Facebook ประเทศไทย ประกาศโครงการริเริ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งโครงการมอบเงินทุนรวมกว่า 40 ล้านบาท และบริการ Facebook Business Suite จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ จัดการเพจและโพรไฟล์ธุรกิจบนแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้นบนอินเทอร์เฟซเดียว

โดยเฟซบุ๊กประเทศไทย ได้จัดตั้งโครงการมอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 โดยเป็นหนึ่งในโครงการมอบเงินทุนช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ระบุจะได้รับเงินทุนสนับสนุนมูลค่ารวมโดยประมาณ 89,000 บาทประกอบด้วยเงินสด 55,600 บาท และเครดิตโฆษณา (ad credit) จำนวน 33,400 บาท รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 40 ล้านบาท ทั้งนี้ หากธุรกิจเลือกขอรับเครดิตโฆษณาด้วย ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหรือเพจบน Facebook เพื่อลงทะเบียนสมัครเข้ารับการสนับสนุนดังกล่าว

หลักเกณฑ์การสมัคร

ธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทยที่ต้องการสมัครเพื่อรับเงินสนับสนุน ต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19
  • มีพนักงานตั้งแต่ 2-50 คน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
  • ประกอบธุรกิจมานานกว่า 1 ปี
  • เป็นองค์กรธุรกิจที่หวังผลกำไร
  • ดำเนินงานอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 6-12 ตุลาคม 2563 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนสมัครได้ที่ facebook.com/business/small-business/grants

เครื่องมือเพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยในการปรับตัว

Facebook Business Suite
Facebook Business Suite

นอกจากนี้ Facebook ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว Facebook Business Suite อินเทอร์เฟซที่ทำงานครอบคลุมแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจในไทยสามารถจัดการช่องทางการดำเนินงานบนแอปพลิเคชันในเครือ Facebook ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นในที่เดียว โดยสามารถเลือกใช้เครื่องมือได้ทั้งแบบที่มีค่าใช้จ่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย

Facebook Business Suite ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถเผยแพร่และจัดการโพสต์ต่างๆ บน Facebook และ Instagram ได้พร้อมๆ กัน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถดูข้อความและการแจ้งเตือนได้ในที่เดียว จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการอัปเดตอยู่เสมอและโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ตัวช่วยจัดการเพจ (Page Manager) จะช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึกจากทั้ง Facebook และ Instagram ผ่านอินเทอร์เฟซใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของธุรกิจรายย่อยยังสามารถไปที่ศูนย์ข้อมูลสำหรับธุรกิจ เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับ รายละเอียดเครื่องมือ และเข้าร่วมคอร์สอบรมออนไลน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยจะช่วยให้ธุรกิจตื่นตัวและเชื่อมต่อกับลูกค้าอยู่เสมอในช่วงเวลาที่ท้ายนี้ เจ้าของธุรกิจยังสามารถเรียกดูการประชุมออนไลน์ต่างๆ ของ Facebook ได้ฟรี พร้อมเรียนรู้แนวทางการบริหารธุรกิจออนไลน์และการปรับตัวแบบเรียลไทม์

การเคลื่อนไหวล่าสุดจาก Facebook ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจจำนวนมากต่างขยับขยายช่องทางการดำเนินงานสู่แพลทฟอร์มดิจิทัลกันมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าในช่วงเวลาที่ท้าทาย โดยร้อยละ 42 ของผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยที่ร่วมทำแบบสำรวจในเดือนกรกฎาคมระบุว่า ยอดขายในเดือนที่ผ่านมาจำนวนร้อยละ 25 หรือมากกว่า มาจากแพลตฟอร์มดิจิทัล ทั้งนี้ Facebook Business Suite จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีประหยัดเวลาและทรัพยากรในการดำเนินงานได้ ในขณะที่ยังสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและชุมชน

หลังจากที่ Facebook ประเทศไทย ได้ริเริ่มกิจกรรม #SupportSmallBusiness ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราพบว่าธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่นี้ โดยผู้ประกอบการหลายรายได้ทุ่มเทสุดกำลังเพื่อปรับตัวและหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ หลังจากที่ได้รับฟังถึงความท้าทายต่างๆ ที่ผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ต้องเผชิญ เราจึงมุ่งช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนด้านเงินทุน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงพัฒนาธุรกิจและฟื้นตัวกลับมาได้ใหม่ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาการเติบโตธุรกิจประจำ Facebook ประเทศไทย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส