realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ครั้งแรกกับการผนึกกำลังจากผู้นำแห่ง 5G ในยุคดิจิทัล กับการจัด Conference ในรูปแบบออนไลน์ในงาน realme 5G ERA Virtual Conference กับการรวบรวมพาร์ตเนอร์คนสำคัญ ผู้มีบทบาทในการขับเคลื่อนศักยภาพและคุณภาพแห่งเทคโนโลยี และเพื่อตอกย้ำการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ realme ที่พร้อมนำพลังแห่งเทคโนโลยีผลักดันและสร้างบันดาลใจให้กับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากตัวแทนพาร์ตเนอร์อย่าง IDC ประเทศไทย, Google ประเทศไทย, Operator 3 ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง AIS, True และ dtac
โดยคุณชัยรัตน์ เศารยะโศภิต Vice President of realme Thailand กล่าวว่า “สิ่งที่ realme มุ่งมั่นจะนำเสนอคือมอบสมาร์ตโฟน 5G ที่มาพร้อมประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ realme จึงได้สร้าง 5G community เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ โดยเราได้จะจัดกิจกรรมแคมเปญมากมาย พร้อมนำเทคโนโลยี 5G มาเปิดประสบการณ์การเชื่อมต่อของคนรุ่นใหม่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และนับจากนี้การนำเสนอ 5G สำหรับทุกคน จะถือเป็นเป้าหมายสำคัญของ realme เราพาคนรุ่นใหม่ทุกคนก้าวเข้าสู่ยุค 5G ไปพร้อมกัน”
ในปี 2020 realme มียอดจัดส่งสมาร์ตโฟนเติบโตเร็วที่สุด โดยมียอดการจัดส่งถึง 50 ล้านเครื่องทั่วโลกภายใน เวลาเพียง 2 ปี ตอกย้ำการเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จากความมุ่งมั่นภายใต้แนวคิด Dare to Leap ที่ realme ยึดมั่นใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดอย่างก้าวกระโดดและนำเสนอผลิตภัณฑ์อันทันสมัย ทำให้ realme มุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยี 5G เพื่อให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ความทรงพลังเร็วแรงของ 5G โดย realme เป็นแบรนด์แรกที่เปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G เจ้าแรกในประเทศไทยและก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ตโฟน 5G ที่มีการเติบโตเร็วที่สุด
โดยคุณธีริทธิ์ เปาวัลย์ ตัวแทนจาก Market Analyst IDC Thailand กล่าวว่า “”ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ตโฟน 5G ในภูมิภาคอาเซียนและด้วยปัจจัยเรื่องความต้องการของผู้บริโภคในการลองใช้เทคโนโลยีใหม่ในราคาที่คุ้มค่าทำให้ realme ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โตเร็วที่สุดในปี 2563 เป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาดสมาร์ตโฟน 5G”” นอกจากนี้ยังมีคุณแทนชนก เอื้อศักดิ์เจริญกุล, Tech & Telco Account Lead, Google Thailand ได้ร่วมกล่าวในหัวข้อ Thailand’s 5G consumer insight & landscape อีกด้วย
ซึ่งสมาร์ตโฟน 5G เปรียบเสมือนเครื่องมือที่สำคัญในการเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่เข้าสู่ 5G Ecosystem หรือ ระบบนิเวศ 5G เป็นการสัมผัสเทคโนโลยีการสื่อสารบนเครือข่าย 5G และประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ผ่านศักยภาพของเทคโนโลยี 5G เพื่อนำไปใช้ในประโยชน์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Cloud Gaming, Interactive Live Streaming การเชื่อมต่อระหว่าง 5G และอุปกรณ์ AIoT เทคโนโลยี AR / VR / XR และอื่นๆอีกมากมาย คุณธวัชชัย ฤกษ์สำราญ ตัวแทนจาก ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูสร้างระบบนิเวศ 5G ที่สมบูรณ์ให้ประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีสุด และ ให้ภาคธุรกิจสามารถแข็งขันได้ในยุคดิจิทัล”
ด้วยเหตุนี้ realme จึงได้สร้าง 5G community เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ โดยเราได้จะจัดกิจกรรมแคมเปญมากมาย นำเทคโนโลยี 5G มาเปิดประสบการณ์การเชื่อมต่อของคนรุ่นใหม่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาทิ แคมเปญ “Empower the next Gen” เพื่อเสริมพลังและสร้างแรงบันดาลใจขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง โดยภายในงาน realme ได้เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มาแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน e-Sport, การเต้น Street Dance, ประกวดหาสุดยอดดีไซน์เนอร์และโมเดล รวมถึงการประกวดถ่ายภาพโดยสมาร์ตโฟน realme 7 5G
ด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของคนรุ่นใหม่ ได้มีเทคโนโลยีเข้ามาบทบาทมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการเลือกใช้อุปกรณ์รอบตัว ต้องเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ
- การเลือกรับชมผ่านรูปแบบ Live Streaming ไม่ว่าจะเป็น ทีวีซีรีส์ การถ่ายทอดสดกีฬาหรือคอนเสิร์ต ในความชัดระดับ Ultra HD 4K/8K
- การเล่นเกมบนระบบ Cloud Gaming
- แอปพลิเคชั่น AR/ VR ใช้งานผ่านระบบที่มีความเสถียรสูง จะสามารถเชื่อมต่อบนสมาร์ตโฟนได้อย่างสมจริง
คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ ตัวแทนจาก AIS กล่าวว่า “นอกจากการนำ 5G มาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมขีดความสามารถในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว AIS ยังให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ 5G ที่ดีที่สุด สู่ผู้บริโภคผ่านการทำงานลงลึกในรายละเอียด ร่วมกับผู้ผลิตมือถือค่ายต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับคุณภาพที่ดีที่สุด ตอบสนองความต้องการในทุกแง่มุมการใช้ชีวิต จากความตั้งใจของ AIS 5G เครือข่ายที่ดีที่สุด คลื่นมากที่สุดในประเทศ”
นอกจาก 5G Community แล้ว realme ยังตั้งเป้าที่เปิดตัว 5G Experience Pop-up Store มากกว่า 10 แห่งทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้มาสัมผัสทดลองใช้งาน 5G และยังมีโซนสำหรับทดลองการเล่นเกมผ่าน Cloud gamine และ AR Live Streaming ได้อย่างสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
ภายในปี 2022 realme ตั้งเป้าเปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G มากกว่า 30 รุ่น คิดเป็น 70% ของสัดส่วนสมาร์ตโฟนทั้งหมด ซึ่งตั้งเป้าเปิดตัวครอบคลุมมากกว่า 50 ตลาดและในขณะนี้ realme อยู่ในระหว่างการดำเนินการขยายฝ่าย R&D เพื่อรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G realme จะจัดตั้งศูนย์ R&D ใน 7 แห่งทั่วโลก เพื่อคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ในปีนี้ realme จะเป็นผู้บุกเบิกให้กับ 10 – 15 ตลาด ในการเป็นเจ้าแรกทดสอบความพร้อมเครือข่ายสำหรับการใช้งานสมาร์ตโฟน 5G
สำหรับประสิทธิภาพการรองรับเครือข่าย 5G ในตัวสมาร์ตโฟน realme ได้เพิ่มเสาสัญญาณขึ้นถึง 4 เท่า การเพิ่มชิ้นส่วนประกอบมากขึ้น ประสิทธิภาพการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ส่งผลให้การใช้พลังงานสูงขึ้น พร้อมกับความร้อนที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น realme จึงได้หยิบความบางและเบาในทุกการสัมผัส มาสร้างเป็นดีไซน์ที่เพรียวบางและโดดเด่นสำหรับสมาร์ตโฟน 5G นอกจากนี้ realme ได้ใช้ชิปเซ็ตที่รองรับ 5G ตัวล่าสุด ทำให้ระบบระบายความร้อนขั้นสูงหรือการชาร์จไวพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน
สำหรับในประเทศไทย realme ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น realme X50 Pro 5G, realme X50 5G, realme 7 5G และ realme X7 Pro 5G ซึ่งในอีก 2 ปีข้างหน้า realme จะลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ ในทั่วโลก ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 5G และผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 5G อย่างแพร่หลายทั่วโลกและมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ 5G ให้กับคนรุ่นใหม่ 100 ล้านคน ภายใน 3 ปี
และสมาร์ตโฟน 5G ตัวล่าสุด ที่ realme กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 21 เมษายนนี้ กับ realme 8 5G โดยมาพร้อมกับสโลแกน 5G ความเร็วไร้ขีดจำกัด และในรุ่นนี้ได้นำเสนอประสบการณ์ชิปเช็ต Dimensity 700 5G พร้อมกับหน้าจอลื่นไหลด้วยรีเฟรซเรต 90 เฮริตซ์ ส่วนความพิเศษอื่น ๆ สามารถรอติดตามได้ทางเพจ realme TH https://www.facebook.com/realmeTH
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส