ธนาคารกสิกรไทยและ LINE จับมือกันตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด โดยธนาคารกสิกรไทยลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น หรือ K Vision ส่วนไลน์ลงทุนผ่านบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ใช้งาน LINE จำนวนกว่า 44 ล้านคนในไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากบริษัท กสิกร ไลน์ จำกัดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 พร้อมตั้งเป้าติด 1 ใน 5 บริษัทชั้นนำที่ให้บริการได้สินเชื่อบุคคลภายใน 5 ปี
คุณพัชรเปิดเผยว่า เรื่องของความเร็วและต้นทุน ธนาคารนั้นสู้บริการไอทีตัวจริงไม่ได้อยู่แล้ว ทำให้การตั้งบริษัทใหม่ที่มีความเป็นไอทีตั้งแต่กำเนิดก็ทำให้ธนาคารปรับตัวในเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งผู้ใช้ส่วนหนึ่งจะกลัวธนาคาร กลัวเรื่องตัวเลข ทำให้กสิกรไทยต้องขยายตัวเองออกมาในแอปไลฟ์สไตล์เพื่อลดภาพน่ากลัวของธนาคารลง
โดยเป้าหมายของกสิกรไทยและ LINE คือร่วมกันสร้างแบรนด์ธนาคารบนแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่ใช้งานง่าย สนุก แตกต่างจากธนาคารรูปแบบเดิม เช่นการสมัครใช้บริการต่างๆ ของธนาคาร การโอนเงิน การซื้อของที่จ่ายจบได้ในแอปเดียว รวมถึงการอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถทำผ่าน LINE ได้อย่างรวดเร็ว เพราะตลาดกู้ยืมเงินนี้มีมูลค่าถึง 5 แสนล้านบาท แต่ธนาคารยังเข้าถึงตลาดนี้ได้ไม่ถึงครึ่ง ซึ่งการทำให้ธุรกรรมง่ายขึ้นผ่าน LINE น่าจะทำให้เข้าถึงการกู้ยืมเงินได้มากขึ้น
ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนี้ กสิกรไทยและไลน์ ได้แต่งตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อร่วมกันทำงานก่อน และกำลังเฟ้นหาบุคลากรที่จะเข้ามาร่วมงานในอนาคต (ไปสมัครงานได้นะ)
เก็บตกรายละเอียดบริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด
- ลูกค้าของ กสิกร ไลน์ ก็ต้องเปิดบัญชีใหม่ ลูกค้า kbank เดิมก็ต้องเปิดบัญชีใหม่ด้วย เพื่อให้เคลียร์ว่าเป็นลูกค้าใคร
- เรตดอกเบี้ยเงินกู้ก็ต้องแล้วแต่ความสามารถในการเข้าใจลูกค้า ดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับว่าธนาคารเข้าใจแค่ไหน ซึ่งบริษัทใหม่จะใช้ข้อมูลออนไลน์เพื่อพิจารณาเงินกู้ เพราะที่ผ่านมาธนาคารไม่สามารถให้คนกลุ่มหนึ่งกู้เงินได้เพราะข้อมูลไม่พอ แต่การจับมือกับ LINE ทำให้มีข้อมูลในการพิจารณาลูกค้ากลุ่มหนึ่งมากขึ้น ทำให้ขยายการกู้เงินส่วนบุคคลมากขึ้น และกระบวนการกู้เงินก็จะง่ายขึ้นด้วย ไม่ต้องกรอกเอกสารเป็นตั้งๆ
- จะมีการเชื่อมโยงบริการกับ rabbit LINE PAY ในอนาคต ซึ่งกสิกรไทยก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดี
- ไลน์ไม่ได้เข้ามา disrupt ธนาคาร แต่เป็นการมาจับมือกับแบงค์ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้เหมือนการแต่งงาน ลงทุนกันเป็นพันล้านบาท เป็นมากกว่าการต่อ api
- ซึ่งไลน์จะไม่จับมือการธนาคารอื่นๆ ในลักษณะนี้อีก