Google Thailand ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย และภาคเอกชน จัดงาน Launching Sustainable Digital Classroom เปิดตัวโครงการ รับบริจาคคอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊กเก่า จากองค์กรที่ครบอายุการใช้งาน มาต่ออายุการด้วย ChromeOS Flex แล้วส่งต่อให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัดกรุงเทพมหานครเอาไปใช้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอุปกรณ์การศึกษาแล้ว ยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และประหยัดงบประมาณการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ในแต่ละปีอีกด้วย

ไมค์ จิตติวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดด้านแบรนด์ Google ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า Google ให้ความสำคัญด้านการศึกษาและการเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมของคนไทยเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งจะเห็นได้จากโครงการ Be Internet Awesome ที่ทำมา 3 ปี สามารถฝึกอบรมครูและนักเรียนไปแล้วกว่า 3.4 ล้านคน และได้เริ่มนำ ChromeOS Flex ไปลองใช้ในโรงเรียนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดย ChromeOS Flex คือระบบปฏิบัติการที่สร้างมาเพื่อใช้บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กรุ่นเก่า ๆ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น PC หรือ Mac ก็ติดตั้งใช้งานได้ ซึ่งการทำงานส่วนใหญ่จะอยู่บนระบบคลาวด์ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ไม่ต้องมีสเปกแรงก็ยังใช้งานได้ อีกทั้งยังกินพลังงานน้อยกว่าระบบปฏิบัติการทั่วไป จึงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย และปลอดภัย

คาดว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า จะได้รับบริจาคคอมพิวเตอร์เก่าจํานวน 130,000 เครื่อง เพื่อนำมาสร้างการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้กับนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 4 – ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ซึ่งจะครอบคลุมถึง 437 โรงเรียน

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและสาธารณสุข เป็นสองมิติที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในกรุงเทพมหานคร

ซึ่งโครงการรับบริจาคคอมพิวเตอร์จากประชาชนและภาคเอกชนมาเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น นับเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้รับและผู้ให้ ที่นอกจากผู้บริจาคจะได้ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในองค์กรจากคอมพิวเตอร์เก่าที่มีอายุการใช้งานเกิน 3-5 ปีแล้ว ยังสามารถส่งต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นมาปรับใช้ใหม่ให้มีจำนวนเพียงพอแก่นักเรียนเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ในทุกวิชา และครูก็สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลและสามารถนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย

ในวันนี้ กรุงเทพมหานครจึงร่วมมือกับ Google และหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย เพื่อต่อยอดความฝันของเราด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนและองค์กรภาคเอกชนต่างๆ มาร่วมกันบริจาคคอมพิวเตอร์เก่าเพื่อนำกลับมาใช้ในการศึกษา ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายทั้งด้านความยั่งยืนทางดิจิทัล (digital sustainability) และช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างยั่งยืนด้วย

อรกัญญา พิบูลธรรม ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่หอการค้าอเมริกันในประเทศไทยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2499 การศึกษาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่หอการค้าฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา หอการค้าฯ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศไทยแล้วกว่า 3,100 ทุน ให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษากว่า 860 แห่ง และมอบเงินทุนสนับสนุนด้านการศึกษารวมเป็นจำนวนกว่า 190 ล้านบาท

เนื่องด้วยหอการค้าฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้และต้องการช่วยส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาที่ด้อยโอกาส เราจึงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนโครงการห้องเรียนดิจิทัลของ กทม. อย่างเต็มที่ โดยจะช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ในหมู่นักธุรกิจชาวต่างชาติ และร่วมมือกับสมาชิกของหอการค้าฯ เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่คุณชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งไว้ 

ส่วนองค์กรที่ยินดีมอบคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กเก่าให้ในงานเปิดตัวนี้ มีสองรายคือ เอไอเอส และเงินติดล้อ รวมกันกว่า 300 เครื่อง ช่วงท้ายทาง Google ยังย้ำความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการศึกษาและลดช่องว่างดิจิทัล เพื่อให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่

สำหรับใครที่อยากร่วมบริจาคคอมพิวเตอร์เก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว สามารถไปดูรายละเอียดได้ที่ http://digitalclassroom.bangkok.go.th/ หรืออยากดูของ ChromeOS Flex ก็ไปที่ https://edu.google.com/intl/ALL_th/chromebooks/chrome-os-flex

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส