บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์ทางธุรกิจปี 2560 ภายใต้แนวคิด “CONNECTING THAIS FOR SUSTAINABLE GROWTH” มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น ภาคธุรกิจและผู้บริโภค ตลอดจนภาคชุมชน สังคมและประเทศชาติ
ภายใต้แนวคิด “CONNECTING THAIS FOR SUSTAINABLE GROWTH” อินทัชมุ่งพัฒนาธุรกิจผ่านการทำงานในสามส่วนหลักดังนี้:
- การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น: มุ่งเน้นการบริหารสินทรัพย์ และการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น ด้วยการลงทุนและบริหารงานในธุรกิจโทรคมนาคม สื่่อ และเทคโนโลยี
- การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจและผู้บริโภค: โดยบริษัทจะแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจโทรคมนาคม สื่่อ และเทคโนโลยี อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการตั้งงบในการศึกษาวิจัยและพัฒนาธุรกิจใหม่ จำนวน 250 ล้านบาท เพื่อหาโอกาสลงทุนในดิจิตอล เซอร์วิส IoT และบิ๊ก ดาต้า
- การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ภาคชุมชน สังคมและประเทศชาติ: โดยยึดมั่นหลักการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติ และพร้อมที่จะสนับสนุนส่งเสริมการสร้างคุณค่าและประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กรธุรกิจ สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals – SDGs)
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะบริษัทด้านการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ เป้าหมายหลักในการดำเนินงานของบริษัทฯ คือการสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว และหนึ่งในกลยุทธ์ของเราก็คือการขยายธุรกิจให้มีความหลากหลาย เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับสังคม และผู้ถือหุ้นได้
“ภายใต้แนวคิด “CONNECTING THAIS FOR SUSTAINABLE GROWTH” อินทัชได้วางกลยุทธ์ไว้หลายด้านในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจการร่วมค้า (Joint Venture) การควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition) และ/หรือการสร้างการเติบโตจากธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งสินทรัพย์ที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีศักยภาพในการต่อยอดไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆเพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคหรือตลาดระดับองค์กร ซึ่งเราเองก็เปิดกว้างในการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้เราสามารถนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า อย่างไรก็ดี อินทัชจะพิจารณาโอกาสทางธุรกิจและคัดเลือกอย่างรอบคอบในการลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน ปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทจัดสรรงบประมาณในการศึกษาวิจัยและพัฒนาธุรกิจใหม่ ในเบื้องต้นอยู่ที่ จำนวน 250 ล้านบาท” นายฟิลิป กล่าว
ในปี พ.ศ. 2559 อินทัชมีผลกำไรลดลงจากปีก่อน 21 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 12,708 ล้านบาท อันสืบเนื่องมาจากการที่ เอไอเอสมีต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ไทยคมมีรายได้ลดลง ทว่าบริษัทก็ยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามกำหนดนโยบายเงินปันผล นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาอินทัชออกจากการลงทุนไป 2 โครงการ โดยได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณร้อยละ 20 รวมทั้งมีการพิจารณาโครงการใหม่ 4 โครงการ เป็นโครงการที่สำเร็จแล้ว 2 โครงการ และอยู่ในระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ ทั้งนี้ อินทัชยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆต่อไป
ปัจจุบันการลงทุนของอินทัช สามารถจำแนกออกเป็น 3 สายธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สาย (AIS) ธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศ (Thaicom) และธุรกิจอื่นๆ (High Shopping และ InVent)
อินทัช เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงสร้างมูลค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม