมกับพันธมิตร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส