อีก 1 โครงการดี ๆ สำหรับเหล่า Startup รุ่นใหม่ที่ทาง dtac จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 7 กับ dtac Accelerate Batch 7 โดยปีนี้ได้มีการจัดหลักสูตรใหม่ A Academy สำหรับสตาร์ตอัป ที่จัดอยู่ในกลุ่มการลงทุน ระดับซีรี่ส์ A เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในภูมิภาคเอเชียและระดับโลก โดยปีนี้ dtac ได้เปิดเผยว่า ต้องการกลุ่มสตาร์ตอัป 4 สายหลัก ๆ คือ

4 กลุ่มสตาร์ตอัปที่ dtac Accelerate Batch 7 ตั้งใจผลักดัน

  1. Tech Startup ที่เน้นสร้างเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตยุค 5G ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
  2. Smart Farming เพราะประเทศเราเป็นประเทศแห่งการเกษตรที่มีเกษตรกรจำนวนมาก ถ้าได้รับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีแล้ว พวกเขาก็จะสามารถสร้างผลผลิดและผลกำไรขึ้นมาได้อย่างมากมายมหาศาลต่อประเทศชาติ
  3. Health Tech เพราะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เทคโนโลยีด้านสุขภาพก็จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้
  4. Education Tech (Educational Technology) เป็นอีก 1 เรื่องที่คนไทยกำลังตื่นตัวกับภาคการศึกษา เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้เก่งขึ้นกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องศึกษาแค่ในตำราเพียงอย่างเดียว เพราะความรู้ในยุคนี้เปลี่ยนเร็วมาก เราจึงต้องมีการพัฒนาความรู้อยู่ตลอดเวลา

คุณ อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

ดีแทคมีความตั้งใจที่จะนำเอาดีแทค แอคเซอเลอเรท สตาร์ตอัพเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจใน 2 ด้านหลักคือ

  1. สร้างพลังในการขับเคลื่อนองค์กรใหญ่ของดีแทค ไปสู่ Digital Transformationโดยการปรับวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรแบบอไจล์ (Agile) ที่นำเอาแนวคิดการทำงาน และที่ปรึกษาสตาร์ตอัพ จาก ดีแทค แอคเซอเลอเรท เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของพนักงานในองค์กร เพื่อพัฒนางานให้ได้ประสิทธิภาพตามเป้าหมาย
  2. การสร้างระบบนิเวศน์ เป็นหัวใจสำคัญของการเปิดให้บริการ 5G รวมทั้งหากรณีศึกษา เพื่อการใช้งานจริงในโลกธุรกิจ ดีแทค แอคเซอเลอเรท เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของดีแทคจะช่วยผลักดันให้เกิดบริการที่สร้างสรรค์ โดยได้นำเอาแพลตฟอร์มของสตาร์ตอัพ มาช่วยสนับสนุนต่อยอดนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและสังคมโดยการแสวงหาความร่วมมือ จากหลายหน่วยงาน และนำเอาสตาร์ตอัพเข้าร่วมโครงการทดสอบ 5G Testbed สนามทดลองขนาดใหญ่เพื่อเร่งรัดการพัฒนาระบบ 5G โดยมีแพลตฟอร์มจากสตาร์ตอัพ Ooca และ Globlish เข้าร่วมทดสอบด้วยคุณ อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

ปลดล็อคสตาร์ตอัปไทย ขึ้นแท่นยูนิคอร์น

ปัจจุบันดีแทค แอคเซอเลอเรทมีสตาร์ตอัพที่ผ่านการระดมทุนระดับ Series A จำนวน 6 ธุรกิจในขณะที่ยังมีอีก 23 ธุรกิจที่ผ่านการระดมทุนระดับเริ่มต้น (Seed) โดยมูลค่าของการระดมทุนจะอยู่ในช่วง 20,000 – 50,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 600,000 – 1.5 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถระดมทุนต่อไปถึง Series A ได้ ดังนั้นจึงเปิดตัวโครงการ A Academy นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจสตาร์ตอัพเหล่านั้นให้ก้าวไปสู่การระดมทุนระดับ Series A โดยในโครงการนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมสำหรับ การระดมทุนในรอบการระดมทุนที่มีมูลค่าสูง รวมไปถึงการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น และการนำเทคโนโลยีขั้นสูง เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจ เช่น นำการเรียนรู้ของ Machine Learning และ AI มาปรับใช้กับธุรกิจ เป็นต้น

ในโครงการนี้ ได้เชิญ VC ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย เช่น 500Tuktuks/ Golden Gate Ventures/ Line Ventures/ KK Fund และ Monk’s Hill Ventures เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการระดมทุน การจัดรูปแบบด้านการเงิน และแบ่งปันเทคนิคต่างๆ และยังได้ร่วมมือกับ Google Launchpad Accelerator นำหลักสูตรผู้บริหาร ของ Google “Leaders Lab” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรผู้บริหารสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มาฝึกอบรมให้กับสตาร์ตอัพ รวมถึงผู้เชียวชาญด้าน Machine Learning และAI จาก Amazon Web Service และ Google Cloud

หลักสูตร A Academy นับเป็นโครงการที่จะช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถที่จะสร้างมูลค่าของบริษัทให้ได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสตาร์ตอัพสัญชาติไทยที่เป็นหนึ่งในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท ให้กลายเป็นยูนิคอร์นต่อไป สำหรับเป้าหมายของดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 คือ มองหาธุรกิจที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพ เกษตรกรรม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน e-commerce การท่องเที่ยว insurtech และอื่นๆ

การลงทุนในสตาร์ตอัปไทย ตกต่ำลงเป็นปีแรก

ในประเทศไทยมีสตาร์ตอัพไม่ถึง 10% ที่ได้รับการลงทุนจาก Seed ไปถึง Series A อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดีแทค แอคเซอเลอเรท เข้ามาช่วยปลดล็อคการลงทุนใน Series A เพื่อช่วยให้ สตาร์ตอัพไทย เติบโตต่อไปได้

ซึ่งในกลุ่มสตาร์ตอัพ ดีแทค แอคเซอเลอเรท มีถึง 25% ที่สามารถระดมทุนจาก Seed ถึง Series A ซึ่งเราอยากที่จะเพิ่มอัตราส่วนการลงทุนในสตาร์ตอัพไทยให้ได้มากกว่านี้ การลงทุนในสตาร์ตอัพไทยข้อมูลจาก Techsauce Startup Report 2561 ระบุถึงสถิติการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย ตั้งแต่ปี 2558 มีการลงทุนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2561 ที่ผ่านมา การลงทุนลดลงเหลือเพียง 61 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปี 2560 ที่มีจำนวน 105 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะไม่มีการลงทุนในดีลใหญ่ๆที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

สาเหตุหลักที่ไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่มี 3 ประการคือ

  1. นักลงทุนหันไปลงทุนในประเทศ กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าในไทย เช่น ไปลงทุนที่เวียดนาม เนื่องจากมีคนที่มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีที่มากขึ้น ทำให้เวียดนามสามารถดึงดูดนักลงทุนให้ไปลงทุนได้มากกว่า ในเวียดนามมีการลงทุนถึง 890 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 92 ดีล
  2. การแข่งขันที่รุนแรง จากแพลตฟอร์มซุปเปอร์แอป (super app) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ครอบคลุมทุกบริการ และต้องการให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้งานเป็นประจำทุกวัน ทำให้สตาร์ตอัพในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง ต้องออกจากธุรกิจไป เนื่องจากสู้กับซุปเปอร์แอปเหล่านี้ไม่ได้ เช่น Line และ Grab ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซุปเปอร์แอปดังกล่าว แสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตร หรือควบรวมกิจการ สร้างอีโคซิสเต็ม ขยายบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองผู้ใช้งานได้ครบครันในแอปเดียว เช่น บริการ ส่งของ ส่งอาหาร บริการด้านการเงิน ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกสบาย โดยไม่ต้องใช้แอปอื่น
  3. ต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost: CAC) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสตาร์ตอัพจำนวนมากจึงเริ่มที่จะเปลี่ยนรูปแบบจาก B2C (Business to Consumer) คือ การที่ธุรกิจขายสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆไปโดยตรง ไปสู่ B2B (Business to Business) ทำธุรกิจโดยขายสินค้าหรือบริการ ให้กับลูกค้าที่เป็นลูกค้าองค์กร ไม่ใช่รายบุคคล เพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งรูปแบบธุรกิจ แบบ B2B ที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบก้าวกระโดด (scalable business model) ได้นั้นก็ทำได้ยากคุณสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท

ในปี 2561 ที่ผ่านมา มีการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัปสัญชาติไทยทั้งสิ้น 34 รายการ โดยมีมูลค่าระดมทุนทั้งสิ้น 61 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมี 7 รายการที่เป็นสตาร์ตอัพจาก ดีแทค แอคเซอเลอเรท โดยมีมูลค่าระดมทุนทั้งสิ้น 11 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่ากับ 17% ของการลงทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจสตาร์ตอัพไทยที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Fastwork ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงที่สุดในระดับ Series A ที่ผ่านมา นอกจากนี้ Ricult เองก็ได้รับการระดมทุนระดับ Seed Fund ที่สูงที่สุดของหมวดเกษตรกรรมประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันดีแทค แอคเซอเลอเรท มีสตาร์ตอัพในโครงการรวมทั้งสิ้น 46 ธุรกิจ ซึ่งมีอัตราความสำเร็จของธุรกิจคิดเป็น 70% โดยคิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท และมีปริมาณการระดมทุนคิดเป็นมูลค่า 870 ล้านบาท

ดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 เปิด 2 หลักสูตร คือ

  1. หลักสูตรบ่มเพาะสตาร์ตอัพน้องใหม่ ทั้งในระดับ Incubator Track สำหรับ ผู้ที่มีไอเดีย แต่ยังไม่เกิดเป็นธุรกิจและ Accelerator Track สำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว

  2. หลักสูตร A Academy สำหรับสตาร์ตอัพในครอบครัวดีแทค แอคเซอเลอเรท ที่จัดอยู่ในกลุ่มการลงทุนระดับ ซีรี่ส์ A โดยร่วมกับ Google / 500 สตาร์อัพ และ VCs กลุ่มนักลงทุนชั้นนำในเอเชีย เป็นการสนับสนุนเส้นทางการหาเงินทุน ที่จะช่วยให้สตาร์ตอัพได้เงินทุนในมูลค่าถึง 100 ล้านเหรียญ และช่วยผลักดันสตาร์ตอัพในครอบครัวดีแทค แอคเซอเลอเรท ได้เป็นยูนิคอร์นจากประเทศไทย เป็นรายแรก

Partner ผู้สนับสนุน dtac Accelerate Batch 7

  • KBTG นั้นตั้งใจเข้ามาเป็น partner ในครั้งนี้เพื่อต้องการเรียนรู้จาก Community ว่าปัจจุบันเทรนด์ต้องการอะไรมากขึ้น โดย KBTG ยังเปิดโอกาสให้เหล่าสตาร์ตอัปเข้ามา ใช้งาน Innovation sandbox เพื่อทดลอง Use case ซึ่งจะมีทั้งฝั่ง Machine Learning และ Block chain รวมไปถึงด้าน Cyber security
  • LINE Scaleup จะเป็น 1 ใน oppunity สำหรับ startup ที่ผ่านช่วง Accelerate มาแล้ว เพราะ LINE จะเป็น 1 ในตัวช่วยผลักดัน Startup ไปสู่ระดับ Globalization ได้
  • เมืองไทยประกันชีวิต เป็น Partner ในด้านครอบครัว ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิตก็เน้นการทำงานในส่วนนี้อยู่แล้ว ซึ่งทุก ๆ ปีก็จะมีทีมที่เข้ามาช่วยให้โอกาส startup รวมไปถึงการมอบ group health benefit ให้กับกลุ่ม startup กว่า 10 ล้านบาท
  • siriventures เป็นปีที่ 2 ที่เข้ามาสนับสนุน dtac accelerate ซึ่ง siriventure จะขยายมาเป็น Health Tech เพราะลูกบ้านหลาย ๆ คนเริ่มเข้าสู่ Ageing Society โดยปีนี้จะเปิดตัว The first Prop tech Sandbox สำหรับ Startup โดยเป็น playground ให้กับ startup เพื่อทดสอบ concept และ solution ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ
  • ExpresSo จาก ปตท. ได้เปิดเผยว่า ทาง ปตท. ก็มี PTT Innovation Labs โดย focus ไปทางด้าน EV หรือพลังงานบริสุทธิ์ โดยมีทีม Connect startup ต่าง ๆ กับ corporate ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้

สำหรับใครที่สนใจ dtac Accelerate Batch 7 ก็เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 เมษายนนี้ สามารถส่งใบสมัครได้ที่นี่เลยครับ

https://accelerate.dtac.co.th/en/home