เครือโรงแรม Shangri-La Group ยอมรับว่าระบบไอทีของโรงแรมถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารั่วออกไป
Shangri-La ระบุว่าในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีแฮกเกอร์ที่ใช้วิธีการแฮกอันซับซ้อนจนสามารถลอดผ่านระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนระบบไอทีของเครือโรงแรมเข้าไปล้วงข้อมูลลูกค้าได้สำเร็จ
ข้อมูลที่หลุดออกไปประกอบด้วย ข้อมูลวันเกิด เอกสารยืนยันตัวบุคคล หมายเลขหนังสือเดินทาง และรายละเอียดบัตรเครดิต
อสังหาริมทรัพย์ของ Shangri-La ที่ถูกโจมตีมีมากกว่า 8 แห่งทั้งใน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย ในจำนวนนี้มีทั้งโรงแรม และอะพาร์ตเมนต์
การแฮกดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการประชุม Shangri-La Dialogue ซี่งเป็นการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศด้านกลาโหม ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ โรงแรม Shangri-La ในสิงคโปร์
ในการประชุมครั้งนั้นมีทั้งผู้นำญี่ปุ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกลาโหมจากทั้งสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส จีน เยอรมนี ออสเตรเลีย ไทย และอีกหลายประเทศเข้าร่วมด้วย
กระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมข้างต้นออกมาระบุว่าได้ประสานงานกับ Shangri-La เพื่อร่วมกันประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้แทนของกระทรวงที่ไปเข้าร่วมงานแล้ว
หากข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานในครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกแฮกไปจริง เท่ากับว่านี่ไม่ใช่เป็นเพียงความเสียหายครั้งสำคัญต่อวงการโรงแรมเท่านั้น แต่ยังเป็นความเสียหายต่อวงการการทหารของโลกด้วย ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าผู้แทนประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมจะได้เข้าพักโรงแรมที่ตกเป็นเป้าหมายด้วยหรือไม่
ที่มา The Register