Primetime บริการสตรีมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและซี่รี่ย์ฝรั่งเปิดตัวให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นพร้อมให้บริการหนังใหม่หลังจากลาโรงเพียงแค่ 2-3 เดือน พร้อมใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย
แม้ว่าวงการ Streaming ภาพยนตร์บ้านเราจะไม่ได้ร้อนแรงเท่าอเมริกาแข่งขันกันดุเดือด จนรายได้ของผู้ให้บริการหนังออนไลน์แซงหน้าผู้ให้บริการเคเบิ้ลรายเดิมๆ ไปแล้ว แต่เมื่อเทคโนโลยีมาจ่อคอหอยขนาดนี้ ทั้งทีวีที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์พกพารุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแถมจอชัดยิ่งกว่าจอทีวี ไม่ช้าก็เร็วการชมสื่อบันเทิงผ่าน Streaming ก็จะกลายเป็นรูปแบบความบันเทิงมาตรฐานที่ใครๆ ก็ชมได้ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้จึงมีหลายบริษัทในไทยที่พยายามนำเสนอรูปแบบการให้บริการภาพยนตร์ผ่านระบบ Streaming และบริการน้องใหม่ แต่ประสบการณ์ของผู้ให้บริการไม่ใหม่เลยอย่าง Primetime ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ครับ
จุดเด่นของ Primetime
จุดเด่นของ Primetime ที่แตกต่างจากบริการอื่นๆ นั้นแบ่งออกเป็น 3 แง่คือ
แง่เนื้อหา
- ได้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จาก 6 ค่ายใหญ่ของโลกอย่าง Walt Disney, Warner Bros., 20th Century Fox, Paramount, NBC Universal, Sony Pictures ทำให้ครอบคลุมหนังฮอลลีวูดส่วนใหญ่
- มีหนังใหม่ที่เรียกว่า Premier Movie ซึ่งจะให้บริการหลังจากหนังลาโรงไปเพียง 2-3 เดือน
- บริการบุฟเฟ่หนังคลาสสิกให้กดดูได้ไม่อั้น
- บริการซี่รี่ย์ยอดนิยมของอเมริกามาให้ดู โดยบางเรื่องจะฉายทันเท่ากับที่ฉายในทีวีของอเมริกา
แง่เทคโนโลยี
- นำระบบเสียง dts Surround 5.1 มาใช้กับการสตรีมภาพยนตร์เป็นรายแรกในโลก ทำให้แม้ฟังผ่านหูฟังทั่วไปก็ฟังเสียงเซอร์ราวรอบทิศทางได้
- รองรับการสตรีมภาพยนตร์สูงสุดที่ระดับ 4K (แต่จะต้องเปิดจากแอปบน SmartTV โดยตรง และค่าบริการจะแตกต่างจากภาพยนตร์ปกติ)
- สามารถรับชมได้ทั้งผ่านเบราว์เซอร์ในคอมพิวเตอร์ และผ่านอุปกรณ์พกพาทั้ง iOS และ Android
- สนับสนุน Apple TV และ Chromecast สามารถเปิดวิดีโอจาก Smart Device ไปออกจอทีวีได้เลย และในอนาคตจะสนับสนุนกล่อง ZipTV ด้วย
- สามารถบีบหนังได้เล็กจนสตรีมผ่าน 3G ได้ (เรื่องหนึ่งตก 7-8 ร้อยเมกหากใช้ 3G แต่ถ้าดูผ่าน Wifi เพิ่ม bandwidth เป็น GB กว่า)
แง่การจัดจำหน่าย
- เนื่องจาก Primetime นั้นร่วมลงทุนโดย DNA เครือข่ายร้านขายหนัง/เพลงของไทย ร้าน DNA จึงพร้อมขาย Primetime ทันที และในอนาคตร้าน DNA บางส่วนจะเปลี่ยนเป็นร้าน Primetime เพื่อโปรโมตบริการนี้เต็มที่
- เป็นพันธมิตรกับ Com7 ทำให้ร้านในเครืออย่าง iStudio, Banana IT ก็จะมี Primetime จำหน่ายด้วย
- นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตผ่านบัตรเครดิต, PayPal, เคาเตอร์ธนาคาร, ตู้ ATM, Counter Service, Internet Banking ได้ตามปกติ
อัตราค่าบริการ
การคิดค่าบริการของ Primetime นั้นค่อนข้างซับซ้อนกว่าบริการอื่นๆ เพราะตอนนี้มีเนื้อหา 3 รูปแบบหลักที่ต้องคิดค่าบริการคนละแบบกันคือ
- ถ้าต้องการชมหนังคลาสสิกแบบบุฟเฟ่อย่างเดียว 199 บาทต่อเดือน
- ถ้าต้องการชมซี่รี่ย์แบบบุฟเฟ่ 299 บาทต่อเดือน
- ถ้าต้องการชมหนังใหม่ในส่วน Premier Movie เลือกชม 2 เรื่องต่อเดือน + หนังคลาสสิกแบบบุฟเฟ่ 299 บาทต่อเดือน
- ถ้าต้องการชมทั้ง Premier Movie, ซี่รี่ย์แบบบุฟเฟ่, หนังคลาสสิกแบบบุฟเฟ่ เริ่มต้น 399 ต่อเดือน (ถ้าสมัครเป็นรายปี)
- นอกจากนี้ยังมีการขายหนังให้ชมเป็นเรื่องๆ ด้วย
ทั้งภาพยนตร์คลาสสิกและซี่รี่ย์นั้นให้บริการในรูปแบบบุฟเฟ่ กดดูกี่ครั้ง กี่เรื่องก็ได้ อันนี้คงเข้าใจไม่ยาก แต่ในส่วนของ Premier Movie หรือหนังใหม่เพิ่งลาโรง Primetime จะให้บริการในลักษณะเหมือนตั๋วเช่าภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อเริ่มดูแล้วต้องดูให้จบใน 48 ชั่วโมงครับ แต่ถ้าต้องการดูเพิ่มมากกว่า 2 เรื่องต่อเดือน ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงกำหนดราคาว่าจะต้องซื้อเพิ่มกี่บาทต่อ 1 เรื่อง
เก็บตกในงานแถลงข่าว
- ทีมงานหลักของ Primetime นั้นเป็นทีมงานที่เคยสร้าง Hollywood HD มาก่อน
- ในอนาคตจะมีแพ็กเกจที่ขายพร้อม Apple TV และ Chromecast ด้วย (ซึ่งน่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเร็วๆ นี้)
- CTH เป็นหนึ่งในพันธมิตรของ Primetime ในอนาคตจึงอาจมีบริการกีฬา หรือเนื้อหาที่ CTH ถืออยู่ด้วย
- ซึ่งก็หมายความว่า Primetime ไม่ได้มองการบริการแค่ภาพยนตร์ ซี่รี่ย์ แต่เป็นการให้บริการสื่อบันเทิงครบวงจร
รายละเอียดเพิ่มเติม: goPrimetime.tv