หลังจากเข้ามาเป็นเจ้าของและซีอีโอของ Twitter ได้ไม่นานเพียงไม่กี่สัปดาห์ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ก็ได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของ Twitter ไปอย่างสุดโต่ง หรือที่เรียกว่าฮาร์ดคอร์ ตั้งแต่การปลดผู้บริหารระดับสูงออกหลายคน รวมถึงพนักงานอีกกว่าครึ่ง และพนักงานที่วิพากษ์วิจารณ์เขาในแง่ลบ
ล่าสุดมีรายงานว่า มัสก์ได้ทำตามที่เขาเคยสัญญาเอาไว้ตั้งแต่ช่วงแรกที่เสนอเข้าซื้อกิจการของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลกนี้ คือการพิจารณาสถานะบัญชีผู้ใช้ของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
ทั้งนี้ มัสก์จะตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวนี้ตามผลสำรวจของโพลบน Twitter ที่ถูกจัดทำขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งเปิดให้ผู้คนได้ร่วมลงออกเสียงโหวตว่า Twitter ควรคืนสถานะผู้ใช้ให้แก่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้หรือไม่ โดยตัวทรัมป์เองก็มีแนวโน้มว่าจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ในปี 2024 นี้ด้วย
มัสก์ได้ทวีตคำว่า “Vox Populi, Vox Dei” ซึ่งเป็นสำนวนในภาษาลาติน โดยคำว่า Vox นั้นหมายถึงเสียงแห่งแสงสว่าง (Voice), Populi นั้นหมายถึงประชาชน (People) และคำว่า Dei นั้น หมายถึงพระเจ้า (God) โดยมีความหมายรวมกันว่า “เสียงของประชาชน คือเสียงของพระเจ้า” หรือ ประชาชนได้ออกเสียงตัดสินใจในประเด็นนี้
โพลสำรวจนี้ได้ปิดลงหลังจากเปิดให้ผู้คนเข้ามาโหวตในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และมัสก์ได้ประกาศว่า ทรัมป์จะได้รับการคืนสถานะบน Twitter อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นาน บัญชีทวิตเตอร์ @realDonaldTrump ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 88 ล้านคน ก็ได้กลับมาออนไลน์อีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีการทวีตใด ๆ จากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ออกมาบอกว่าเขาจะไม่กลับไปใช้ Twitter ไม่ว่าจะมีการคืนสถานะให้เขาหรือไม่ก็ตาม
ผลโหวตจากโพลสำรวจบน Twitter นี้ ระบุว่ามีผู้คนใจร่วมโหวต จำนวน 15,085,458 คน โดยเป็นคะแนนโหวตให้คืนสถานะทรัมป์ จนวน 51.8% ของผู้ร่วมโหวต
บัญชีของทรัมป์บน Twitter ได้ถูกแบนไปเมื่อต้นปี 2021 ภายหลังจากที่เขาได้ละเมิดกฏของแพลตฟอร์มเกี่ยวกับการชี้นำให้เกิดความรุนแรง โดยเขาได้ทวีตสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงให้บุกเข้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
ในตอนนั้น Twitter ได้ระงับบัญชีผู้ใช้ของทรัมป์เป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมง จากนั้นเพียงไม่กี่วันต่อมาซึ่งเป็นการทำงานวันสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทาง Twitter ก็มีมติให้แบนบัญชีผู้ใช้ของทรัมป์เป็นการถาวร
นอกจากนี้ทรัมป์ยังถูกแบนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อย่าง Facebook และ Instagram ด้วย แต่การแบนจะครบกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 7 มกราคม 2023 ซึ่งจะสอดคล้องกับเช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 พอดิบพอดีเช่นกัน
นั้นจะยิ่งเพิ่มความเข้มข้นให้การแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส