วันนี้ (13 กรกฎาคม 2558) บริษัท Mentagram จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้อง GoPro อย่างเป็นทางการในไทย เปิดตัวกล้องแอคชั่นแคมที่ตัวเล็กที่สุดจาก GoPro คือ HERO4 Session และกล้องแอคชั่นแคมระดับบนสำหรับผู้เริ่มต้นอย่าง HERO+ LCD
GoPro HERO4 Session
จุดเด่นของ HERO4 Session คือมีขนาดเล็กลง 50% และเบากว่า GoPro ดีไซน์เดิม 40% แถมยังกันน้ำลึก 10 เมตรในตัวโดยที่ไม่ต้องใช้กล่องกันน้ำ และยังสามารถใช้ได้กับ Mount ของ GoPro ดั่งเดิมได้ทุกตัว ทำให้นำไปติดกับอะไรก็ได้ที่ Mount เดิมสามารถติดได้ จะจักรยาน รถยนต์ หน้าอก สุนัข ฯลฯ ก็ติดได้ทั้งหมด
โดย HERO4 Session นั้นมีความละเอียดวิดีโอสูงสุดที่ 1440p 30 fps และสามารถบันทึกภาพนิ่งได้ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานได้ทั้งการกดปุ่มที่มี 2 ปุ่ม และดูการตั้งค่าผ่านจอเล็กๆ บนตัวกล้อง หรือสามารถดูภาพที่กล้องกำลังถ่ายและควบคุมการทำงานผ่านแอปบนมือถือก็ได้
กล้อง GoPro ครบไลน์ที่มีขายในเมืองไทยตอนนี้ ตั้งแต่รุ่นท็อปจนรุ่นผู้เริ่มต้น
ส่วน GoPro HERO+ LCD เป็นการปรับปรุง GoPro HERO กล้องสำหรับผู้เริ่มต้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งเพิ่มหน้าจอสัมผัสด้านหลังกล้องให้ควบคุมกล้องได้ง่ายขึ้น มองภาพที่กำลังถ่ายได้ โดยสามารถให้คุณภาพภาพสูงสุด 1080p 60 fps และถ่ายภาพนิ่งได้ 8 ล้านพิกเซล ส่วนในแง่ของการใช้งาน HERO+ LCD เป็นกล้องที่อยู่ในกล่องกันน้ำลึก 40 เมตรซึ่งถอดไม่ได้เหมือน GoPro HERO
GoPro HERO4 Session จะเริ่มขายในช่วงปลายเดือนกรกฏาคมนี้ในราคา 14,800 บาท ส่วน HERO+ LCD เริ่มวางขายแล้วในราคา 10,999 บาท
คุณณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเมนทาแกรมเปิดเผยว่าปีที่แล้วมีรายได้กว่า 500 ล้านบาท และเติบโตขึ้นทุกปี โดยเมนทาแกรมเป็นผู้นำเข้า Actioncam รายแรกๆ ในไทย ซึ่งเป้าหมายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 800 ล้านบาท และปีนี้ตั้งใจจัดสัมมนา ให้ความรู้ผู้ใช้ (ก็คาดว่าเพื่อสู้กับแบรนด์อื่นๆ ที่ทะยอยลงสู่ตลาด) และจะมุ่งสื่อออนไลน์มากขึ้น เพราะคนกลุ่มหลักไม่ได้เสพสื่อเดิมมากนัก นอกจากนี้เมนทาแกรมจะจัดทีมรถแข่ง GoPro ไทยด้วย
ผู้ใช้กลุ่มแรกที่ GoPro ทำตลาดในไทย 3 ปีแรกคือกลุ่มคนใช้ชีวิต outdoor กลุ่มผู้เล่นกีฬา Extreme แต่ตอนนี้เริ่มเข้ามาในกลุ่ม Lifestyle มากขึ้น เพราะคนในเมืองก็สามารถใช้ GoPro เพื่อบันทึกวิธีชีวิตได้เหมือนกัน
GoPro แข็งมากเรื่องแบรนด์ มีเนื้อหาจากผู้ใช้แชร์ขึ้นตลอดเวลา แอปก็พัฒนาให้ดีขึ้นตลอด มีเอาไปติดกับโดรนด้วย (ปีหน้าน่าจะเห็นโดรนจาก GoPro) มี GoPro cast เพื่อการถ่ายทอดสด พัฒนากล้องเพื่อให้ถ่ายได้ 360 องศา ในแง่สื่อ GoPro เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ใน MotoGP เพื่อเก็บภาพในมุมแปลกๆ ในสนาม
คุณณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเมนทาแกรม
ในช่วงถาม-ตอบ คุณณัฐพลตอบคำถามสื่อหลายเรื่อง ซึ่งสรุปออกมาได้ดังนี้
- ช่วงปีที่ผ่านมา GoPro มีส่วนแบ่งการตลาด 90% และมีแบรนด์ในระดับเดียวกัน 4 แบรนด์ในตลาด
- ในรุ่นระดับเริ่มต้นมีคู่แข่งเยอะมาก ปีที่แล้วจึงมีรุ่น Hero เพื่อชิงตลาดในกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะดึงผู้ใช้ที่มีงบไม่เยอะให้ได้ลองใช้ GoPro ก่อนที่อนาคตจะอัปเกรดเป็นรุ่นใหญ่ขึ้น
- ปีนี้น่าจะขาย GoPro ได้ราวๆ 40,000 ตัว แบ่งเป็นรุ่น black 30%, silver 60%, hero 10% โดยเป้าหมายอยู่ที่ 800 ล้านปีนี้ น่าจะมาจากอุปกรณ์เสริม 30%
- ปีนี้จะไม่เพิ่มจำนวน dealer เพราะต้องควบคุมไม่ให้ทับไลน์กัน
- สำหรับปีนี้ใช้งบการตลาด 20 ล้าน เทียบกับปีที่แล้วใช้มากกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนนักกีฬา Extreme ในไทย สร้างให้เป็น Hero ให้ได้สัก 10 คน
- แต่ไม่ได้เน้นจัดโปรโมชั่นราคา เพราะจะทำให้คุณค่าของแบรนด์ลดลง และราคาในไทยไม่ได้ต่างจากในอเมริกามากนัก (เมื่อก่อนต่างกัน 3,000 ตอนนี้ต่างกันราวๆ 1,000)
- Aftersale โกโปรไทยก็เซ็ตระบบใหญ่ไว้ มีทีมรองรับ มีอุปกรณ์เปลี่ยนได้ทันที มีเฟซบุ๊กให้รองรับ มีการให้ข้อมูลตลอด
- ถึงคู่แข่งจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งมากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น แต่ก็ทำให้ตลาด Action Cam ใหญ่ขึ้นเช่นกัน มันก็ทำให้ GoPro ขายได้มากขึ้นเช่นกัน เมนทาแกรมจึงแฮปปี้กับส่วนแบ่งการตลาดที่ราว 60%
